สำรวจ สัตว์รักสันโดษ ฮันนี่แบดเจอร์ นักสู้ไม่กลัวใคร

สัตว์รักสันโดษ

สัตว์รักสันโดษ สิ่งมีชีวิตที่ไม่เคยรู้จักคำว่ากลัว อย่าง “ ฮันนี่แบดเจอร์ ” ( Honey Badger ) ปีศาจตัวน้อยที่รักความสันโดษ มาพร้อมกับความกล้าหาญ และความดุดัน พร้อมที่จะแย่งชิงอาหารจากสิงโต เสือ ไฮยีนา ผู้ที่เป็นถึง สัตว์นักล่าชั้นยอด ของป่าแอฟริกา โดยบล็อกนี้จะพามาชมช่วงชีวิต และความกล้าหาญไม่กลัวใครของปีศาจตัวน้อย นามว่า “ Honey Badger ” สัตว์นักสู้ที่ดุร้ายที่สุด

ที่มาของชื่อ Honey Badger ปีศาจตัวน้อยผู้กล้าหาญ

สัตว์ตัวเล็กที่ได้รับฉายาว่า “ สัตว์ดุร้ายที่สุด ” อย่าง “ ฮันนี่แบดเจอร์ ” เป็นกลุ่มสัตว์จำพวกเลี้ยงลูกด้วยนม ซึ่งจัดอยู่ในอันดับ สัตว์กินเนื้อ วงศ์เช่นเดียวกับเพียงพอน ซึ่งที่มาของชื่อ สัตว์รักสันโดษ โดยทั่วไปของพวกมันมาจาก พฤติกรรมการกินน้ำผึ้งแบบสด ๆ จากรังผึ้งเป็นปริมาณมาก และไม่เคยกลัวผึ้งต่อย

จึงทำให้นักวิทยาศาสตร์ตั้งชื่อให้ว่า Honey Badger นั่นเอง ทั้งนี้ ปีศาจตัวน้อยมีถิ่นกำเนิดในแถบแอฟริกาใต้สะฮารา พวกมันมักอยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 2,600 เมตร หรือประมาณ 8,500 ฟุต

อย่างไรก็ตาม นอกจากจะมีสัตว์ผู้รักความสันโดษ ที่มีความกล้าหาญแบบไม่กลัวใครแล้ว ยังมีสัตว์อีกหนึ่งชนิดที่มีนิสัยรักเดียวใจเดียว อย่าง “ หงส์ ” สัตว์ที่มักมีความสัมพันธ์ระยะยาว ชอบแสดงท่าทีว่ารักกันตลอดเวลา ถือว่าเป็น สัตว์โรแมนติก ที่เป็นถึงสัญลักษณ์แห่งความรัก

ตามติดสิ่งมีชีวิตมหัศจรรย์ สัตว์ที่ไม่เคยกลัวใคร

สัตว์ที่เป็นผู้ชนะที่แท้จริง ในเรื่องของความกล้าหาญ ความดุร้าย ความก้าวร้าว บวกการมีไหวพริบที่ยอดเยี่ยม อย่าง Honey Badger มักตกเป็นเป้าหมายของสัตว์นักล่าชนิดอื่น ๆ แต่สัตว์นักล่าอาจจะต้องคิดทบทวนกันอีกที หากจะเข้าไปยุ่งกับปีศาจตัวน้อย โดยตัวผู้มีความยาวลำตัวประมาณ 70 เซนติเมตรขึ้นไป และมีน้ำหนักเฉลี่ยที่ 10 กิโลกรัม

ส่วนความยาวของหางจะประมาณ 12 – 30 เซนติเมตร ในขณะที่ตัวเมียจะมีสัดส่วนที่เล็กกว่า อย่างไรก็ตาม เมื่อพวกมันเข้าสู่ช่วงอดอยาก อดอาหาร พวกมันจะออกล่าสิ่งมีชีวิตขนาดเล็ก ไปจนถึงขนาดกลางอย่างหนู หรืองู ถึงแม้งูที่จับกินจะมีพิษ แต่พิษก็ไม่สามารถทำอะไรมันได้ เพียงแค่มีอาการระคายเคืองต่อผิวเท่านั้น [1]

ฮันนี่แบดเจอร์ สัตว์ที่ชอบสร้างความประหลาดใจ

สิ่งมีชีวิตที่มักสร้างความประหลาดใจ เพราะแบดเจอร์จะชอบจู่โจมใส่สิงโต สัตว์ที่เป็นถึง สัตว์เจ้าป่า รวมถึงเสือ, ไฮยีนา, ช้าง, งูหลามขนาดใหญ่ บลา ๆ นั่นก็เพราะความขาดแคลนของอาหาร และความต้องการกินเนื้อสัตว์ที่เหมือนกัน

ด้วยการกระทำแบบนี้ ทำให้พวกมันกลายเป็นสัตว์ที่กล้าหาญ ยิ่งตอนที่มันเข้าปะทะกับงูมีพิษ ยิ่งทำให้นักวิทยาศาสตร์ประหลาดใจอย่างมาก และพากันสงสัยว่าทำไมถึงทนต่อพิษงูได้ พวกเขาจึงได้ทำการสำรวจทักษะการล่า รวมถึงพฤติกรรมต่าง ๆ เพื่อต้องการจัดลำดับ DNA

อีกทั้งยังทำการค้นคว้าอีกว่า จะมีสัตว์ชนิดไหนอีกที่เก่งพอ ๆ กับแบดเจอร์ อย่างไรก็ตาม แบดเจอร์ไม่เพียงแค่เป็น สัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมเท่านั้น แต่ยังมีความเป็นผู้ช่วยโรคต่าง ๆ ซึ่งเป็นทางรอดของมนุษย์ และเป็นความหวังของนักวิทยาศาสตร์อีกด้วย [2]

