เจาะลึก แมวเอลฟ์ Elf Cat ยีนแมวแคระไร้ขน จากสหรัฐ

แมวเอลฟ์

แมวเอลฟ์ สัตว์เลี้ยงหายากจากสหรัฐ อีกหนึ่งสายพันธุ์ ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ด้วยรูปลักษณ์ของหน้าตา และรูปลักษณ์ของลำตัว ทั้งการไม่มีขน ใบหูที่ม้วนงอ หนังที่เหี่ยวย่น หากชื่นชอบยีนนี้ บทความนี้จะพามาเจาะลึก ถึงข้อมูลรายละเอียดอื่น ๆ

แหล่งที่มา แมวเอลฟ์ เหมียวลูกผสมข้ามสายพันธุ์

เอลฟ์ หรือแมวเอเลี่ยนหนังเหี่ยว เป็นลูกผสมข้ามสายพันธุ์ ของเหมียวผู้ดีจากอังกฤษ แต่ถูกพัฒนายีนจาก United States จึงทำให้มีสีให้เลือกถึง 300 สี จนถูกตั้งฉายาให้ว่า “ แมวสีรุ้ง ” อย่าง โอเรียนทัล ซึ่งมูลค่าต่อตัวเริ่มต้นที่ 500 – 1,000 เหรียญสหรัฐ

และอีกหนึ่งสายพันธุ์ที่ไม่มีขน หนังเหี่ยว ถูกเพาะพันธุ์ขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1966 ส่งตรงจากแคนาดา หน้าตาคล้ายกับสัตว์เลี้ยงขององค์ฟาโรห์ อย่าง แมวสฟิงซ์ หรือ Sphynx Cat มูลค่าต่อตัวเริ่มต้นที่ 40,000 – 70,000 บาท ทั้งนี้เหล่าน้อง ๆ ได้ถูกการยอมรับ จากสมาคมแมวโลกมากมาย [1]

ลักษณะทั่วไป แมวเอลฟ์

แมวเอลฟ์
  • ต้นทาง : United States of America
  • กลุ่ม : ไม่มีขนตัวเล็ก
  • ความสูง : เนื่องจากรูปร่างที่ตัวเล็ก เหมือนจะออกมาเป็นเหมียวแคระ มีตัวเลขมาตรฐานที่ 9 – 12 นิ้ว
  • น้ำหนัก : ตัวจิ๋วเล็ก แน่นอนว่า ยีนนี้มีน้ำหนักมาตรฐานที่ 10 – 15 ปอนด์
  • อายุขัย : เฉลี่ยที่ 8 – 14 ปี
  • สี : ส่วนใหญ่สีที่ทาสแมว ตามโซนพื้นที่ใน United States มักจะนิยมเลี้ยงกัน จะมีทั้งสีดำ, เทา, ครีม เป็นต้น
  • อัตราการพบ : หายาก

ที่มา: catster – ข้อมูลสายพันธุ์แมวเอลฟ์: รูปภาพ อารมณ์ และลักษณะนิสัย [2]

ยีนใกล้เคียง ข้อมูลเพื่อการเปรียบเทียบ

สำหรับยีนนี้ มีอีกหนึ่งยีนที่รูปลักษณ์ภายนอก มีความใกล้เคียง หรือเหมือน ๆ กัน ในส่วนของหนังที่เหี่ยวย่น ไม่มีขน แต่อาจจะต่างกันตรงขนาดลำตัว เป็น Gene ใหม่ ถิ่นกำเนิดจากรัสเซีย ขนาดลำตัวขนาดกลาง มีชื่อเรียกอื่น ๆ ว่า Peter Bald อย่าง ปีเตอร์บัลด์ แมวที่ทั้งขี้อ้อน ฉลาด มูลค่าต่อตัวเริ่มต้นที่ 13,800 – 41,400 บาท

สถานรับเลี้ยง แมวเอลฟ์ กับมูลค่าเกือบหลักแสน

แมวเอลฟ์

จากที่รู้กันว่าอัตราการพบ แมวเอลฟ์ นั้น หายากกว่าสายพันธุ์อื่น ๆ แน่นอนว่าค่าตัวจะต้องสูง หากต้องการจะค้นหาสถานรับเลี้ยง ตามแถวโซนสหรัฐอเมริกา หรือตามร้านขายสัตว์เลี้ยงต่างประเทศ

อัตราการพบอาจจะมีน้อยมาก แต่ถ้าบังเอิญเจอ ราคาเริ่มต้นอาจจะสูงกว่า 2,000 ดอลลาร์ ถ้าตีเป็นเงินไทยราว ๆ 73,580 บาท แต่ถ้าหาได้เป็นเกรดประกวด ทาสเหมียวอาจจะต้องเตรียมเงินขั้นต่ำ 100,000 บาทขึ้นไป [3]

สิ่งที่ต้องรู้ เมื่อตัดสินใจเลี้ยง

หลังตัดสินใจเลี้ยงสายพันธุ์นี้ เจ้าของจะต้องแน่ใจก่อนว่า สามารถตอบสนองความต้องการ ไม่ว่าจะทางอาหาร, สุขภาพ, ของเล่น อะไรเหล่านี้ได้ทุกวัน เพราะยีนนี้อาจจะต้องกินอาหาร ที่เป็นเฉพาะเจาะจง ซึ่งไม่เหมือนกับ Gene อื่น ๆ ส่วนเรื่องของสุขภาพนั้น อาจจะต้องคอยระวัง เพราะการไม่มีขนคลุมลำตัว นั่นแปลว่า น้องอาจเสี่ยงบาดเจ็บตามลำตัวได้ง่าย

3 ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสายพันธุ์

แมวเอลฟ์

เป็นสายพันธุ์ลูกผสม : เป็นลูกผสมระหว่าง โอเรียนทัล & สฟิงซ์ ถูกเพาะพันธุ์ครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1966 แต่ถูกพัฒนาเมื่อปี 2004

ได้รับการยอมรับกับองค์กร TICA : ปัจจุบันการจะพบเจอ แมวเอลฟ์ ยังยากพอสมควร แต่ตอนนี้เหล่าน้อง ๆ ได้รับการขึ้นทะเบียน กับองค์กร TICA เป็นที่เรียบร้อย

Gene นี้ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ : เนื่องจากยีนนี้ไม่มีขน อาจไวต่ออุณหภูมิ แนะนำให้เลี้ยงน้องในบ้าน เนื่องจากน้องอาจจะร้อนง่าย ถูกแสงแดดแผดเผา หรือหนาวได้ง่าย ผิวหนังที่บอบบาง มักบาดเจ็บบ่อย

สรุป แมวเอลฟ์ ( Elf Cat )

ยีนลูกผสมระหว่าง โอเรียนทัล & สฟิงซ์ นำเข้าจาก United States of America เป็นน้องเหมียวหนังเหี่ยวย่น ไร้ขน ราคาเกรดปกติเริ่มต้นที่ 2,000 ดอลลาร์ แต่ถ้าเป็นเกรดประกวด ราคาอาจจะถูกอัพสูงขึ้นกว่านี้

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน
Picture of Pet Noi
Pet Noi

แหล่งอ้างอิง