เสือเปโดร (Pedro) ในเรื่อง วันพีซ (One Piece) เป็นตัวละครจากเผ่ามิงค์ (Mink) เผ่าสัตว์ที่อาศัยอยู่บนเกาะโซล (Zou) ซึ่งมีลักษณะคล้ายสัตว์ป่า ผสมมนุษย์ เปโดรเป็นเสือจากัวร์แห่งเผ่ามิงค์ และเป็นนักรบฝีมือดีเยี่ยม มีตำแหน่งเป็นผู้นำของเหล่านักรบในกลุ่ม การ์เดี้ยน (Guardians) บนเกาะโซล ผู้รับหน้าที่ปกป้องต้นแซ่ล รวมถึง โพเนกลีฟ ที่มีเนื้อหาสำคัญต่อประวัติศาสตร์โลก
เสือเปโดร ไม่ได้เป็นผู้ใช้ผลปีศาจ เขาไม่มีพลังพิเศษจากผลปีศาจใดๆ แต่เขามีความสามารถพิเศษจากเผ่ามิงค์ ซึ่งทำให้เขามีทักษะการต่อสู้ ที่แข็งแกร่งตามธรรมชาติ อีกทั้งยังสามารถใช้พลัง ซูลอง (Sulong) ได้ โดยพลังนี้จะเกิดขึ้น เมื่อชาวเผ่ามิงค์อยู่ใต้แสงจันทร์เต็มดวง ทำให้พละกำลัง และความเร็วเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล
รูปร่างของพวกเขา ก็จะดูดุเพิ่มขึ้นอย่างมาก มีแสงสีขาวปกคลุมขน และดวงตาเรืองแสง เปโดรใช้ความสามารถนี้ ในการต่อสู้หลายครั้ง แทนพลังของผลปีศาจ และมีความสามารถสูงเทียบเท่า หรืออาจจะมากกว่าผู้ที่มีพลังผลปีศาจเลยด้วย
ในอดีต เปโดรและเพื่อนของเขา ออกเดินทางจากเกาะโซล เพื่อไปสืบหาความจริงเกี่ยวกับโพเนกลีฟ ตามความเชื่อของเผ่ามิงค์ ที่ผูกพันกับประวัติศาสตร์ แต่เขากลับถูกกลุ่ม โจรสลัดบิ๊กมัม (Big Mom Pirates) จับได้ ในตอนนั้น เปโดรได้พยายามขโมย โร้ดโพเนกลีฟ (Road Poneglyph) ซึ่งเป็นหนึ่งในศิลาลับที่ชี้นำไปสู่เกาะราฟเทล (Raftel) เพื่อทำให้ความฝันของเผ่ามิงค์สำเร็จ [1]
อย่างไรก็ตาม ความพยายามของเขาก็ได้ล้มเหลวลง และบิ๊กมัมลงโทษเขาโดยการใช้พลังของเธอ เพื่อดูดอายุขัยเป็นจำนวนมากของเปโดรไป จนเหลือเพียงไม่กี่ปี นอกจากนี้ บิ๊กมัมยังได้บังคับ ให้เขาสูญเสียดวงตาไปข้างหนึ่ง เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของการลงโทษ ทำให้เปโดรต้องยุติการผจญภัย และกลับไปยังเกาะโซลด้วยความผิดหวัง
เปโดรเป็นผู้นำกลุ่ม การ์เดี้ยน หรือกลุ่ม “ผู้พิทักษ์” (Guardians) แห่งเกาะโซล (Zou) ซึ่งเป็นกองกำลังนักรบ ที่คอยปกป้อง และรักษาความปลอดภัยของต้นแซ่ล และประชาชนเผ่ามิงค์ทั้งหมด กลุ่มการ์เดี้ยนนี้ อาศัยอยู่ในบริเวณที่เรียกว่า ทรีท็อปส์ (Treetops) บนเกาะโซล ซึ่งตั้งอยู่บนหลังของ ช้างยักษ์สุนิชา หน้าที่ของพวกเขาคือการป้องกันต้นแซ่ลที่เป็นแหล่งอาหาร และน้ำของเผ่ามิงค์ [2]
