รู้ก่อนเลี้ยง แมงมุมทารันทูล่า สัตว์สุด Cool อันตรายไหม?

แมงมุมทารันทูล่า

แมงมุมทารันทูล่า (Tarantula) หรือชื่อโดยคนไทยว่า “บึ้ง” ซึ่งปัจจุบัน เป็นหนึ่งในสัตว์เอ็กโซติก ยอดฮิตในการเลี้ยง แต่หลายคนอาจสงสัย ว่าเจ้าพวกนี้ ไม่เป็นอันตรายหรือ? เลี้ยงได้จริงไหม? วันนี้เรามาพร้อมคำตอบ และจะพาไปรู้จัก เจ้าบึ้งขนหนา ไม่ว่าจะเป็น ถิ่นกำเนิด ลักษณะ วิธีดูแล รวมไปถึงพิกัด-ค่าตัว ด้านล่าง

ประวัติ แมงมุมทารันทูล่า เจ้าขาปล้องมีเสน่ห์

แมงมุมทารันทูล่า เป็นสัตว์ขาปล้องๆ ที่อยู่ในตระกูล Theraphosidae ซึ่งมีประวัติ มาแล้วนานกว่า 350 ปี โดยวิวัฒนาการรูปร่าง ทำให้พวกมันไปคล้ายกับ แมงมุมท้องปล้อง แต่จะไม่มีปล้องหน้าท้อง ซึ่งส่วนใหญ่ มีโอกาสพบได้เกือบทุกที่ ไม่ว่าจะเป็น ทะเลทราย, ทุ่งหญ้า หรือภายในถ้ำมืด ยกเว้นพื้นที่อากาศหนาวเย็น [1]

ศึกษาข้อมูล แมงมุมทารันทูล่า ก่อนตัดสินใจ

แมงมุมทารันทูล่า

ทารันทูล่า เป็นแมงมุมขนตัวใหญ่ มีด้วยกัน 8 ขา พร้อมก้านดอกอีก 1 คู่ ซึ่งเป็นอวัยวะ ช่วยในการตรวจจับ และใช้ล่าเหยื่อ นอกจากนี้ พวกมันยังมี spinner ที่ส่วนหลังหน้าท้อง ซึ่งใช้สำหรับผลิตใย เพื่อสร้างที่อยู่อาศัย ทางด้านใบหน้า มีดวงตาหลายอัน ที่เรียกกันเป็น 2 แถว และมีขนปอยๆ ทั่วลำตัว

โดยจุดเด่นของ แมงมุมทารันทูล่า คือสีสันหลากหลาย ที่พบเห็นได้ใน 1 ตัว อาทิเช่น น้ำตาลอ่อน-ดำ, สีมะพร้าวแก่, ฟ้าน้ำทะเล, ม่วง, ชมพู เป็นต้น พร้อมกับลวดลายเฉพาะ ส่วนขนาดตัว จะต่างกันตามสายพันธุ์ แต่ส่วนใหญ่จะเริ่มตั้งแต่ 2.5-33 ซม. น้ำหนักราว 170 กรัม และมีอายุเฉลี่ยนานกว่า 20 ปี [2]

สำหรับปัจจุบัน เจ้าแมงมุมพันธุ์นี้ ถูกค้นพบมาแล้วถึง 900 ชนิด แต่ในประเทศไทย พบหลักๆ เพียงแค่ 4 ชนิด [3] ได้แก่

  1. Haplopelma minax หรือ บึ้งดำ ชนิดแมงมุมที่พบมากสุด มีขนาดตัวใหญ่ สีดำล้วนทั้งตัว และมีนิสัยไม่ค่อย friendly
  2. H. lividum หรือ บึ้งน้ำเงิน มีขนาดเล็กลงมา บางตัวน้ำเงินล้วน บางตัวน้ำเงินเฉพาะส่วนล่าง และมีนิสัยดุ เหมือนกับตัวแรก
  3. H. albostriatum หรือ บึ้งม้าลาย ชนิดนี้พบน้อยสุด และดุร้ายไม่เท่า 2 ตัวแรก มีเอกลักษณ์คือ ลวดลายบริเวณขา และก้น
  4. Chilobrachys huahini หรือ บึ้งน้ำตาล จุดเด่นคือสีน้ำตาลล้วน คล้ายมะพร้าวแห้ง ไม่ค่อยมีลวดลาย และยังไม่มีข้อมูลแน่ชัด ในการค้นพบ

