เปิดแฟ้ม โคอาล่า สัตว์คว้าแชมป์ นอนนานที่สุดในโลก

โคอาล่า

โคอาล่า สัตว์เลี้ยงที่สร้างรอยยิ้ม ให้กับคนในประเทศญี่ปุ่น สัตว์ที่มีฉายาขี้เกียจที่สุดในโลก แต่บางคนคงจะบอกว่า สลอธคือสัตว์ที่ขี้เกียจที่สุด แต่ความจริงแล้ว สัตว์ขี้เกียจที่นอนนานที่สุดในโลก คือ “ Koala ” เพราะวันหนึ่งน้องนอนไปแล้ว 21 – 22 ชั่วโมง คิดเป็นค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 87.5%

ถิ่นที่อยู่ โคอาล่า ( Koala ) สัตว์เลี้ยงนักนอน

“ Koala ” หรือที่เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “ หมีโคอาล่า ” จัดอยู่ในจำพวกโอพอสซัม แต่ไม่ใช่จำพวกหมี ตัวเมียจะมีกระเป๋าหน้าท้อง สำหรับให้ลูก ๆ อาศัยอยู่ ด้วยลักษณะหน้าตาที่คล้ายกับหมี ทำให้นิยมเรียกหมีโคอาล่า หรือหมีต้นไม้ ส่วนใหญ่ โคอาล่า จะอาศัยอยู่ในป่า ที่มีต้นยูคาลิปตัส ปัจจุบันพบได้ที่ประเทศญี่ปุ่น, รัฐเซาท์ออสเตรเลีย, รัฐวิกตอเรีย, รัฐควีนส์แลนด์ และรัฐนิวเซาท์เวลส์ [1]

โคอาล่า ชื่อนี้มีที่มา

โคอาล่า

เมื่อปี ค.ศ. 1798 มีบันทึกเกี่ยวกับการ พบเจอน้องหน้าหมีครั้งแรก ข้อมูลรายละเอียดเริ่มถูกตีพิมพ์ ลงในซิดนีย์กาเซ็ตต์ ค.ศ. 1816 นักธรรมชาติวิทยา ได้ตั้งชื่อทางวิทยาศาสตร์ ให้ชื่อว่า “ Phascolarctos ” ซึ่งมาจากภาษากรีก โดยชื่อนี้แปลว่า “ กระเป๋าหน้าท้องของจิงโจ้ ”

ต่อมานักธรรมชาติวิทยา ได้ตั้งชื่อที่เฉพาะเจาะจง คือ “ Cinereus ” ซึ่งแปลว่า “ สีขี้เถ้า ” ส่วนชื่อประจำสามัญ คำว่า โคอาล่า มาจากภาษาอะบอริจิน ซึ่งแปลว่า “ ไม่กินน้ำ ” เนื่องด้วยพฤติกรรม ที่น้องเป็นสัตว์ไม่ดื่มน้ำเลย นั่นก็เพราะได้รับน้ำ จากการกินใบยูคาลิปตัสเพียงพอแล้ว [2]

ลักษณะเฉพาะ โคอาล่า

  • วงศ์ตระกูล : Phascolarctidae
  • สกุล : Phascolarctos
  • สปีชีส์ : P. cinereus
  • ความสูง : เพศผู้สูงประมาณ 30.8 นิ้ว ( 78 เซนติเมตร ) เพศเมียสูงประมาณ 28 นิ้ว ( 72 เซนติเมตร )
  • น้ำหนัก : เพศผู้หนักระหว่าง 26 ปอนด์ ( 11.8 กิโลกรัม ) เพศเมียหนักระหว่าง 17.4 ปอนด์ ( 7.9 กิโลกรัม ) ส่วนลูก ๆ แรกเกิดมีน้ำหนักเพียง 0.5 กิโลกรัม
  • อายุขัย : 13 – 20 ปี ขึ้นอยู่กับปัจจัยรอบข้าง
  • เวลาตั้งท้อง : ประมาณ 34 – 36 วัน จะมีลูกเฉลี่ยปีละ 1 ตัว
  • เวลาทำภารกิจส่วนตัว : ไม่ว่าจะเป็น การหาอาหาร, กินอาหาร, ขับถ่าย ผสมพันธุ์ น้องใช้เวลาทำเรื่องเหล่านี้เพียง 2 ชั่วโมง
  • เวลานอน : 21 – 22 ชั่วโมง ร้อยละ 87.5%

ที่มา: กรุงเทพธุรกิจ – เปิดสถิติสัตว์โลกนักนอน “โคอาลา” คว้าแชมป์ นอนนานสุดในโลก [3]

