เรื่องจริงอุรังอุตัง อันดับวานรไม่มีหางขนาดใหญ่ ที่อาศัยอยู่บนต้นไม้ โดยอุรังอุตังในภาษามาเลย์จะแปลว่า “ มนุษย์แห่งป่า ” นั่นก็เพราะ พวกมันมียีนเหมือนมนุษย์ถึง 96.4% นับว่าเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม
ที่อยู่ในจำพวก สัตว์ฉลาดที่สุดในโลก พอ ๆ กับชิมแปนซี ซึ่งบล็อกนี้ก็อีกเช่นเคย ที่จะพาผู้อ่านล้วงลึกทุกซอกทุกมุม ไม่ว่าจะเรื่องจริง เรื่องเล่าของ Orangutan สัตว์ป่าใกล้สูญพันธุ์ พ่วงต่อด้วยวิกฤตร้ายแรง ที่อุรังอุตังกำลังเผชิญอยู่
“ อุรังอุตัง ” ( Orangutan ) หรือที่รู้จักในชื่อเต็มว่า “ ลิงอุรังอุตัง ” อันดับวานรขนาดใหญ่ ไร้หาง สัตว์พื้นเมืองของเกาะสุมาตรา และเกาะบอร์เนียว ประเทศอินโดนีเซีย สิ่งมีชีวิตที่เกิดมาพร้อมกับความสามารถ ที่บางพฤติกรรมแทบจะเหมือนมนุษย์ นั่นก็เพราะ พวกมันมียีน หรือ DNA เหมือนมนุษย์ถึง 96.4% จึงทำให้อุรังอุตังเป็นสัตว์
ที่มีลักษณะเฉพาะในโลกของลิง 4 สายพันธุ์ ไม่ว่าจะเป็น กอริลลา อุรังอุตัง โบนโบ และชิมแปนซี ทั้งนี้ ปัจจุบันสำรวจชนิดพันธุ์อุรังอุตังพบว่า มีเพียง 3 ชนิดเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็น อุรังอุตังสุมาตรา อุรังอุตังบอร์เนียว และอุรังอุตังตาปานูลี โดยชนิดพันธุ์ตาปานูลี เป็นชนิดใหม่ล่าสุดที่เพิ่งถูกจำแนก ออกจากชนิดพันธุ์สุมาตรา เมื่อปี พ.ศ. 2560 เป็นต้น [1]
หากถามว่าอุรังอุตังมีความสำคัญอะไรต่อป่า ขอตอบผ่านบล็อกนี้เลยว่า อุรังอุตังช่วยรักษาผืนป่า โดยการกระจายเมล็ดพันธุ์ในมูลสัตว์ อีกทั้งข้อมูลใน เรื่องจริงอุรังอุตัง พวกมันยังช่วยเพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพ ในแหล่งที่อยู่อาศัยที่พวกมันอาศัยอยู่
แถมยังช่วยสร้างช่องว่างบนบ้านหลังเล็ก ๆ บนต้นไม้ ซึ่งแบบนี้จะทำให้แสงสว่างส่องผ่านเข้ามาได้ นอกจากนี้ ยังช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโต ของพืชพรรณในพงหญ้า ซึ่งการเจริญเติบโตรูปแบบนี้ จะช่วยดูดซับคาร์บอน และช่วยต่อต้านผลกระทบ จากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เป็นต้น [2]
ที่มา: San Diego Zoo Animals – Orangutan [3]
ด้วยจำนวนอุรังอุตังลดลงอย่างมาก ในช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมา เนื่องจากป่าไม้จำนวนมาก ถูกทำลายโดยมนุษย์ เพื่อสร้างพื้นที่ปลูกสวนปาล์ม ไม้ รวมถึงบ้านเรือน อีกทั้งข้อมูลใน เรื่องจริงอุรังอุตัง พวกมันยังถูกล่าเพื่อเป็นอาหาร เป็นสัตว์เลี้ยงแบบผิดกฎหมายอีก ถือว่าการที่พวกมันสูญเสียถิ่นที่อยู่อาศัย นับว่าเป็นภัยคุกคามที่ใหญ่ที่สุด
