แมวเนบีลัง หรือที่รู้จักในชื่อทางการว่า “ ลองแฮร์รัสเซียนบลู ” ภาษาอังกฤษว่า “ Longhaired Russian Blue ” สายพันธุ์ค่อนข้างใหม่ที่เพิ่งถูกพัฒนา อีกทั้งยังเป็น Gene ที่หาซื้อยากที่สุด
หากทาสแมวคนไหนโชคดี ที่เจอน้องตามพิกัดจำหน่าย คุณจะได้พบกับเพื่อนซี้ 4 ขา ที่มีความเป็นมิตร ไม่เปล่งเสียงร้องดัง บทความนี้ได้หยิบแฟ้มข้อมูล มาให้เหล่าทาสแมวในไทย ได้มาทำความรู้จักไปพร้อม ๆ กัน
เมื่อปี พ.ศ. 2414 ได้มีการแสดงแมวครั้งแรก มีผู้คนสังเกตเห็นถึง รัสเซียนบลูขนยาว แต่พอหลังการประกวดไป สายพันธุ์นี้ก็ได้เงียบ และความนิยมลดลง จากนั้นไม่นาน Nebelung ได้ปรากฏตัวอีกครั้งในสหรัฐฯ
ซึ่งเป็นผลมาจากการกำเนิด ของเหมียวรัสเซียสีน้ำเงิน ขนยาว ทางสมาคมแมว TICA ได้ออกมาอธิบายว่า เจ้าเหมียวเหล่านี้ เป็นชาวรัสเซียสีน้ำเงิน แต่มีขนปกคลุมลำตัว เป็น Gene ใหม่ที่เพิ่งถูกพัฒนา อีกทั้งผู้เพาะพันธุ์ ก็เป็นชาวอเมริกันที่เริ่มพัฒนา [1]
หากต้องการจะทราบถึง ข้อมูลเกี่ยวกับ Gene ที่มีความใกล้เคียง หรือเหมือนกันกับ แมวเนบีลัง ในด้านของขนที่ยาว มีความเป็นมิตร รวมถึงราคาค่าตัวที่แพงพอ ๆ กัน ไม่ว่าจะเป็น เหมียวสายพันธุ์ที่ถูกแบนเพราะสงคราม
อย่าง รัสเซียนบลู กลุ่มขนสั้นปกคลุมขนาดกลาง มูลค่าเริ่มต้นที่ 90,000 – 100,000 บาท หรือจะเป็นเจ้าเหมียวไร้หาง สายพันธุ์ที่มีอายุเก่าแก่ที่สุด อย่าง แมวซิมริค กลุ่มขนยาวปานกลาง มูลค่าเริ่มต้นที่ 10,000 – 27,000 บาท
เนื่องจากน้องเป็น Gene ใหม่ และค่อนข้างที่จะหายาก อาจจะต้องค้นหาเพื่อให้ได้น้องมา จากบรรดาผู้เพาะพันธุ์ที่เชื่อถือได้ ตามโซนสหรัฐอเมริกา ทาสแมวอาจจะต้องเดินทางไกล เพื่อออกไปค้นหา
ด้วยความหายากของสายพันธุ์นี้ จึงทำให้ แมวเนบีลัง มีมูลค่า 100,000 – 1,300,000 บาท ด้วยมูลค่าค่าตัวที่แพง จึงทำให้ฟาร์มเพาะพันธุ์ในไทย ไม่มีสายพันธุ์นี้ แต่ถ้าร้านขายสัตว์เลี้ยงในไทยมี ราคาอาจจะสูงกว่า 1,300,000 บาทขึ้นไป [2]
ที่มา: MEOW BARN – สายพันธุ์แมวเนบีลัง [3]
ที่มา: PURINA – Nebelung [4]
สายพันธุ์แมวมาใหม่ ติดท็อป 1 ใน 10 หายาก สู่มูลค่าค่าตัว 100,000 – 1,300,000 บาท หากนำมาเลี้ยงในไทย ทาสแมวจะต้องยอมจ่ายแพง และจะต้องรู้วิธีเลี้ยง เพราะสายพันธุ์นี้ ค่อนข้างจะเลี้ยงยากกว่าเหมียวอื่น ๆ