สัตว์เลี้ยงราคาแพง กลุ่มก้อนของสัตว์เลี้ยง ที่ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่ม “ สัตว์เลี้ยงมูลค่าสูงที่สุดในโลก ” ตอนนี้กำลังเป็นกระแส ที่คนทั่วโลกกล่าวถึง บางคนถึงขั้นยอมควักเงินแสน ยอมควักเงินล้าน เพื่อให้ตัวเองได้ครอบครอง โดยบทความฉบับนี้ จะมานำเสนอ 4 รายชื่อสัตว์แพง พร้อมกับข้อมูลน่าสนใจ
ว่ากันด้วยเทรนด์การเลี้ยงสัตว์ โดยเฉพาะสัตว์ป่าดุร้าย อาทิเช่น เสือ สิงโต เป็นต้น ในแวดวงของอภิมหึมามหาเศรษฐี หรือเรียกง่าย ๆ ว่ากลุ่มคนชั้นสูง พวกเขาได้เริ่มเลี้ยงมานานหลายปี โดยก่อนหน้านี้มีข่าวรายงานว่า
ไลฟ์สไตล์ของกลุ่มคนชนชั้นสูง มักนิยมเลี้ยงสัตว์ป่าหายาก อย่าง สิงโตขาว เพื่อแสดงความร่ำรวยผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย อีกทั้งยังมีแนวความคิดที่ว่า การเลี้ยงสัตว์ป่าหายากนั้น เสมือนเป็นเครื่องมือ สื่อถึงความร่ำรวย และการโชว์พลังอำนาจนั่นเอง
ทิเบตันแมสติฟฟ์ : สุนัขตัวใหญ่ยักษ์ ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่ม สุนัขหายาก ที่มีมูลค่าเริ่มต้น 20,000,000 บาทขึ้นไป จัดว่าเป็น สุนัขราคาแพง ที่กลุ่มคนรักหมานิยมเลี้ยงกัน ตามบ้านที่อยู่นอกตัวเมือง ปัจจุบันเหลือสายพันธุ์นี้แค่ 100 ตัวบนโลก [1]
สิงโตขาว : สายพันธุ์สิงโตหายาก เนื่องจากเป็นสีที่ผู้คนต้องการ มีถิ่นกำเนิดมาจากแอฟริกาใต้ ถูกพบเห็นครั้งแรกเมื่อปี 1938 จนปัจจุบันกลายมาเป็นสัตว์เลี้ยง ของกลุ่มคนผู้ร่ำรวย ทั้งแขกขาว และตะวันออกกลาง มีมูลค่าเริ่มต้น 4,000,000 บาทขึ้นไป [2]
ไฮยาซิน มาคอว์ : หรือนกมาคอว์สีดอกผักตบชวา เป็นนกแก้วมาจากอเมริกาใต้ นับว่าเป็นสายพันธุ์นกที่ตัวใหญ่ที่สุด และเป็นนกแก้วที่ปีกบินกว้างที่สุด ซึ่งคนที่จะเลี้ยงนกชนิดนี้ได้ จะต้องเป็นผู้มีประสบการณ์ หากเป็นมือใหม่ยังไม่แนะนำ มูลค่าเริ่มต้น 490,000 Bath [3]
แมวซาวันนาห์ : สายพันธุ์แมวป่าพันธุ์ผสม มีต้นทางมาจากสหรัฐอเมริกา เป็นพันธุ์แมวที่ต่างประเทศ นิยมเลี้ยงไว้ภายในบ้าน ถือว่าเป็น สัตว์เลี้ยงสุดแปลก Exotic Pet เลี้ยงง่าย แต่มูลค่าเริ่มต้น 420,000 – 1,750,000 Bath ทำให้ในตอนนี้ แมวซาวันน่าห์ ถูกเพิ่มในรายชื่อ แมวค่าตัวแพงอันดับ 2 ของการจัดอันดับ แมวราคาแพง ไปในทันที [4]
เนื่องด้วยกรณีที่มีเศรษฐีดูไบ ได้เลี้ยงสัตว์ป่าหายากไว้ภายในบ้าน แล้วมีการโพสต์ภาพลงโซเชียลมีเดีย จึงทำให้กลายเป็นกระแส ที่มีคนพูดถึงมากที่สุด ว่าสัตว์ป่าชนิดนี้นั้น สามารถเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยง หรือมีไว้ในครอบครองได้หรือไม่อย่างไร ทางเจ้าหน้าที่คุ้มครองสัตว์ป่า ได้ตรวจสอบแล้วพบว่า