ความกล้าหาญ สัตว์รักสันโดษ นักสู้ที่กล้าจู่โจมสัตว์นักล่า

สัตว์รักสันโดษ

อย่างที่ทราบกันดีว่า ปีศาจตัวน้อย ๆ สามารถกินน้ำผึ้งบนรังผึ้งได้สบาย โดยที่ไม่เกรงกลัวว่าผึ้งจะต่อย อีกทั้งยังกล้าที่จะเข้าปะทะจู่โจม กับสัตว์นักล่าที่มีขนาดใหญ่อีกด้วย นอกจากวีรกรรมนี้แล้ว สัตว์รักสันโดษ ยังมีวีรกรรมสุดแสบอีก ไม่ว่าจะเป็น การกินงูพิษที่บุกรังผึ้ง เพื่อที่จะขโมยน้ำผึ้งกินเอง การขโมยอาหารจากเสือชีตาห์ที่กำลังหิวโหย การเข้าขโมยอาหารในรังของสุนัขจิ้งจอก

หรือการขโมยลูกเสือชีตาห์ เป็นต้น ด้วยความห้าวขนาดนี้ คงจะเป็นเคล็ดลับของความแข็งแกร่ง เมื่อพวกมันจะต้องเผชิญหน้ากับสัตว์นักล่าอื่น ๆ เมื่อไหร่ที่จะขโมยอาหาร หรือออกล่าหาอาหาร แบดเจอร์จะส่งเสียงขู่คำราม และปล่อยระเบิดด้วยกลิ่นเหม็น พุ่งใส่หน้าของศัตรูทันที จากนั้นจะเข้าจู่โจมทำร้ายในแบบที่ไม่กลัวใคร [3]

พฤติกรรม และนิเวศวิทยาด้านต่าง ๆ

ฮันนี่แบดเจอร์ส่วนใหญ่มักอยู่ตัวคนเดียว และออกล่าหาอาหารเพียงตัวเดียวเช่นกัน แต่ก็มีบางครั้งที่พวกมันจะออกล่าเหยื่อเป็นคู่ แต่ส่วนมากจะพบมากที่สุดในฤดูผสมพันธุ์ อีกทั้งยังเป็นสัตว์ที่มีทักษะการขุดดิน สามารถขุดดินแข็งจนเป็นอุโมงค์ลึกได้ ซึ่งอุโมงค์ก็จะเหมือนเป็นที่อยู่อาศัยเพียงชั่วคราว โดยจะมีความยาวประมาณ 1 – 3 เมตร ทั้งนี้ พวกมันเป็นสัตว์ที่ขึ้นชื่อเรื่องความดุร้าย

ความแข็งแกร่ง และความทนทาน เป็นที่ทราบกันดีว่า ทุกสายพันธุ์ของปีศาจตัวน้อย มีความดุร้ายในแบบที่ไม่กลัวใคร แถมยังสามารถขับไล่สัตว์นักล่า ที่ตัวใหญ่กว่ามาก ๆ อย่าง เสือ, สิงโต, ไฮยีนา หรือหมาป่า ผู้ที่เป็นถึง สัตว์ผู้ล่าชั้นยอด ได้อีกด้วย อีกทั้งยังชอบกินน้ำผึ้งบนรังผึ้ง ในแบบที่ไม่กลัวโดนผึ้งต่อย เพราะหากพวกมันโดนผึ้งต่อย ผิวหนังก็ไม่ระคายเคืองแม้แต่น้อย

ความสัมพันธ์ สัตว์รักสันโดษ ร่วมกับมนุษย์

สำหรับปีศาจตัวน้อย ๆ ได้มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับพวกมัน ในปี พ.ศ. 2550 ที่ว่า ฮันนี่แบดเจอร์กินคน ซึ่งเรื่องนี้ได้แพร่สะพัดในหมู่ประชากรในพื้นที่ ของเขตปกครองบัสบรา ซึ่งประชากรคิดว่าแบดเจอร์ สัตว์รักสันโดษ เป็นสัตว์พื้นเมืองในภูมิภาค โดยปกติเป็นอันตรายอยู่แล้วหากอยู่ใกล้มนุษย์

แต่หากมนุษย์มีการยั่วยุ หรือกลั่นแกล้ง นี่อาจเป็นสาเหตุที่พวกมันกินมนุษย์ได้ นอกจากนี้ ยังมีรายงานเพิ่มเติมอีกว่า แบดเจอร์ได้ขุดศพมนุษย์ขึ้นมาในอินเดีย อีกทั้งประเทศเคนยามีการรายงานว่า แบดเจอร์เป็นแหล่งเพาะพันธุ์โรคพิษสุนัขบ้า จนเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้โรคนี้เกิดขึ้นในวงจรชีวิตสัตว์ป่า เป็นต้น

สรุป สัตว์รักสันโดษ

อีกหนึ่งสัตว์ที่รักสันโดษ มีความดุร้าย มีความกล้าหาญ Honey Badger พร้อมจะเข้าจู่โจมสัตว์นักล่าอื่น ๆ ด้วยความห้าวกว่าใคร และไม่เคยกลัวใครอีก จึงทำให้ฮันนี่แบดเจอร์เป็นสัตว์ที่แข็งแกร่งอย่างมาก และเป็นตัวตึง ตัวแสบของแอฟริกาใต้สะฮารา ทั้งนี้ มนุษย์เองก็ไม่ควรจะเข้าใกล้ เพราะเคยมีการรายงานว่า พวกมันทำร้ายมนุษย์จนเสียชีวิต

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน
Picture of Pet Noi
Pet Noi

แหล่งอ้างอิง