โปรไฟล์ แมวทอยเกอร์ (Toyger) สายพันธุ์คล้ายเสือขนาดใหญ่

แมวทอยเกอร์

แมวทอยเกอร์ สายพันธุ์แมวบ้าน ที่ชื่อน้องเหมือนจะดุร้าย รูปลักษณ์ภายนอกแปลกตา จึงทำให้ดูเหมือน “ ตุ๊กตาเสือของเล่น ” โดยบทความนี้จะพามาเปิดโลก ของสายพันธุ์รักเจ้าของ เป็นมิตรกับคนอื่น แถมยังสร้างมิตรภาพกับสัตว์เลี้ยงอื่น ๆ ผ่านบทความนี้

ประวัติแมวทอยเกอร์ แมวบ้านจากดินแดนสหรัฐ

ว่าด้วยสายพันธุ์นี้ เริ่มมีการพัฒนาในสหรัฐ เมื่อช่วงทศวรรษปี 1980 ผู้เพาะพันธุ์ “ จูดี้ ซักเดน ” ต้องการค้นหาความแตกต่าง ระหว่างเครื่องหมายต่าง ๆ บนลำตัวแมวลาย หลังเห็นความแตกต่าง ภารกิจการพัฒนาเหมียวเสือของเล่น ได้เริ่มต้นขึ้นอย่างจริงจัง

ด้วยการนำแมวบ้านประมาณ 40 ตัว จากหลายประเทศ มาพัฒนาด้วยการเพาะพันธุ์ ซึ่งรวมถึง แมวเบงกอล ( Bengal Cat ) แมวป่าหน้าตาคล้ายเสือ ขนสั้น จนสุดท้ายผู้เพาะพันธุ์ ประสบความสำเร็จในการสร้างน้องขึ้นมา จนในปี พ.ศ. 2536 ได้ถูกการยอมรับจากองค์กร “ TICA ” ในที่สุด [1]

ลักษณะเฉพาะ แมวทอยเกอร์

แมวทอยเกอร์
  • ชื่อเรียกอื่น : “ California Toyger ”
  • กลุ่ม : ขนสั้นขนาดกลาง
  • ลำตัว : ความยาวลำตัว อยู่ที่ 30 – 40 เซนติเมตร
  • ความสูง : มาตรฐานเพศผู้ – เพศเมีย สูงราว ๆ 20 – 25 เซนติเมตร
  • น้ำหนัก : มาตรฐานเพศผู้ – เพศเมีย หนักประมาณ 3 – 7 กิโลกรัม
  • อายุขัย : 12 – 15 ปี บางตัวอายุยืนถึง 18 – 20 ปี ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ และการเลี้ยงดูของเจ้าของ

ลักษณะนิสัย แมวเสือบ้านขนาดใหญ่

ในส่วนของลักษณะนิสัย หรือพฤติกรรมที่น้องเป็นอยู่ ส่วนใหญ่สายพันธุ์นี้เป็นมิตร เข้ากับเจ้าของ รวมถึงคนอื่น ๆ ได้ง่าย ถือว่าเป็นส่วนเสริมที่ดี ให้กับเจ้าของบ้านที่มีเด็กเล็ก หรือสัตว์เลี้ยงอื่น ๆ

อีกทั้งน้องพร้อมจะเล่น และพร้อมได้รับการฝึกให้เชื่อง น้องจึงเหมาะกับเจ้าของที่มีเวลาให้ หากเจ้าของที่มีเวลาอยู่นอกบ้าน มากกว่าอยู่ในบ้าน สายพันธุ์นี้อาจจะไม่เหมาะกับคุณ