วิธีลี้ยง แมงมุมทารันทูล่า และทุนสำหรับใช้จ่าย

แมงมุมทารันทูล่า

ถึงแม้ว่า แมงมุมทารันทูล่า จะมีความสวยงาม แต่มันยังได้ชื่อว่าเป็นสัตว์พิษ ซึ่งเป็นเขี้ยว คล้ายกับเงี่ยง อย่างไรก็ตาม พิษของมันไม่รุนแรงนัก หากถูกกัด จะคล้ายกับผึ้งต่อย ยกเว้นในกรณี ที่ผู้ถูกกัด มีอาการแพ้ อาจเป็นอันตรายถึงชีวิต ดังนั้น ทางที่ดี คือเลี้ยงน้องอยู่ในกล่อง ไม่ควรนำออกมาเล่น

ซึ่งโดยทั่วไป พวกมันจะอยู่บนดิน และขุดรูลึกราวๆ 40 ซม. เป็นที่อยู่อาศัย ผู้เลี้ยงจึงต้องเตรียม กล่องไซส์ใหญ่ ที่มีพื้นที่กว้าง พร้อมอุปกรณ์ต่างๆ ได้แก่ ดิน, ท่อนไม้, ถ้วยน้ำ และของตกแต่งที่ชอบ จากนั้นทำตาม วิธีเลี้ยงด้านล่าง [4]

  • ใส่ดินลงกล่อง ประมาณ 1 ส่วน 4 หรือ 25%
  • ตกแต่งด้วยอุปกรณ์ ทั้ง ท่อนไม้, ถ้ำปลอม, ถ้วยน้ำ แล้วปล่อยน้อยเข้าบ้าน
  • ปิดกล่อง แล้วนำไปไว้บริเวณ ที่แดดส่องถึงอ่อนๆ อย่างน้อย 4-5 วัน
  • วันที่ 6 ค่อยลองให้อาหาร เช่น หนอนนก, จิ้งหรีด, แมลงสาบดูเบียร์ เป็นต้น

ในส่วนของทุนสำหรับใช้จ่าย ทั้งค่าตัว ค่าอาหาร และค่าของตกแต่ง สรุปโดยรวม ตามรายละเอียด ต่อไปนี้

  • ค่าตัว : อ้างอิงจากเว็บไซต์ Pecgo ร้านค้า RayAraneaeShop พิกัด คลองหลวง ปทุมธานี ขาย Maxican red rump tarantula สายพันธุ์ Brachypelma albiceps เพศเมีย อายุ 7 เดือน ราคา 1,350 บาท
  • ค่าอาหาร : จิ้งหรีดแช่แข็ง ซื้อใน Shopee ร้านค้า BhanNongFharPlaJuJee ปริมาณ 1 กิโลกรัม ราคา 169 บาท, แมลงสาบดูเบียร์ ซื้อใน Lazada ร้านค้า เฮง​เฮง​ ฟาร์ม​ ขีดละ 150 บาท
  • ค่าอุปกรณ์ : กล่อง+ดิน+ของตกแต่ง ซื้อได้ตามทั่วไป ราคาตามใจคนเลี้ยง

สรุป แมงมุมทารันทูล่า (Tarantula)

แมงมุมทารันทูล่า นอกจากจะเป็นสัตว์ Exotic ประเภทสวยงาม มันยังดูน่าอร่อย ในกลุ่มคนกินของแปลก ซึ่ง โดยเฉพาะเมื่อคุณ ไปเที่ยวประเทศกัมพูชา เมนูแมงมุมทอด ถือว่าฮิตมากๆ จนได้รับฉายาว่า Spiderville หรือหมู่บ้านแมงมุม หากใครเป็นทาสเจ้าตัวขน อาจจะรู้สึกเจ็บจี๊ดๆ

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน
Picture of Jynx
Jynx

แหล่งอ้างอิง