แมวเปอร์เซีย หรือ Persian cat เป็นน้องเหมียวขนสวย ที่คนชอบเลี้ยงอันดับต้นๆ เพราะนอกจากขนยาว สวย หน้าตาของน้อง ยังเรียกว่า So cute แถมยังว่านอนสอนง่าย จึงทำให้ครองใจ ทาสเหมียวได้ไม่ยาก ซึ่งหากใครอยากเลี้ยง มีข้อมูลอะไรต้องรู้บ้าง ติดตามต่อด้านล่าง ได้เลยจ้า
ถิ่นกำเนิดแท้จริงของ แมวเปอร์เซีย คือเขตแดนประเทศตุรกี (ตุรเคีย) และประเทศอิหร่าน ซึ่งคนสมัยก่อน เรียกแถบนี้ว่า “เปอร์เซีย” จึงเป็นที่มาของชื่อ แต่ชาวอิหร่านมักเรียกว่า Iranian หรือ Shirazi และมีข้อมูลว่า ต้นกำเนิดของสายพันธุ์นี้ มีการนำเข้ามาจากอิหร่าน ก่อนจะมาถึงอิตาลี เมื่อปี 1620
หลังจากนั้น ก็ได้รับความสนใจ จากทาสแมวในยุโรปอย่างมาก จนในช่วงต้นของปี 1900 สหรัฐอเมริกา ได้นำเจ้าพวกนี้ ไปขยายพันธุ์ แล้วตั้งชื่อว่า Persian cat ดังเช่นปัจจุบัน
แมวเปอร์เซีย มีขนาดปานกลาง และโครงสร้างที่ใหญ่ โดยแมวตัวเมีย จะมีน้ำหนักตัวประมาณ 3-5 กิโลกรัม ส่วนแมวตัวผู้ มีน้ำหนักเยอะกว่าถึง 4-6 กิโลกรัม ซึ่งทางองค์กร The Cat Fanciers Association (CFA) [1] ระบุลักษณะของน้อง ไว้ดังนี้
ลักษณะภายนอก
ลักษณะนิสัย
โรคที่อาจพบ ในแมวสายพันธุ์นี้ ไม่ต่างจากแมวพันธุ์อื่นนัก แต่ด้วยความที่ แมวเปอร์เซีย มีขนค่อนข้างยาว จึงทำให้พบโรคดังต่อไปนี้ บ่อยกว่าน้องเหมียวตัวอื่น
โรคที่พบบ่อย
การดูแลขนเบื้องต้น
แมวเปอร์เซีย เหมาะบ้านที่สะอาด อากาศถ่ายเท และหากเก็บเสียงด้วยจะยิ่งดี เพราะน้องไม่ชอบความวุ่นวาย หากเสียงดังจนเกินไป อาจก่อให้เกิดภาวะเครียด และอีกหนึ่งอย่าง คือควรมีพื้นที่ว่าง หรือสนามหญ้า ให้น้องวิ่งเล่นพอประมาณ แต่ไม่ควรปล่อยออกนอกบ้าน เนื่องจากขนยาวมาก ทำให้เหงื่อออกง่าย และโรคต่างๆ ตามมา