ต้นกำเนิด ม้าพันธุ์อาหรับ (Arabian horse) อาชาแห่งชนเผ่าเบดูอิน

ม้าพันธุ์อาหรับ

ม้าพันธุ์อาหรับ หรือม้าพันธุ์อาราเบียน (Arabian horse) เป็นสายพันธุ์อาชาเก่าแก่ ที่มีต้นกำเนิด อยู่ในคาบสมุทรอาหรับ ซึ่งมีรูปร่างโดดเด่น หน้าเรียว ลำคอโค้งยาว จดจำง่าย และเป็นหนึ่งในสายพันธุ์ ที่เก่าแก่มากสุดของโลก ส่วนข้อมูลอื่นๆ อ่านต่อด้านล่าง

ประวัติ ม้าพันธุ์อาหรับ บรรพบุรุษม้าสุดเก่าแก่

ม้าอาหรับ มีต้นกำเนิดที่ยังไม่แน่ชัด แต่มีข้อมูลบ่งชี้ว่า ย้อนไปในยุคก่อนคริสต์ศักราช 1,500 ชาวเบดูอินในคาบสมุทรอาหรับ เป็นผู้เลี้ยงม้าทะเลทราย ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับ ม้าอาหรับสมัยใหม่ ปรากฏอยู่ในภาพวาดจากหิน ที่มีอายุราวๆ 2,500 ปีก่อน

โดยชนเผ่าเบดูอิน เพาะพันธุ์ม้าเพื่อใช้ในสงคราม และคัดเลือกจากความฉลาด เร็ว อดทน และสมบูรณ์ จากนั้นม้าอาหรับ ก็แพร่กระจายทั่วโลกจากสงคราม ซึ่งในศตวรรษที่ 6 พวกมันถูกยอมรับ ว่าเป็นพันธุ์ม้าที่โดดเด่น และมีอิทธิพลไปพร้อมกับ การเผยแผ่ศาสนาอิสลาม

แพร่กระจาย ม้าพันธุ์อาหรับ สู่ยุโรปและอเมริกาเหนือ

ม้าพันธุ์อาหรับ

ม้าอาราเบียน เป็นหนึ่งในสิ่งสำคัญ ที่ช่วยเผยแผ่ศาสนาอิสลาม ประมาณปีคริสต์ศักราช 600 โดยเฉพาะในช่วงศตวรรษที่ 16 ม้าอาหรับถูกยกย่อง ในฐานะม้าทหารที่เหนือกว่าม้าทั่วโลก หลังจากสงครามจบลง ชาวตะวันตกผสมพันธุ์ม้าสายเลือดอาหรับ

โดยมี Darley-Arabian, Byerly Turk และ Godolphin-Arabian เป็นผู้พัฒนาสายพันธุ์แท้ และในช่วงทศวรรษที่ 1800 ประเทศอังกฤษ เป็นผู้ก่อตั้ง Crabbet Arabian Stud ที่เป็นรากฐานไปทั่วโลก ทางด้านของอเมริกาเหนือ พวกมันถูกนำเข้าในปี 1725 โดย Nathan Harrison

แต่การนำเข้าครั้งสำคัญคือในปี 1906 เมื่อประธานาธิบดี Theodore Roosevelt ในขณะนั้น ให้การสนับสนุนนำเข้าม้าอาหรับ 27 ตัว ซึ่งต่อมาได้เป็นต้นแบบของ “Davenport-Arabians” พร้อมการจดทะเบียนใหม่ในปี 1908 รวมถึงการก่อตั้ง Arabian-Horse Club of America [1]

การเพาะพันธุ์ ม้าพันธุ์อาหรับ ในยุคสมัยใหม่

ม้าสายพันธุ์อาราเบียนปัจจุบัน พบเห็นได้ทั่วโลก ซึ่งจำแนกมาจาก ประเทศต้นกำเนิด เช่น โปแลนด์, สเปน, รัสเซีย และอียิปต์ ที่มีบรรพบุรุษ มาจากการนำเข้าสหรัฐฯ เมื่อปี 1944 นอกจากนี้ ส่วนสายเลือดเฉพาะอย่าง Crabbet, Maynesboro และ Kellogg ถูกขึ้นทะเบียนจาก CMK ม้าอาหรับ

นอกจากนี้ ม้าอาหรับยังมีอิทธิพล ทางพันธุกรรม ต่อม้าสายพันธุ์อื่นๆ อาทิเช่น Thoroughbred, Orlov Trotter, Morgan, American Saddlebred, American Quarter Horse และ Warmblood ซึ่งมีการใช้งานสารพัด ทั้งการแข่งม้าในสนาม การแข่งแสดงม้า การประกวด เป็นต้น [2]

