Menu
สัตว์สงวนล่าสุด ประกาศจากพระราชบัญญัติสงวน และการคุ้มครองสัตว์ป่าปี พ.ศ. 2562 มีผลบังคับใช้แล้ว ซึ่งได้บรรจุ 4 รายชื่อสัตว์ทะเลเพิ่มเติม เดิมทีมีจำนวน 15 ชนิด แต่ประกาศล่าสุดฉบับใหม่
ได้บรรจุสัตว์ทะเล สัตว์สงวนในไทย ชนิดใหม่เพิ่มมาอีก 4 ชนิด รวมทั้งหมด 19 ชนิด โดยบล็อกนี้ได้นำข้อมูลเบื้องลึกมานำเสนอ ตามด้วยการแก้ปัญหาไม่ให้จำนวนประชากร ของสัตว์ทะเลลดจำนวนลงเรื่อย ๆ
จากข้อมูลเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 ที่ผ่านมา มีการประกาศของพระราชบัญญัติสงวน และการคุ้มครองสัตว์ป่าปี พ.ศ. 2562 ได้มีการบรรจุ สัตว์ป่าคุ้มครอง ของประเทศไทยเพิ่มเติมอีก 4 อย่าง ซึ่งก่อนหน้านี้เคยมีการผลักดันมากว่า 4 ปี จากการบรรจุเพิ่มรายชื่อนั้น
ส่งผลให้ประเทศของเรามีจำนวน สัตว์ป่าใกล้สูญพันธุ์ จากเดิมมี 15 อย่าง เพิ่มขึ้นมาเป็น 19 อย่าง ได้แก่ สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมอย่าง กวางผา, กระซู่, เก้งหม้อ, ควายป่า, พะยูน, แรด บลา ๆ สัตว์ป่าจำพวกนำ ได้แก่ นกเจ้าฟ้าหญิงสิรินธร นกกระเรียน บลา ๆ สัตว์เลื้อยคลาน ได้แก่ เต่ามะเฟือง และสัตว์น้ำ ได้แก่ ปลาฉลามวาฬ เป็นต้น
วาฬบรูด้า : หรือวาฬแกลบ เป็นกลุ่มวาฬขนาดใหญ่ มีการตั้งชื่อให้พวกมันว่า “ บรูด้า ” เพื่อให้เกียรติแก่กงสุลชาวนอร์เวย์ มีนามว่า “ โยฮัน บรูด้า ” ซึ่งบุคคลนี้เป็นคนค้นพบวาฬบรูด้า สัตว์สงวนล่าสุด ชนิดนี้เป็นคนแรก
โดยพบการกระจายพันธุ์ในท้องทะเลเขตอบอุ่นทั่วโลก ถ้าในประเทศไทยมักอาศัยอยู่ในอ่าวไทย สามารถพบได้ตามชายทะเลเกือบทุกจังหวัด แต่สถานที่ที่พบบ่อย คือ “ ทะเลบ่อนอก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ” [1]
วาฬโอมูระ : กลุ่มวาฬสายพันธุ์หายาก มีลักษณะทางกายภาพที่ใกล้เคียงกับบรูด้า พวกมันถูกค้นพบครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 2003 โดยค้นพบจากซากของโอมูระ อีกทั้งวาฬโอมูระมีคนรู้จักน้อย จึงทำให้พวกมันกลายเป็น สัตว์หายากในไทย ไปในทันที ทั้งนี้ สถานภาพของโอมูระในประเทศไทย ปัจจุบันเป็นสัตว์สงวนในปี 2562 [2]
ปลาฉลามวาฬ : กลุ่มปลาขนาดใหญ่ที่สุด มีความยาวประมาณ 8 – 17.5 เมตร มีน้ำหนักมากถึง 21 – 35 ตัน มีการพบปลาฉลามวาฬในทะเลเขตร้อน และเขตอบอุ่น โดยสถานภาพของปลาชนิดนี้ ปัจจุบันเป็น สัตว์โลกตัวใหญ่ ที่ถูกสงวนไว้ในปี 2562 [3]
