รู้จัก นกเลิฟเบิร์ด สัตว์เลี้ยงตัวแทนแห่งความรัก

นกเลิฟเบิร์ด

นกเลิฟเบิร์ด หรือ Lovebird หนึ่งในตระกูล นกแก้วขนาดเล็ก ที่มีสีสัน Color Full และเสียงเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งพวกมัน เป็นที่รู้จักมากขึ้น จากพฤติกรรม ที่ปฏิบัติต่อคู่ของตน โดยมักแสดงความรัก กะหนุงกะหนิง จนได้กลายมาเป็น ตัวแทนแห่งความรัก ที่หลายคนรู้สึกเอ็นดู

ซึ่งในปัจจุบัน พวกมันคือ 1 ในสายพันธุ์นกแก้ว ที่มีความนิยมสูง ไม่ต่างจาก นกแก้วริงเนค นกแก้วฟอฟัส หรือนกแก้วซันคอนัวร์ โดยข้อมูลต่างๆ สำหรับคนอยากรู้จัก หรือต้องการดูแล จะมีอะไรบ้าง ติดตามต่อได้ที่ เนื้อหาด้านล่าง

ประวัติ นกเลิฟเบิร์ด มีถิ่นกำเนิดจากพื้นที่ไหน

นกเลิฟเบิร์ด หนึ่งในนกแก้วสกุล Agapornis ที่มีถิ่นกำเนิด มาจากทางตะวันตก ของทวีปแอฟริกา และหมู่เกาะมาดากัสการ์ ซึ่งเป็นพื้นที่อบอุ่น ไปจนถึงเขตร้อน โดยย้อนกลับไปเมื่อ ค.ศ. 1840 นกสายพันธุ์นี้ มีชื่อเรียกว่า “Little parrot” หรือนกแก้วเล็ก และมีประวัติกล่าวว่า…

ชาวแอฟริกันคนหนึ่ง เป็นผู้นำนกเข้าไปยังยุโรป และด้วยซิกเนเจอร์ ที่พวกมันมักอยู่เป็นคู่ จึงได้รับชื่อเรียกใหม่ ว่าเป็นนก Lovebird ต่อมาในช่วงทศวรรษที่ 60 ก็ได้แพร่ขยาย ไปยังสหรัฐฯ และเกิดเป็นที่นิยมมากๆ จนในทศวรรษที่ 80 จึงได้มีการปรับปรุงสายพันธุ์ และเป็นที่รู้จัก ในฐานะสัตว์เลี้ยงสวยงาม จนถึงปัจจุบัน

ที่มา: นกเลิฟเบิร์ด [1]

ลักษณะทั่วไป นกเลิฟเบิร์ด และข้อมูลเฉพาะ

นกเลิฟเบิร์ด

สำหรับลักษณะของ นกเลิฟเบิร์ด เป็นที่รู้กันดี ว่าหางของมันจะสั้น และค่อนข้างทู่ แต่มีโครงสร้างแข็งแรง ซึ่งต่างจากนกตระกูลเดียวกัน ส่วนสีของมัน พบเห็นได้หลากหลาย เช่น ส้ม, เหลือง, เขียว, แดง, น้ำเงิน แต่ที่พบบ่อยสุด คือมีการไล่เฉดสี จากหัวไปจนถึงหาง และ 1 ตัว มีได้มากกว่า 3 สี

โดยทั่วไป นกแห่งรักพวกนี้ จะมีขนาดเมื่อโตเต็มที่ ประมาณ 13-17 เซนติเมตร พร้อมน้ำหนักเฉลี่ย 50 กรัม และสามารถมีอายุขัยราวๆ 15-20 ปี [2] ซึ่งมีทั้งพันธุ์ที่คนเลี้ยง และไม่เลี้ยง แบ่งออกเป็น 2 ชนิดหลักๆ คือ มีขอบตา กับไม่มีขอบตา และแยกย่อยได้ ดังเช่นหัวข้อต่อไป