ลักษณะ ม้าพันธุ์อาหรับ และโครงสร้างที่จดจำง่าย

ม้าพันธุ์อาหรับ
  • ศีรษะ : หัวค่อนข้างเล็ก ปากเล็ก หูเล็ก ดวงตาสีเข้มขนาดใหญ่ รูจมูกใหม่
  • รูปร่าง : หุ่นดี มีส่วนโค้งเล็กน้อย หลังสั้นและตรง คอเรียวยาว หางโค้งยาว
  • สี : ดำ, เทา, สีสวาด, สีเกาลัด, สีเบย์ (น้ำตาลแดงหรือน้ำตาล)
  • น้ำหนัก : ม้าโตเต็มวัยหนักประมาณ 360-450 กิโลกรัม
  • ส่วนสูง : ม้าโตเต็มวัยสูงได้ถึงประมาณ 1.4-1.5 เมตร
  • อายุขัย : ตั้งแต่ 25-30 ปี
  • อารมณ์ : ใจดี ฉลาด สงบ มีความซื่อสัตย์
  • การเดิน : วิ่งเหยาะๆ อย่างสง่า เท้ามั่นคง

6 ประเภท ม้าพันธุ์อาหรับ ที่ผ่านการปรับปรุงพันธุกรรม

ม้าอาหรับอียิปต์

  • สายพันธุ์หายาก คิดเป็นราวๆ 2% จากประชากรทั่วโลก มีต้นกำเนิดจากคนชนชั้นสูง ที่ต้องการเป็นเจ้าของ และในศตวรรษที่ 20 ผู้ผสมพันธุ์ในอียิปต์ เริ่มอนุรักษ์ไว้

รัสเซียอาระเบีย

  • พัฒนาขึ้นเมื่อศตวรรษที่ 17 โดยขุนนางชาวรัสเซีย และมีพ่อแม่พันธุ์ จากสายเลือดอาหรับที่แตกต่างกัน รวมถึง Crabbet และโปแลนด์ โดยทั่วไปมีสีน้ำตาลเข้ม

อาหรับโปแลนด์

  • ชาวโปแลนด์จับม้าอาหรับ ได้จากผู้รุกรานในศตวรรษที่ 16 และเริ่มต้นเพาะพันธุ์ ส่งผลให้นำไปสู่ การก่อตั้งสมาคมในปี 1926 ซึ่งมี 2 สายพันธุ์ คือ Seglawi และ Kuhailan

Crabbet-Arabian

  • กำเนิดช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ในเมือง Crabbet โดยนำเข้าม้ามาจากซีเรีย อิรัก และซาอุดีอาระเบีย โดยทั่วไปมีขนาดใหญ่กว่า และแข็งแรงกว่าม้าอียิปต์

อาหรับสเปน

  • พบน้อยสุดในบรรดาม้า 6 ประเภท คิดเป็นน้อยกว่า 1% ของประชากร มีการพัฒนาในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 โดยถูกนำเข้าจากตะวันออกกลาง โปแลนด์ และฝรั่งเศส

Shagya-Arabian

  • ถูกพัฒนาโดยกองทัพฮังการี เมื่อศตวรรษที่ 18 ขนาดตัวใหญ่ แข็งแกร่ง และกระโดดได้สูง โดยมีสายเลือดผสม จากพ่อพันธุ์อาหรับ และแม่พันธุ์ยุโรป

ที่มา: Six types of Arabian-horse [3]

การซื้อ-ขาย ม้าพันธุ์อาหรับ ราคาเท่าไหร่

ม้าพันธุ์อาหรับ

สำหรับการซื้อ-ขาย ม้าสายพันธุ์อาหรับ ราคาทั่วไปในอเมริกา เริ่มต้นตัวละ 5,000 ดอลลาร์ (183,700 บาท) ถึงราวๆ 30,000 ดอลลาร์ (1,102,200 บาท) ซึ่งราคาขั้นต่ำ แพงเกือบเท่าราคาสูงสุดของ วัวโฮลสไตน์ แต่ยังมีม้าค่าตัวสูง ที่มีชื่อเสียงอีกหลายตัว เช่น

  • Pepita : ถูกขายอยู่ที่ราคา 1.4 ล้านดอลลาร์ ในปี 2015
  • Marwan Al Shaqab : ม้าอาหรับจากกาตาร์ ที่เจ้าของเคยปฏิเสธเงินถึง 20 ล้านดอลลาร์ ในการขอซื้อ
  • NH Love Potion : ถูกขายอยู่ที่ราคา 2.55 ล้านดอลลาร์ ในปี 1984 จากงานประมูลในเมืองสกอตส์เดล
  • Padron : ถูกขายอยู่ที่ราคา 11 ล้านดอลลาร์ ในช่วงปี 1980 โดยให้กำเนิดลูกมากกว่า 700 ตัว พร้อมกับคว้าแชมป์หลายรายการ

ที่มา: Understanding the Purchase Price, High-Priced Arabian Horses: Famous Sales [4]

สรุป ม้าพันธุ์อาหรับ

ม้าพันธุ์อาหรับ มีบรรพบุรุษมายาวนาน โดยสำคัญต่อทั้งการเผยแผ่ศาสนา และการปรับปรุงพันธุกรรม แถมยังขึ้นชื่อว่า มีความแข็งแกร่งมหาศาล วิ่งเร็วได้สูงสุดถึง 40 ไมล์/ชั่วโมง ถูกนิยมใช้งานหลายด้าน ทั้งการขี่ ประกวด แข่งขัน รวมถึงจำหน่าย ซึ่งมีราคาสูงถึง 7 หลัก หรืออาจมากกว่านั้นในปัจจุบัน

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน
Picture of Jynx
Jynx

แหล่งอ้างอิง