สถานที่พบเจอ โคอาล่า และสถานที่เพาะขยายพันธุ์

โคอาล่า

ปัจจุบันนี้นั้น Koala ได้กลายเป็นสัตว์ที่อยู่ตามสวนสัตว์ต่าง ๆ ทั่วโลก เพื่อจัดแสดงโชว์ แม้กระทั่งในประเทศไทย โดยแต่ละที่จะเพาะขยายพันธุ์ ในสถานที่จัดแสดง หรือสถานที่เลี้ยง ถ้าในประเทศไทยจนถึงเวลา ณ ปัจจุบันนี้ สามารถเพาะขยายพันธุ์ โคอาล่า ได้แล้วถึง 20 ตัว อีกทั้งยังจำหน่ายไปยังสวนสัตว์ต่าง ๆ ทั่วโลก

ถ้าถามว่าในประเทศไทย มีคนเลี้ยงน้องจริงจังหรือไม่นั้น ส่วนน้อยที่จะเห็น เช่นเดียวกับสัตว์แปลกชนิดนี้เช่นกัน กิ้งก่าคาเมเลี่ยน ที่ส่วนน้อยมาก ๆ จะพบเห็นคนเลี้ยงในไทย ส่วนใหญ่จะพบเห็นได้ตาม แถบพื้นที่อินเดีย, แอฟริกา, อาหรับ, สเปน, โปรตุเกส และเกาะมาดากัสการ์ซะมากกว่า

การสื่อสาร โคอาล่า กับพวกเดียวกัน

โคอาล่า จะใช้เสียงในการติดต่อสื่อสารกัน ซึ่งเสียงที่ใช้จะมีหลากหลาย โดยทั่วไป เพศผู้จะส่งเสียงร้องดัง เพื่อประกาศว่าตนอาศัยอยู่ตรงไหน ในขณะที่เพศเมีย จะไม่ค่อยชอบส่งเสียงร้อง แต่หากเมื่อไหร่ที่เพศเมีย ส่งเสียงร้องเสียงดังเมื่อไหร่

นั่นก็เพราะกำลังโกรธเกรี้ยว ก้าวร้าว แต่ถ้าเพศเมียตัวไหนที่มีลูกอ่อน จะเลือกใช้เสียงที่อ่อนโยน แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่ทั้ง 2 เพศ กลัวอะไรบางอย่าง จะส่งเสียงร้องคล้ายกับเสียงเด็กร้องไห้ นอกจากนี้ Koala ยังใช้กลิ่นตัวของตนเอง ทำเป็นเครื่องหมายตามต้นไม้ เพื่อติดต่อหากัน

เปิดเหตุผล โคอาล่า สัตว์ฮีโร่รัก (ษ์) แหล่งน้ำผืนโลก

โคอาล่า

ว่าด้วยเหตุผลที่ทำให้ โคอาล่า กลายเป็นสัตว์ที่น่ารัก อีกทั้งยังมีคนยกย่อง ให้น้องเป็นหนึ่งในฮีโร่ ที่อนุรักษ์แหล่งน้ำของผืนโลกอีกด้วย ซึ่งรายละเอียดมีดังนี้

  • หลายครั้งที่คนเข้าใจว่าน้องเป็นหมี แต่น้องไม่ใช่หมี แค่หน้าตาคล้าย มีกระเป๋าหน้าท้อง เช่นเดียวกับจิงโจ้
  • ชอบนอน วันหนึ่งนอนได้มากกว่า 20 ชั่วโมงต่อวัน
  • เป็นนักกีฬาว่ายน้ำยอดเยี่ยม
  • ชอบเก็บใบยูคาลิปตัสไว้กระเป๋าหน้าท้อง เพื่อเก็บไว้กินทีหลัง
  • ชอบนั่งกอดต้นไม้ในวันร้อนอบอ้าว เพื่อให้ตัวเย็น
  • เพศเมียถ้าถูกจับขังรวมกันเมื่อไหร่ จะมีพฤติกรรมหญิงรักหญิง หรือเลสเบี้ยน

สรุป โคอาล่า สัตว์ผู้รักการนอน

สัตว์ที่ในประเทศไทย ไม่ค่อยมีคนนิยมเลี้ยงกัน ส่วนใหญ่จะเลี้ยงแถวต่างประเทศ น้องไม่ทำอะไรนอกจากนอน แล้วก็นอน นอนวันหนึ่งก็ปาไป 21 – 22 ชั่วโมง หากใครสนใจอยากเลี้ยง อาจจะต้องศึกษาหาข้อมูลก่อน

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน
Picture of Pet Noi
Pet Noi

แหล่งอ้างอิง