ปัญหาสุขภาพ สู่ภาวะเสี่ยงของโรคหัวใจ

แมวทอยเกอร์

สำหรับ แมวทอยเกอร์ เหมียวเสือของเล่น มีสุขภาพโดยรวมที่ดีพอสมควร เนื่องจากเป็นสายพันธุ์ที่ใหม่ และหายาก แต่น้องก็ยังมีความเสี่ยงสูง ต่อการเกิดเป็นโรคหัวใจในแมว, ภาวะหัวใจล้มเหลว, โรคกล้ามเนื้อหัวใจหนาผิดปกติ, ต้อกระจก เป็นต้น มากเกินกว่าสายพันธุ์อื่น ๆ แต่อัตราของภาวะเสี่ยง ณ เวลานี้ ยังมีตัวเลขที่ต่ำ [2]

ขั้นตอนการดูแลเบื้องต้น

ในส่วนของขั้นตอนการดูแล จะเป็นขั้นตอนเบื้องต้น ที่อยากแนะนำทาสแมวมือใหม่ โดยรายละเอียดมีดังนี้

  • อาหารโภชนาการ : สายพันธุ์นี้ ไม่ได้ต้องการสารอาหารเป็นพิเศษ แต่อาหารที่มีคุณภาพ ก็มีความสำคัญต่อสุขภาพ ช่วยให้อายุยืนยาว หากไม่ได้ให้อาหารสด แนะนำให้เลือกแบรนด์เนื้อสัตว์ หรือแบรนด์ที่เป็นปลาแท้
  • การทำความสะอาด : ด้วยความที่เหมียว มีลักษณะขนสั้นปานกลาง เจ้าของจะต้องแปรงขน อย่างน้อย 1 – 2 ครั้งต่อสัปดาห์ และหมั่นตัดเล็บมือ เล็บเท้า อีกทั้งจะต้องแปรงฟัน อย่างน้อย 2 – 3 ครั้งต่อสัปดาห์
  • การออกกำลังกาย : หากบ้านคุณมีคอนโดแมว น้องจะปีนป่ายไปมา และวิ่งด้วยความเร็วสูง เจ้าของจะต้องหาซื้อของเล่น ที่ช่วยกระตุ้นจิตใจ กระตุ้นร่างกาย เพื่อให้มีไหวพริบที่ฉลาด
  • การฝึก : อาจจะมีสอนเทคนิคบางอย่าง และฝึกใช้สายจูง เพื่อให้เชื่องและเชื่อฟัง

ที่มา: MEOW BARN – สายพันธุ์แมวทอยเกอร์ [3]

พิกัดซื้อ แมวทอยเกอร์

แมวทอยเกอร์

อย่างที่ได้บอกไปข้างต้นแล้วว่า เหมียวสายพันธุ์นี้ ค่อนข้างราคาสูง และหายาก หากอยากจะเลี้ยงพันธุ์แท้ ในโลกนี้มีผู้เพาะพันธุ์ไม่ถึง 30 รายในโลก ราคาค่าตัวเฉลี่ย เริ่มต้นที่ 17,250 – 103,500 บาทขึ้นไป ถ้าจะรับเลี้ยงจริง ๆ อาจจะต้องติดต่อศูนย์ช่วยเหลือพันธุ์แท้

บางประเทศได้กำหนดให้เจ้าของ ถ้าจะเลี้ยงจะต้องมีใบอนุญาตก่อนเลี้ยง รวมถึงประเทศไทยด้วย เนื่องจากสายพันธุ์นี้ มีความเกี่ยวข้องกับแมวเบงกอล ซึ่งมีพันธุกรรมทับซ้อนกับแมวป่า นี่อาจเป็นข้อพิจารณาต่อทาสแมว ที่อยากจะเพิ่มสมาชิกภายในบ้าน

สรุป แมวทอยเกอร์ ( Toyger )

น้องเหมียวสายพันธุ์ แมวบ้านขนาดใหญ่ มีความคล้ายเสือ หากจะเลี้ยงในไทย อาจจะต้องเสียค่าตัว 17,250 – 103,500 บาทขึ้นไป บวกเสียค่านำเข้าค่อนข้างสูง อีกทั้งยังจะต้องมีใบอนุญาตก่อนเลี้ยง ทางที่ดีควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจ

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน
Picture of Pet Noi
Pet Noi

แหล่งอ้างอิง