รวมถึงโพเนกลีฟ ที่เป็นมรดกสำคัญของเผ่ามิงค์ เปโดรรับตำแหน่งเป็นกัปตันของกลุ่มการ์เดี้ยน ซึ่งต้องมีความแข็งแกร่ง และกล้าหาญในการปกป้องบ้านเกิด เขาเป็นนักรบที่แข็งแกร่งมาก มีความสามารถในการต่อสู้ทั้งด้วยกำลัง และความว่องไวจากลักษณะเสือจากัวร์ ทำให้เขามีทักษะในการต่อสู้ และการเคลื่อนที่ที่ยอดเยี่ยม เปโดรมีอาวุธประจำตัวเป็นดาบขนาดใหญ่ และมีทักษะการใช้ดาบในระดับสูง
นอกจากนี้ เปโดรยังสามารถใช้พลัง ซูลอง (Sulong) ซึ่งเป็นพลังเฉพาะของเผ่ามิงค์ ที่จะเพิ่มพลัง และความว่องไวเมื่ออยู่ใต้แสงของพระจันทร์เต็มดวง การที่เขาเป็นกัปตันของผู้พิทักษ์ในทรีท็อปส์นั้น แสดงให้เห็นถึงความจงรักภักดีต่อบ้านเกิด และเผ่ามิงค์อย่างสูง เปโดรพร้อมจะเสี่ยงชีวิตได้ทุกเมื่อ และเขายังเป็นผู้นำที่ได้รับความเคารพ จากเพื่อนร่วมทีมเป็นอย่างมาก
เสือเปโดร ได้พบกับลูฟี่หลังจากที่ลูฟี่ และพวกพ้องกลุ่มหมวกฟาง ได้เดินทางมาถึงเกาะโซล เปโดรและเผ่ามิงค์ ก็ได้รับพวกเขาไว้ด้วยความเป็นมิตร พร้อมแบ่งปันข้อมูลเรื่องโพเนกลีฟ ที่เกาะโซลครอบครองอยู่ และเมื่อกลุ่มหมวกฟางมีเป้าหมาย ที่จะไปช่วยซันจิที่ถูกจับไป ยังเกาะท็อตโตะแลนด์ของบิ๊กมัม ซึ่งซันจิถูกบิ๊กมัมจับตัวไป เพื่อบังคับให้แต่งงานกับ ชาร์ล็อตต์ พุดดิ้ง (Charlotte Pudding)
พุดดิ้งเป็นลูกสาวของบิ๊กมัม เป้าหมายของบิ๊กมัมคือ ต้องการที่จะใช้การแต่งงานนี้ เพื่อเชื่อมพันธมิตรระหว่างตระกูล วินสโมค (Vinsmoke) ของเจอร์ม่า 66 (Germa 66) กับกลุ่มของเธอ เพื่อตั้งกองทัพอันทรงพลัง ที่จะสามารถครองแกรนด์ไลน์ได้ เปโดรจึงตัดสินใจร่วมเดินทางไปด้วย เนื่องจากเขามองเห็นว่าเป็นโอกาสที่จะได้แก้แค้น และคิดว่าในครั้งนี้ เขาอาจนำโพเนกลีฟกลับมายังเกาะโซลได้
เมื่อเปโดรและกลุ่มหมวกฟาง เข้ามาในท็อตโตะแลนด์ โดยแอบแฝงเพื่อไม่ให้โดนจับได้ ในที่สุดพวกเขาได้พบกับซันจิ แต่ซันจิรู้สึกสับสน และไม่อยากให้กลุ่มหมวกฟางมาลำบาก เขาจึงปฏิเสธการช่วยเหลือในตอนแรก แต่หลังจากที่รู้ถึงแผนการที่บิ๊กมัม และพุดดิ้ง ที่วางไว้เพื่อสังหารครอบครัววินสโมคทั้งหมด ซันจิจึงตัดสินใจร่วมมือกับลูฟี่ ในการหลบหนีจากการแต่งงานครั้งนี้
