ความพิเศษของ วาฬเบลูกา วาฬขาวแห่งทะเลอาร์กติก

วาฬเบลูกา

วาฬเบลูกา หรือที่รู้จักในชื่อ Delphinapterus leucas เป็นวาฬขนาดกลาง ที่มีสีขาวบริสุทธิ์ และรูปร่างหน้าตา ที่เป็นเอกลักษณ์ จนได้รับฉายาว่า “วาฬขาว” ความโดดเด่นของวาฬเบลูกา ไม่ได้มีแค่เพียง สีขาวสะดุดตาเท่านั้น แต่ยังมีพฤติกรรม ที่ไม่ธรรมดา ทำให้มันเป็นสัตว์ที่น่าสนใจ และโดดเด่น ในบรรดาวาฬชนิดต่าง ๆ

 ความสามารถ ในการสื่อสารของ วาฬเบลูกา

วาฬเบลูกา มีความสามารถ ในการสร้างเสียง หลากหลายรูปแบบ ซึ่งรวมถึงเสียงคลิก เสียงนกหวีด และเสียงร้องคล้ายเพลง จึงเป็นที่มาของฉายา “นกขับร้องแห่งท้องทะเล” หรือ “Canary of the Sea” โดยเสียงเหล่านี้ มีบทบาทสำคัญ ในการสื่อสารระหว่าง สมาชิกในฝูง และยังใช้ในการระบุตำแหน่ง ของวัตถุผ่านคลื่นเสียง ในสภาพแวดล้อม ที่มีน้ำแข็งหนาแน่น [1]

ลักษณะของวาฬเบลูกา

วาฬเบลูกามีลำตัวยาวประมาณ 3-5 เมตร น้ำหนักระหว่าง 1,100-1,600 กิโลกรัม ตัวผู้มักมีขนาดใหญ่ กว่าตัวเมีย ลักษณะเด่น อีกประการหนึ่ง ของวาฬชนิดนี้คือ มีหัวที่กลม ไม่มีครีบหลัง แต่มีครีบข้างที่เรียว และสั้น ซึ่งช่วยให้สามารถ เคลื่อนที่ในน่านน้ำ ที่เต็มไปด้วยน้ำแข็งได้ดี

สีขาวของเบลูกา ทำให้สามารถพรางตัว ในน้ำแข็งและหิมะ จากนักล่า เช่น วาฬเพชฌฆาต ที่คอยอยู่ในทะเลลึก และ หมีน้ำแข็ง ที่รออยู่บนฝั่ง ได้อย่างดีในแถบอาร์กติก นอกจากนี้ วาฬเบลูกายังมีลักษณะเฉพาะตัว ที่สามารถเคลื่อนไหวหัว และคอได้ดี มีความยืดหยุ่นสูง จึงช่วยให้มัน สามารถว่ายน้ำ ในเส้นทางที่ซับซ้อน ได้อย่างคล่องแคล่ว

การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์

  • อาณาจักร : Animalia
  • ไฟลัม : Chordata
  • ชั้น : Mammalia
  • อันดับ : Artiodactyla
  • อันดับฐาน : Cetacea
  • อนุอันดับ : Odontoceti
  • วงศ์ : Monodontidae
  • สกุล : Delphinapterus Lacépède
  • สปีชีส์ : D. leucas
  • ชื่อทวินาม : Delphinapterus leucas

ที่มา: “วาฬเบลูกา” [2]

 อาหารของวาฬเบลูกา

วาฬเบลูกาเป็นสัตว์กินเนื้อ ที่มีอาหารหลักประกอบด้วย สัตว์ทะเลขนาดเล็ก หลากหลายชนิด โดยเฉพาะ ปลา (เช่น ปลาแซลมอน ปลาค็อด และปลาชนิดอื่น ๆ ที่พบในน่านน้ำเย็น) กุ้ง ปู ปลาหมึก และหอย ซึ่งเป็นแหล่งโปรตีน และสารอาหารสำคัญ ที่วาฬเบลูกาต้องการ [3]

วาฬเบลูกามีวิธี การหาอาหารที่พิเศษ โดยใช้ คลื่นเสียง (echolocation) เพื่อระบุตำแหน่งของเหยื่อ ในน่านน้ำที่มีทัศนวิสัยต่ำ โดยจะส่งคลื่นเสียง และรอรับเสียงสะท้อนกลับมา เพื่อตรวจจับตำแหน่ง และระยะห่างของเหยื่อ อีกทั้งยังสามารถ ดำน้ำลึก ลงไปได้ถึงประมาณ 800 เมตร เพื่อหาอาหารในชั้นน้ำที่ลึก ซึ่งทำให้พวกมัน เข้าถึงแหล่งอาหาร ที่หลากหลายมากขึ้น