เต่ามะเฟือง : หรือเต่าเหลี่ยม กลุ่มเต่าทะเลขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งใหญ่เป็นอันดับ 4 ของสัตว์เลื้อยคลานทั้งหมด โดยเต่ามะเฟืองดำน้ำลึกได้ถึง 1,280 เมตร สามารถพบการกระจายพันธุ์ได้ตามกระแสน้ำอุ่น อาทิเช่น ประเทศไทย มาเลเซีย ปาปัวนิวกินี บลา ๆ ปัจจุบันเต่ามะเฟืองเป็น สัตว์ป่าตัวใหญ่ ที่ถูกสงวน และถูกการอนุรักษ์ปกป้องเอาไว้ [4]
ถ้าย้อนเวลาไปเมื่อปี พ.ศ. 2504 ได้มีเรืออวนลากเคยจับสัตว์น้ำ สัตว์สงวนล่าสุด ในอ่าวไทยได้ชั่วโมงละ 298 กิโลกรัม ต่อมาในปี พ.ศ. 2555 เรืออวนลากจับสัตว์น้ำลดลงมา เหลือชั่วโมงละ 18.2 กิโลกรัม
โดยปริมาณปลาที่จับมาได้นั้น เป็นลูกปลาเศรษฐกิจตัวเล็กถึงร้อยละ 34.47 จากปลาจำนวนมากที่เคยจับได้ พอผ่านมา 10 กว่าปีหลังนี้ จำนวนสัตว์ทะเลที่จับได้กลับลดลง ซึ่งเมื่อปี พ.ศ. 2550 ชาวประมงไทยเคยจับปลาน้ำเค็มได้จำนวน 2.08 ล้านตัน
แต่ปี 2561 การจับปลาลดลงเหลือแค่ 1.39 ล้านตัน เป็นต้น แต่ถ้าจะให้ยกตัวอย่างให้เห็นภาพชัด ๆ คงหนีไม่พ้น ปลานิยมบริโภค อย่างปลาทู ซึ่งเมื่อปี 2551 ชาวประมงไทยเคยจับปลาทูได้ 112,557 ตัน แต่ในปี 2561 ชาวประมงไทยจับปลาทูได้เพียง 17,655 ตัน ซึ่งลดลงมากกว่า 6 เท่า
ก่อนที่สัตว์ทะเล 4 รายชื่ออย่าง วาฬบรูด้า, วาฬโอมูระ, ปลาฉลามวาฬ และเต่ามะเฟือง ถูกบรรจุเพิ่มเข้าไปยัง พระราชบัญญัติสัตว์สงวน และการคุ้มครองสัตว์ปี พ.ศ. 2562 วาฬสีน้ำเงินได้ถูกเพิ่มบรรจุเข้าไปก่อน โดยวาฬสีน้ำเงินเป็นสัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลก
แต่ความจริงแล้ว วาฬสีน้ำเงินอาศัยในพื้นที่ทางทะเลระหว่างประเทศ พวกมันมีการอพยพย้ายถิ่นฐานระยะไกล จนสุดท้ายกรมทรัพยากรทางทะเล และชายฝั่งได้ระบุว่า เคยพบวาฬสีน้ำเงินเพียง 3 ครั้งเท่านั้น
โดยพบครั้งแรกที่หมู่เกาะสุรินทร์ จังหวัดพังงา ครั้งต่อมาพบมาเกยตื้นที่เกาะลิบง จังหวัดตรัง และครั้งล่าสุดพบที่หมู่เกาะสิมิลัน จังหวัดพังงา ปัจจุบันมีประชากรวาฬสีน้ำเงิน ตัวที่โตเต็มวัยประมาณ 5,000 – 15,000 ตัวทั่วโลก
หากยังไม่มีมาตรการควบคุมการทำประมงที่ผิดกฎหมาย มีการปล่อยให้มนุษย์ใช้เครื่องมือทำลายล้าง สัตว์สงวนล่าสุด อาทิเช่น เรืออวนลากอวนรุน เรือปั่นไฟ เป็นต้น สัตว์น้ำ สัตว์ทะเลน้อยใหญ่ชนิดต่าง ๆ จะถูกกวาดขึ้นมาจากทะเลแบบไม่เลือก ซึ่งอาจทำให้ห่วงโซ่อาหารถูกทำลาย นำไปสู่การล่มสลายของระบบนิเวศทางทะเล
ด้วยสัตว์สงวนที่เพิ่งถูกบรรจุ เพิ่งถูกเพิ่มเข้าไปยังพระราชบัญญัติสัตว์สงวน เป็นกลุ่มสัตว์ทะเล 4 ชนิด โดยกลุ่มสัตว์เหล่านี้ห้ามครอบครอง ห้ามจำหน่าย ห้ามจับ แม้กระทั่งซากกระดูกก็ตาม ดังนั้น มนุษย์เราควรจะช่วยกันปกป้อง ช่วยกันร่วมอนุรักษ์ เพื่อให้ระบบของห่วงโซ่อาหาร และระบบนิเวศทางทะเลไม่ล่มสลาย