พื้นที่ป่าจำนวนมากถูกถางไปทั่ว ส่วนใหญ่กิจกรรมของมนุษย์ ที่เข้ามาทำลายถิ่นอยู่อาศัย ได้แก่ การทำสวนปาล์ม การพัฒนาถนน การทำเหมือง บลา ๆ ทั้งนี้ จำนวนอุรังอุตังกว่า 50% พบอยู่ภายนอกพื้นที่คุ้มครองในป่า บางตัวถูกคร่าเพื่อนำไปประกอบอาหาร หรือบางตัวก็ถูกคร่ามาจากสาเหตุ ที่ชาวสวนคิดว่าพวกมันทำลายพืชผล [4]
อย่างไรก็ตาม อุรังอุตังมีส่วนที่แตกต่างจากเสือพูม่าแคนาดา หรือแมวป่าแคนาดา ( Canada Lynx ) ในด้านของการเป็น สัตว์เศรษฐกิจ โดยแมวป่าแคนาดาถ้าอิงข้อมูลจาก เรื่องจริงลิงซ์แคนาดา มีการค้าในตลาดแบบถูกกฎหมาย แต่อุรังอุตังมีการลักลอบแบบผิดกฎหมาย นี่จึงเป็นความแตกต่างที่ทำให้ IUCN ต้องการจะจัดการ ให้มีการค้าอย่างถูกกฎหมาย
อย่างที่ทราบกันว่า ถิ่นที่อยู่อาศัยของพวกมันส่วนใหญ่ ถูกทำลายเพื่อสร้างสวนปาล์มน้ำมัน น่าเสียดายที่อุรังอุตังสัตว์ฉลาดหลักแหลม ได้สูญพันธุ์หายไปจากพื้นที่ส่วนใหญ่แล้ว นอกจากนี้ ตามข้อมูลใน เรื่องจริงอุรังอุตัง แล้ว ผู้ลักลอบล่าสัตว์มักจะคร่าแม่อุรังอุตัง และขายลูกน้อยให้กับธุรกิจ ค้าสัตว์เลี้ยงแบบผิดกฎหมาย
ในกรณีเช่นนี้ ลูกน้อยที่กำพร้ามักจะพบเจอกับ ชะตากรรมที่น่าหดหู่ เว้นแต่ว่าพวกมันจะได้รับความช่วยเหลือ จากองค์กรที่ดูแลในเขตสงวนพิเศษ โดยองค์กรเหล่านี้มีโครงการ ให้ความรู้แก่คนตัดไม้ รวมถึงคนในพื้นที่เกี่ยวกับความจำเป็น ในการปกป้องบ้านของอุรังอุตัง ทั้งนี้ องค์กร IUCN ได้จัดให้ 3 สายพันธุ์อุรังอุตังอยู่ใน สัตว์เสี่ยงสูญพันธุ์ อย่างยิ่ง ตามบัญชีแดงสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม
อุรังอุตังอาศัยอยู่ที่ไหน : พวกมันเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ที่อยู่อาศัยในป่าอินโดนีเซีย และป่าในมาเลเซีย ส่วนใหญ่จะใช้ชีวิตอยู่บนต้นไม้
อาหารของอุรังอุตัง คืออะไร : อุรังอุตังมักกินพืชตระกูลถั่ว และมักกินผลไม้ประมาณ 60% อาทิเช่น ทุเรียน อีกทั้งยังกินใบไม้ เปลือกไม้ รากไม้ รวมถึงแมลงอีกด้วย
ลักษณะพิเศษของอุรังอุตัง คืออะไร : ตัวผู้ที่โตเต็มวัยแล้ว จะมีแก้มที่ใหญ่ขึ้นรอบ ๆ ใบหน้า ส่วนตัวเมียจะไม่ค่อยมีแก้มใหญ่
อุรังอุตังสามารถเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยงได้หรือไม่ : แม้ว่าการเลี้ยงพวกมันอย่างถูกกฎหมาย และเลี้ยงในกรงจะปลอดภัยแค่ไหน แต่การเลี้ยงอุรังอุตังในกรง ถือว่าไม่เหมาะสม เพราะพวกมันเป็นสัตว์ป่า ที่เหมาะจะอยู่ในป่า มากกว่าการอยู่ในกรงแคบ ๆ แต่ทว่า ยังมีกลุ่มคนบางกลุ่มแอบลักลอบ นำพวกมันมาเลี้ยงในบ้าน เป็นต้น
สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่อาศัยอยู่บนต้นไม้ อย่าง “ อุรังอุตัง ” ลิงจำพวกไม่มีหางที่สถานะตอนนี้ เข้าขั้นเส้นสีแดงอันตราย ของกลุ่มสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ เนื่องจากกิจกรรมบางอย่างของมนุษย์ ที่มันส่งผลกระทบโดยตรงต่อพวกมัน ทำให้จำนวนประชากรตอนนี้ เหลืออยู่ไม่ถึงหลักแสนตัว