เศรษฐีคนดังกล่าวได้เลี้ยงลูกสิงโต ที่แจ้งครอบครองในจังหวัดราชบุรี ประเทศไทย มีการสั่งให้โอนย้ายจากชลบุรี ไปยังบ้านของตนเองที่ดูไบ ซึ่งการเคลื่อนย้ายดังกล่าว ถือว่าเป็นการเคลื่อนย้ายที่ไม่ได้รับอนุญาต เนื่องจากสิงโตเป็นสัตว์ป่าควบคุม หากมีความประสงค์จะเลี้ยง จะต้องขอใบอนุญาต และเลี้ยงภายในสถานที่ปลอดภัย
ทั้งนี้ สิงโตที่กำลังได้รับความนิยม จนกลายเป็น สัตว์เลี้ยงราคาแพง มีราคาดังนี้ สิงโตสีขาว ตาสีฟ้า เริ่มต้น 2,000,000 บาทต่อตัว, ลูกสิงโตสีขาว เริ่มต้น 550,000 – 2,000,000 บาทต่อตัว, ลูกไลเกอร์ สิงโตพันธุ์ผสม เริ่มต้น 2,000,000 บาทต่อตัว และลูกสิงโต สีน้ำตาล เริ่มต้น 300,000 บาทต่อตัว [5]
เมื่อหลังจากที่กระแสการเลี้ยงสัตว์ ให้เป็นลูกรักเกิดการแพร่หลายนั้น กลุ่มคนทำธุรกิจได้ออกมาคาดการณ์กันว่า ธุรกิจทุกประเภทที่เกี่ยวกับ Pets ทั่วโลก ในปี 2026 ข้างหน้า จะมีมูลค่าถึง 6.9 ล้านล้านบาท โดยใน Thailand จะมีมูลค่าราว ๆ 4 หมื่นล้านบาท นั่นหมายความว่า มีการขยับขยายเติบโตเฉลี่ยที่ 10% ทุกปี
อีกทั้งผู้ที่เป็นเจ้าของสัตว์เอง ก็จะมียอดค่าใช้จ่ายเฉลี่ยมากกว่า 15,000 บาทต่อปี ทั้งนี้ หลาย ๆ ธุรกิจที่มองเห็นถึงโอกาส ในการเพิ่มยอดขายเข้าบริษัท หรือเข้าร้าน จึงได้ทำการเพิ่มสินค้า บวกบริการต่าง ๆ เกี่ยวกับ Pets มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น รถรับส่งสำหรับสัตว์, โรงแรม, สปา, สถานที่ทำกิจกรรมนันทนาการ เป็นต้น
อาหารที่เหมาะสม : อาหารสัตว์เป็นสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้ เป็นส่วนที่ทำให้ลูกรักอิ่มท้อง แต่ต้องเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีสารอาหารครบถ้วน และควรจะเลือก ยี่ห้ออาหารสัตว์ใหญ่ ที่ผ่านการจดทะเบียน อาหารสัตว์มาเรียบร้อยแล้ว
ความสะอาดคือเรื่องใกล้ตัว : เรื่องเล็ก ๆ ที่ควรให้ความสำคัญ เพราะหากปล่อยให้ สัตว์เลี้ยงราคาแพง เนื้อตัวสกปรก อาจเกิดการสะสมของเชื้อโรค จนเกิดเป็นผิวหนังอักเสบได้
สร้างสิ่งแวดล้อมทางสังคม : แน่นอนว่าการเลี้ยงสัตว์ เจ้าของจะต้องมีเวลาดูแล รวมไปถึงเวลาพาทำกิจกรรม ให้เด็ก ๆ ได้พบเจอกับสัตว์เลี้ยงตัวอื่น ๆ เพื่อช่วยลดความเครียดจากห้องแคบ ๆ เป็นต้น
ด้วยบทความได้นำเสนอ 4 รายชื่อสัตว์เลี้ยง ที่ทำลายสถิติค่าตัวสูงที่สุดในโลก บางตัวก็หายาก เหลือให้เห็นเพียง 100 ตัวบนโลก บางตัวก็ต้องขอใบอนุญาตก่อนเลี้ยง แต่ก็ไม่ทำให้ความต้องการ ของคนที่อยากครอบครองลดลง แล้วการเลี้ยงดูอย่างไรให้อายุยืน บทความนี้มีคำตอบ