9 สายพันธุ์ นกเลิฟเบิร์ด ยอดฮิต

  1. Mask Lovebird สายพันธุ์ที่มีมากกว่า 30 สีสัน
  2. Fischer’s Lovebird สีเด่นๆ ได้แก่ โทนฟ้าและโทนเขียว
  3. Black Cheeked Lovebird มีหัวสีดำปี๋ ขนาดตัวเล็กกว่า 2 พันธุ์ด้านบน
  4. Nyasa Lovebird สีขอบตาชัดเจน ตัวเขียว-หน้าแดง ตัวฟ้า-หน้าขาว
  5. Peach Faced Lovebird สีเขียวสดใสทั้งตัว เล็บสีแดง จะงอยสีขาวนวล
  6. Black Collared Lovebird สีคล้ายพันธุ์ Swinderenis แต่ขนลำตัว จะมีสีฟ้าอ่อนๆ และขนคอสีเหลือง
  7. Madagascar LoveBird สายพันธุ์มาดากัสการ์ ตัวเมียสีเขียวล้วน ตัวผู้มีสีขาวรอบคอ และหัว
  8. Abyssinian Lovebird นกแก้วหัวโต ตัวผู้หน้าสีแดง แต่ตัวเมียไม่มี
  9. Red Face Lovebird ลำตัวสีเขียวสด ตัดกับสีแดงบนใบหน้า

ที่มา: สายพันธุ์ของนกเลิฟเบิร์ด [3]

เตรียมตัวเลี้ยง นกเลิฟเบิร์ด สำหรับแม่นกมือใหม่

นกเลิฟเบิร์ด

ก่อนซื้อ นกเลิฟเบิร์ด มาเลี้ยง ควรจัดเตรียมกรง ที่มีขนาดกว้าง และบริเวณที่เลี้ยง ต้องมีอากาศถ่ายเท ไม่ทึบแสง ป้องกันลมฝน แต่ถ้าจะให้ดี ควรมีกรงแบบโรงเรือน ล้อมด้วยตาข่าย ถี่ปานกลาง เพื่อป้องกันยุง หรือสัตว์เล็ก ซึ่งขนาดของกรง และอุปกรณ์เพิ่มเติม มีดังนี้

อยากเลี้ยง นกเลิฟเบิร์ด ต้องมีสิ่งนี้

  • ขนาดกรง : โดยประมาณ 21 x 32 x 22
  • รังฟักไข่ : ขนาดโดยประมาณ 7 x 12 x 7
  • อาหาร : ธัญพืช, ขนมปัง, หญ้าขน หรือผลไม้
  • น้ำ : ใส่ไว้ในกระบอก หรือถ้วย ควรเปลี่ยนทุกวัน

ราคา นกเลิฟเบิร์ด และแหล่งซื้อ

ทางด้านค่าตัวของ นกเลิฟเบิร์ด อ้างอิงราคาจาก เว็บไซต์ Petz World Chiang Mai ราคาอยู่ที่ 500-1,000 บาท หรือหากใครสะดวก ไปเลือกด้วยตัวเองได้ที่ พิกัด ตลาดสัตว์เลี้ยง สวนบวกหาด 6319 ห้อง 8 ถนนอารักษ์ อำเภอเมืองเชียงใหม่ เชียงใหม่ 50200 หรือโทร 084-804-7286 ภายในเวลา 09.00-20.30 น. ทุกวัน

สรุป นกเลิฟเบิร์ด คู่รักสัตว์สีสดใส

นกเลิฟเบิร์ด เป็นนกแก้วตัวจิ๋ว สีสวย ที่อาจจะไม่ค่อยพูด หรือส่งเสียงเท่าไหร่ เหมาะกับคน อยากเลี้ยงนกแก้ว ราคาเบาๆ และยังต้องการความสงบ แต่แนะนำว่า ให้ซื้อมาเป็นคู่ เพราะการอยู่ตัวเดียว ไม่ใช่นิสัยของมัน อีกทั้งยังอาจทำให้ ไม่ร่าเริง มีอาการซึม ไม่กินอาหาร และเป็นสาเหตุ ทำให้ป่วยได้

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน
Picture of Jynx
Jynx

แหล่งอ้างอิง