โดยมีแผนทำลายพิธีแต่งงาน และเค้กเพื่อทำลายความมั่นคงของบิ๊กมัม เมื่องานแต่งงานเริ่มขึ้น บิ๊กมัมก็ได้เผยความจริงของแผนการ เพื่อกำจัดตระกูลวินสโมค ขณะที่พุดดิ้ง ก็แสดงเจตนาในการหักหลังซันจิ แต่ด้วยความสามารถของซันจิ ในการหลบกระสุนจากพุดดิ้ง จึงทำให้แผนการของบิ๊กมัมล้มเหลว
จากนั้นกลุ่มหมวกฟางก็ได้เริ่มบุกเข้าไปทำลายพิธี ลูฟีใช้โอกาสนี้ในการทำลายเค้กแต่งงาน ที่เป็นของโปรดอย่างมากของบิ๊กมัม ทำให้เธอโกรธจนควบคุมตัวเองไม่อยู่ และนำไปสู่ความโกลาหลทั่วท็อตโตะแลนด์ กลุ่มหมวกฟางต้องพยายามอย่างมาก เพื่อที่จะหลบหนีจากการตามล่าของบิ๊กมัม และลูกน้องของเธอจนเกือบหมดแรง
การแยกตัว และการเสียสละของเปโดร หลังการปะทะในพิธีแต่งงาน กลุ่มหมวกฟางต้องหลบหนีอย่างเร่งด่วน แต่พวกเขากลับถูกขัดขวาง โดยสมาชิกคนสำคัญของกลุ่มบิ๊กมัม เช่น เปโรสเปโร (Perospero) และคาตาคุริ (Katakuri) ในการหลบหนี เปโดรได้เผชิญหน้ากับเปโรสเปโร และเขาก็ได้ตัดสินใจที่จะเสียสละตนเอง เพื่อเปิดทางให้กลุ่มหมวกฟางหนีออกจากเกาะ
โดยเขาใช้ระเบิดติดที่ตัวเอง และจุดชนวนขณะต่อสู้กับเปโรสเปโร การระเบิดทำให้เขาเสียชีวิต แต่การเสียสละของเปโดรนั้น ก็ได้สร้างความเสียหายให้กับเปโรสเปโร จนทำให้เขาต้องถอย และกลุ่มหมวกฟางจึงสามารถ หลบหนีออกจากท็อตโตะแลนด์ได้สำเร็จ [3]
การเสียสละของเปโดรได้สร้างแรงบันดาลใจ และผลักดันให้กลุ่มหมวกฟาง โดยเฉพาะคาโรต์ (Carrot) ซึ่งเป็นเผ่ามิงค์อีกคนหนึ่ง ที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับเปโดร เธอได้รับแรงบันดาลใจจากการเสียสละของเขา นอกจากนี้การเสียสละของเปโดร ยังส่งผลให้กลุ่มหมวกฟางมีความมุ่งมั่นมากยิ่งขึ้น ที่จะทำตามความฝัน และช่วยเหลือเพื่อนร่วมทีมให้สำเร็จ เพื่อเป็นเกียรติให้กับเปโดร
สรุป เสือเปโดร เป็นวีรบุรุษแห่งเผ่ามิงค์ ที่เสียสละชีวิตเพื่อช่วยกลุ่มหมวกฟาง ในการบุกเกาะท็อตโตะแลนด์ แม้เขาจะไม่ได้มีพลังจากผลปีศาจ แต่ด้วยความกล้าหาญ เขาต่อสู้กับเปโรสเปโร และใช้ระเบิดเพื่อเปิดทางหนีให้เพื่อนๆ การเสียสละของเขานั้น สร้างแรงบันดาลใจแก่คาโรต์ และเสริมความมุ่งมั่นให้กับกลุ่มหมวกฟาง เปโดรจึงเป็นตัวแทนแห่งความจงรักภักดี และความกล้าหาญของเผ่ามิงค์