ความสำคัญของ วาฬเบลูกา ในระบบนิเวศ

วาฬเบลูกา

วาฬเบลูกา มีบทบาทสำคัญ ในระบบนิเวศทางทะเล ของแถบอาร์กติก โดยเป็นผู้ล่า ที่ช่วยควบคุมประชากร ของสัตว์ขนาดเล็ก และปลาในระบบนิเวศ อย่างไรก็ตาม วาฬเบลูกากำลังเผชิญ กับความเสี่ยง จากภาวะโลกร้อน การละลายของน้ำแข็ง ในทะเลอาร์กติก การทำประมงที่มากเกินไป

และมลพิษ ที่สะสมในมหาสมุทร ซึ่งส่งผลกระทบ ต่อแหล่งอาหาร และถิ่นอาศัยของพวกมัน นอกจากนี้ การพัฒนา ในอุตสาหกรรมน้ำมัน และก๊าซ ในพื้นที่แถบอาร์กติก ยังคุกคามสิ่งแวดล้อม และการใช้ชีวิต ของวาฬเบลูกาด้วย

การอนุรักษ์วาฬเบลูกา

การอนุรักษ์วาฬเบลูกา มีความสำคัญอย่างยิ่ง ไม่เพียงแต่เพื่อรักษา ประชากรของวาฬชนิดนี้ แต่ยังเพื่อปกป้อง ระบบนิเวศทางทะเล ที่ซับซ้อนในแถบอาร์กติก การสร้างพื้นที่ อนุรักษ์ทางทะเล และควบคุมการพัฒนา พื้นที่อุตสาหกรรม ในบริเวณที่อยู่อาศัย ของวาฬเบลูกาเป็นมาตรการสำคัญ ที่ช่วยลดความเสี่ยงที่เกิดขึ้น

นอกจากนี้ ความร่วมมือระหว่างประเทศ ในเขตอาร์กติก เพื่อป้องกันการทำลาย สภาพแวดล้อมทางทะเล ยังเป็นส่วนสำคัญ ที่ช่วยสร้างอนาคต ที่ยั่งยืนให้กับวาฬเบลูกา และสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ ในแถบอาร์กติก

ถิ่นอาศัยของวาฬเบลูกา

วาฬเบลูกาอาศัยอยู่ ในเขตทะเลอาร์กติก และบริเวณขั้วโลกเหนือเป็นหลัก ครอบคลุมพื้นที่ ในมหาสมุทรอาร์กติก และทะเลทางตอนเหนือ เช่น บริเวณชายฝั่ง ของประเทศรัสเซีย แคนาดา กรีนแลนด์ นอร์เวย์ และอลาสกา ของสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะในพื้นที่อ่าวฮัดสัน ทะเลแบฟฟิน และทะเลแบริ่ง ซึ่งมีน้ำเย็น และน้ำแข็งหนาแน่น

ในช่วงฤดูหนาว วาฬเบลูกามักอาศัย ในน่านน้ำที่มีน้ำแข็ง ปกคลุมหนาแน่น และสามารถว่ายน้ำ ผ่านช่องน้ำแข็ง เพื่อหาอากาศหายใจได้ แต่ในฤดูร้อน วาฬเบลูกาจะอพยพไปยังน่านน้ำเปิด ที่มีอุณหภูมิสูงขึ้น และมีน้ำแข็งน้อยกว่า เช่น อ่าว และปากแม่น้ำ บริเวณชายฝั่ง ซึ่งเหมาะแก่การหาอาหาร และผสมพันธุ์

 สรุป วาฬเบลูกา Beluga Whale

สรุป วาฬเบลูกา เป็นสัตว์ทะเล ที่มีความงดงาม และคุณค่าทางนิเวศวิทยาสูง ความสามารถในการปรับตัว ให้อยู่รอดในเขตน้ำแข็ง และน้ำเย็นจัด ทำให้วาฬเบลูกา เป็นสิ่งมีชีวิต ที่ไม่เหมือนใคร การอนุรักษ์ และการจัดการ การพัฒนาพื้นที่ ในแถบอาร์กติก จึงเป็นสิ่งสำคัญ ที่ช่วยปกป้องวาฬเบลูกา และคงความสมดุล ของระบบนิเวศ ให้คงอยู่ต่อไป

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง