แมวหิมาลายัน สายพันธุ์จากเมืองผู้ดี ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นสายพันธุ์ลูกผสมระหว่าง วิเชียรมาศ + เปอร์เซีย ติดอันดับสัตว์เลี้ยง ที่ทาสแมวนิยมเลี้ยงกันทั่วโลก ด้วยขนฟู ๆ เห็นแล้วน่ากอด พ่วงด้วยความน่ารักอีกหลายประการ มาร่วมกันค้นหาความน่ารัก และรู้จักไปพร้อม ๆ กัน ผ่านบทความนี้
ว่าด้วยประวัติของเจ้าฮิมมี่ เกิดมาจากการผสมข้ามสายพันธุ์ ระหว่าง แมวไทยวิเชียรมาศ เหมียวโบราณที่คนไทยเชื่อว่า เป็นสัตว์เลี้ยงมงคล และเปอร์เซีย ซึ่งถูกผสมข้ามสายพันธุ์ครั้งแรก ในแถบเทือกเขาหิมาลัย
นี่จึงเป็นที่มาของชื่อ “ Himalayan ” จนในที่สุด น้องก็ถูกยอมรับอย่างเป็นทางการ จากองค์กร Cat Fanciers’ Association ( CFA ) ในปี ค.ศ. 1957 จนได้รับความนิยมสูงสุดในปี ค.ศ. 1996 [1]
ในส่วนของสุขภาพนั้น จะมีแนวโน้มเกิดปัญหา เฉกเช่นเดียวกันกับ แมวเปอร์เซีย หรือ Persian Cat น้องเหมียวขนฟู ขวัญใจทาสแมวทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น แผลพุพอง, การติดเชื้อทางเดินหายใจ, เยื่อบุผิวกระจกตาอักเสบ เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีภาวะเสี่ยง ที่จะเป็นโรคหอบหืดในแมวสูง โดยมีอัตราต่อรองที่ 0.37 [2]
สำหรับในส่วนของการดูแลนั้น จะมีอยู่หลัก ๆ 3 ส่วนด้วยกัน ส่วนแรกเลยคือเรื่องออกกำลังกาย น้องเป็นแมวไม่ค่อยกระตือรือร้นสักเท่าไหร่ เจ้าของจะต้องกระตุ้นให้น้องได้ออกแรงบ้าง อย่างเช่น การหาซื้อที่ลับเล็บแมว หาซื้อของเล่น เป็นต้น
ส่วนที่สองเรื่องการดูแลขน ด้วยความที่เป็นแมวขนยาว ควรหมั่นแปรงขน 1 – 2 ครั้งต่อสัปดาห์ เพื่อกำจัดขนตาย และจัดทรงขนให้เงางาม ส่วนที่สามการดูแลสุขภาพโดยรวม หมั่นพาไปฉีดวัคซีน ตามที่สัตวแพทย์สั่ง เพื่อไม่ให้น้องมีภาวะเสี่ยง จะเป็นโรคต่าง ๆ [3]
พิกัดที่เราอยากจะบอกต่อ เป็นเสมือนร้านซื้อ – ขายสัตว์เลี้ยง ในเวอร์ชั่นของออนไลน์ และเวอร์ชั่นของแอปพลิเคชั่น ชื่อว่า Pecgo ซึ่งร้านนี้มีหมวดหมู่สัตว์ให้เลือกมากกว่า 17 รายการ
ไม่ว่าจะเป็น เป็ด, กบ, หมา, แมว, กระต่าย, หนู, งู, เม่น, แมงมุม, ลิง, หมู, แมลง, กิ้งก่า เป็นต้น โดยราคาค่าตัวของ แมวหิมาลายัน ที่เหลืออยู่ในช่องขายสินค้า เริ่มที่ 3,900 – 13,000 บาท น้องเป็นสายพันธุ์ที่ทาสแมวในไทยนิยมเลี้ยง
จึงเป็นสาเหตุว่าทำไม สินค้าให้เลือกถึงมีจำนวนเหลือน้อย หากคุณกำลังมองหาช่องทาง ที่มอบความสะดวกสบาย ไม่จำเป็นเดินตามหาตามร้านขาย ขอแนะนำให้กดลิงก์ ที่แปะไว้ให้ข้างต้น
ก่อนที่บทความ แนะนำโปรไฟล์เจ้าฮิมมี่จะจบลงไป หัวข้อสุดท้ายนี้จะขอให้ความรู้ ในเรื่อง “ ปริมาณการให้อาหารแมวต่อน้ำหนัก รวมถึงจำนวนมื้อที่เหมาะสม ” ถ้าซื้ออาหารแบบแห้งมา เจ้าของควรให้ตัวโตเต็มวัยประมาณ 15 – 18 กรัม ต่อน้ำหนัก 1 กิโลกรัม วันละ 1 – 2 มื้อ
ส่วนของอาหารเปียก ตัวโตเต็มวัยควรให้ที่ 37 – 60 กรัมต่อน้ำหนักตัว วันละ 1 – 2 มื้อ ส่วนอาหารดิบ หรือพวกอาหารบาร์ฟ ควรจะให้ตัวโตเต็มวัยที่ 25 – 37 กรัมต่อน้ำหนักตัว วันละ 1 – 2 มื้อ นอกจากนี้ หากแมวที่กำลังตั้งครรภ์ ควรจะให้น้องต่อวันมากกว่าสัดส่วนข้างต้น
เจ้าเหมียวขนฟู ลูกผสมระหว่างวิเชียรมาศ + เปอร์เซีย ราคาขายตามตลาดสัตว์เลี้ยงตอนนี้ ขึ้นไปที่หลักพัน ไปจนถึงหลักหมื่น อีกหนึ่งสายพันธุ์ ที่ทาสแมวมักจะเลี้ยงกัน