สิงห์คู่ หลายคนอาจเคยเห็นกันบ่อยๆ อย่างเช่น บริเวณหน้าวัด ศาลเจ้า หรือสถานที่สำคัญต่างๆ สิงห์คู่เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์มงคล ในวัฒนธรรมจีน และประเทศแถบเอเชีย เชื่อกันว่าสิงห์คู่ เป็นตัวแทนของพลังอำนาจ การปกป้อง และความแข็งแกร่ง เป็นสิ่งที่ช่วยขับไล่สิ่งชั่วร้าย และดึงดูดโชคลาภ เข้ามาให้กับสถานที่นั้น ๆ การวางสิงห์คู่ที่ทางเข้า หรือหน้าบ้านจึงกลายเป็นสัญลักษณ์ ของความเจริญรุ่งเรือง และความปลอดภัยนั่นเอง
สิงห์คู่ เป็นสัญลักษณ์ของการปกป้อง ในวัฒนธรรมจีนและไทย เชื่อว่าสิงห์คู่มีหน้าที่ปกป้อง สถานที่จากพลังงานไม่ดี สิ่งชั่วร้าย หรืออันตรายต่างๆ โดยสิงห์ตัวผู้และตัวเมีย จะทำงานร่วมกันเพื่อสร้างพลังปกป้องที่แข็งแกร่ง สิงห์ตัวผู้หมายถึงการปกป้องภายนอก และสิงห์ตัวเมียหมายถึงการปกป้องภายในบ้าน และครอบครัว
เสริมอำนาจ และโชคลาภ
สิงห์คู่ยังถูกเชื่อว่า จะช่วยดึงดูดโชคลาภ ความสำเร็จ และความมั่งคั่งเข้ามาสู่บ้าน หรือสถานที่ทำงาน เพราะสิงห์เป็นสัตว์ที่สื่อถึงพลัง และอำนาจ การตั้งสิงห์คู่ที่ประตู หรือทางเข้าจะช่วยให้พลังบวกเข้ามา และป้องกันไม่ให้พลังร้ายเข้ามาในพื้นที่
ความสมดุล และความกลมเกลียว
สิงห์ตัวผู้ และตัวเมีย ที่มาคู่กันแสดงถึงความสมดุล ระหว่างหยินและหยาง การทำงานร่วมกันอย่างกลมเกลียว ของพลังสองด้านนี้ จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่ง และความมั่นคงทั้งในด้านความสัมพันธ์ และการดำเนินชีวิต
สิงห์ตัวผู้ : จะวางไว้ทางซ้ายของประตู (เมื่อหันหน้าเข้าประตู) สื่อถึงการปกป้อง และเสริมสร้างพลังด้านภายนอก
สิงห์ตัวเมีย : จะวางไว้ทางขวา สื่อถึงการปกป้องครอบครัว และความสงบสุขภายในบ้าน
สิงห์คู่ควรวางหันหน้าออกไปจากประตู เพื่อป้องกันพลังร้ายจากภายนอก
ข้อควรระวังในการวางสิงห์คู่ : การวางสิงห์คู่นั้น มีข้อควรระวังที่สำคัญ เช่น ห้ามวางเพียงตัวเดียว เพราะจะทำให้พลังงานไม่สมดุล ไม่เหมือน ปี่เซียะ ที่อยู่เดี่ยวๆได้ นอกจากนี้ยังควรวางสิงห์ให้สูงจากพื้น เพื่อแสดงถึงความสูงส่งและอำนาจ หลีกเลี่ยงการวางในที่ต่ำ หรือจุดที่ถูกบดบัง
วัสดุที่ใช้ทำสิงห์คู่ มีผลในการเสริมพลังงานด้วย เช่น สิงห์ที่ทำจากหิน หรือทองเหลือง มักจะมีพลังงานที่แข็งแกร่งกว่า เนื่องจากพลังงานของวัสดุธรรมชาติ จะช่วยดึงพลังบวกได้ดีกว่า การเลือกวัสดุที่ทน และแข็งแรง ยังแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่ง และสง่างาม ดังนั้นการเลือกวัสดุอาจจะมองได้หลายแบบ อย่างไรแล้ววัสดุที่ใช้ ก็ควรพิจารณาถึงคุณภาพ และความคงทนของวัสดุ ประกอบร่วมด้วย
สิงห์คู่ ในความเชื่อของชาวจีนนั้น มีความหมายเชิงลึก ทั้งในแง่ของการปกป้อง และความสมดุล สิงห์ตัวผู้ และตัวเมีย ที่มักปรากฏเป็นคู่กัน สะท้อนถึงความกลมเกลียว และการทำงานร่วมกัน เพื่อให้เกิดพลังปกป้องที่สมบูรณ์
สิงห์ตัวผู้ : สิงห์ตัวผู้มักจะถูกวางอยู่ด้านซ้าย ของทางเข้าหรือประตู สื่อถึงพลังอำนาจ และความแข็งแกร่ง ในมือของสิงห์ตัวผู้มักจะถือ “ลูกบอล” ซึ่งหมายถึงโลกหรือจักรวาล สิงห์ตัวผู้จะปกป้องสถานที่ จากพลังร้ายภายนอก และเสริมสร้างพลังแห่งความมั่งคั่ง ให้กับผู้ที่อยู่อาศัย
สิงห์ตัวเมีย : สิงห์ตัวเมีย จะอยู่ด้านขวา ถือ “ลูกสิงห์” ไว้ในอุ้งเท้า สื่อถึงการปกป้อง และการดูแลครอบครัว ตัวเมียมีหน้าที่คอยปกป้องชีวิต และความสงบสุขภายในบ้าน สัญลักษณ์ของลูกสิงห์ในอุ้งเท้า หมายถึงความต่อเนื่อง และความมั่นคงของวงศ์ตระกูล สิงห์ตัวเมียจึงมีความสำคัญ ในการเสริมพลังการปกป้องในครอบครัว ให้มั่นคงและปลอดภัย
ที่มา: “สิงห์คู่ทวารบาลแห่งอำนาจ และความเจริญรุ่งเรือง” [1]
ที่มา: “วิธีตั้งสิงห์คู่อย่างถูกวิธี ปี 2024” [2]
ในภาษาญี่ปุ่น เรียกชื่อสิงห์คู่ว่า “狛犬” (Komainu) ซึ่งแปลว่า “สุนัขเฝ้าประตู” และในภาษาอังกฤษเรียกว่า “Foo dogs” มีความหมายที่เกี่ยวข้องกับการปกป้องและการเฝ้าระวัง คำที่ใช้เรียกมีพื้นฐานจากคำแปลผิดพลาด และการเข้าใจผิดเกี่ยวกับการออกเสียงคำภาษาจีน “福獅” (Fúshī) ซึ่งแปลว่า “สิงห์แห่งโชคลาภ” หรือ “สิงห์แห่งความสุข” นั่นเอง [3]
สรุป สิงห์คู่ เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์มงคล ที่พบได้บ่อย เป็นตัวแทนของพลังอำนาจ การปกป้อง และความแข็งแกร่ง เป็นสิ่งที่ช่วยขับไล่สิ่งชั่วร้าย ในวัฒนธรรมจีน และประเทศแถบเอเชีย อย่างไทยเราเป็นต้น การมีสิงห์คู่หน้าประตูบ้าน หรือที่ทำงาน นอกจากจะช่วยเรื่องการปกป้อง จากพลังร้ายภายนอกที่จะเข้ามาได้แล้ว ยังช่วยเรื่องการดึงดูดโชคลาภ ให้เข้ามาหาเราอีกด้วย