มดแดงไฟ (Red Imported Fire Ant, ชื่อวิทยาศาสตร์ Solenopsis invicta) เป็นมดตัวจิ๋วที่หลายคนอาจเคยเจอ หรือโดนกัดมาก่อน และถึงแม้ว่ามันจะมีขนาดเล็กมาก ด้วยขนาดตัวแค่ประมาณ 2-6 มิลลิเมตร แต่พฤติกรรมและพิษของมัน ก็ถือว่าน่ากลัวพอตัวเลยทีเดียว มดแดงไฟมักจะทำรังใต้ดิน หรือในที่ร่ม ๆ และเมื่อมีใครไปรบกวนมัน ก็พร้อมจะพุ่งเข้าโจมตีทันที มาดูกันว่าเจ้ามดแดงไฟนี้ มีอะไรน่าสนใจและควรรู้บ้าง
มดแดงไฟ แม้ว่าจะมีขนาดเล็ก แต่พิษของมันเป็นสิ่งที่ต้องระวังอย่างมาก พิษจากการกัด และต่อยของมดแดงไฟ สามารถทำให้เกิดอาการเจ็บปวด และอักเสบได้ทันที และในบางกรณี ยังทำให้เกิดอาการแพ้ที่รุนแรงขึ้น ในบางคนได้ พิษของมดแดงไฟนั้น ไม่เพียงส่งผลต่อมนุษย์เท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อสัตว์เลี้ยง และสัตว์ขนาดเล็กอื่น ๆ ด้วย
ลักษณะของพิษ
พิษของมดแดงไฟมีองค์ประกอบ เป็นสารเคมีที่เรียกว่า Alkaloid venom ซึ่งเป็นสารที่มีฤทธิ์ทางเคมีแรงสูง ส่งผลกระทบต่อระบบประสาทของเหยื่อ พิษนี้ทำให้เกิดอาการปวดแสบปวดร้อน คล้ายกับการถูกไฟไหม้ เมื่อโดนต่อย ซึ่งเป็นที่มาของชื่อ “มดแดงไฟ” นั่นเอง [1]
นอกจากนี้ พิษของมดแดงไฟยังมีเอนไซม์ และโปรตีน ที่สามารถกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน ในร่างกายของมนุษย์ ให้ตอบสนองเป็นอาการแพ้ได้ ซึ่งอาจมีทั้งอาการแพ้แบบเล็กน้อย จนถึงรุนแรง
สัตว์เลี้ยงเช่นสุนัขและแมว ก็สามารถโดนมดแดงไฟต่อยได้เช่นกัน หากสัตว์เลี้ยงไปเล่น หรือเหยียบใกล้รังมดแดงไฟ อาจถูกมดจำนวนมากต่อยพร้อมกัน ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการแพ้คล้ายกับมนุษย์ รวมถึงอาการบวมแดงที่ผิวหนัง ตุ่มน้ำ และการอักเสบ หากสัตว์เลี้ยงแสดงอาการแพ้ หลังจากถูกมดแดงไฟต่อย ควรพาไปพบสัตวแพทย์ทันที
วิธีการรักษาเบื้องต้นหากถูกมดแดงไฟต่อย
มดแดงไฟ เป็นมดที่มีพฤติกรรมก้าวร้าว และมีการจัดการสังคม อย่างเป็นระบบภายในรังของพวกมัน ทั้งในด้านการหาอาหาร การป้องกันรัง และการสืบพันธุ์ ซึ่งล้วนแสดงถึงความสามารถ ในการปรับตัวของมัน ในสภาพแวดล้อมต่าง ๆ มดแดงไฟเป็นนักล่าที่มีประสิทธิภาพ พวกมันหาอาหาร โดยออกจากรัง และสร้างเส้นทางออกหาเหยื่อ เป็นแนวตามกลิ่น มันกิน แมลงเล็ก ๆ ซากสัตว์ และบางครั้งยังล่าพืช หรือเมล็ดพันธุ์เล็ก ๆ อีกด้วย
การทำงานเป็นทีมของมดแดงไฟ ทำให้มันสามารถล่าเหยื่อ ที่มีขนาดใหญ่กว่าตัวเองได้อย่างง่ายดาย เมื่อหาอาหาร มดจะส่งสัญญาณเคมีผ่านฟีโรโมน เพื่อบอกตำแหน่งอาหารให้กับมดตัวอื่น ๆ ในรัง
มดแดงไฟเป็นมดที่มีลักษณะเด่นชัดเจน ด้วยสี เหลืองแดง บนตัวและมีขนที่หัวและลำตัวเล็กน้อย หนวดของมันมีทั้งหมด 10 ปล้อง และมีลักษณะของอกที่แคบ จนสามารถสังเกตได้ชัดเจน จุดสำคัญที่ทำให้มดแดงไฟแตกต่าง จากมดชนิดอื่น คือ มีปุ่มที่ลำตัว 2 ปุ่ม ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของพวกมัน และท้องของมันมีลักษณะเป็นรูปไข่ พร้อมลายขวางสีน้ำตาล
มดแดงไฟมีเหล็กใน เหมือนกับแมลงอย่าง ผึ้งหลวง ต่อหัวเสือ หรือ แตนยักษ์เอเชีย ที่ใช้ในการป้องกันตัวและโจมตีศัตรู เมื่อมันต่อย ผู้ที่ถูกต่อยจะรู้สึกเจ็บแสบคล้ายกับถูกไฟลวก หลังจากถูกต่อย อาการบวมแดงจะขยายตัว และจุดที่ถูกต่อยจะมีตุ่มน้ำใสคล้ายถูกไฟลวก นอกจากนี้ ยังมีอาการคันรุนแรง ซึ่งถ้าเกาผิวหนังตรงบริเวณนั้น จะทำให้บวมแดงและขยายวงกว้างขึ้นได้ [2]
เป็นมดขนาดเล็ก ที่มักพบเจอได้ในหลายพื้นที่ ทั้งในเขตร้อนและเขตอบอุ่น แต่เดิมทีมดแดงไฟมีถิ่นกำเนิดอยู่ในอเมริกาใต้ ก่อนจะแพร่กระจายไปยังประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นในอเมริกาเหนือ เอเชีย หรือยุโรป มันสามารถอยู่ในที่อยู่อาศัยหลากหลาย ทั้งในพื้นที่เกษตรกรรม เมือง หรือแม้แต่ในสวนสาธารณะ
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์
ชื่อทวินาม
ที่มา: “มดคันไฟอิวิคต้า” [3]
สรุป มดแดงไฟ อาจจะเป็นแค่มดตัวเล็ก ๆ แต่พลังของมันไม่เล็กอย่างตัวเลย ทั้งในแง่ของการกัด การปล่อยพิษ และการโจมตีที่เจ็บปวด ทำให้มดชนิดนี้เป็นที่น่ากลัว และควรระมัดระวังหากพบเจอเข้า แต่ถ้าหากเรารู้วิธี การป้องกันที่เหมาะสม และการจัดการอย่างถูกวิธี เราก็สามารถอยู่ร่วมกับธรรมชาติได้ โดยไม่ต้องกังวลมากนัก