นกอีกา สื่อถึงอะไร บล็อกชวนผู้อ่านมาไขข้อสงสัยที่ว่า สัตว์นักล่า และสัตว์กินซากอย่าง “ อีกา ” เป็น สัตว์ในเชิงสัญลักษณ์ ที่สื่อถึงด้านใด เป็นสัตว์บอกลางร้าย หรือลางดีกันแน่ แล้วถ้าอยากเลี้ยงพวกมันเป็นสัตว์เลี้ยง จะทำได้หรือไม่อย่างไร ด้วยคำถามที่อยากคลายความสงสัยเหล่านี้ พร้อมจะถูกเฉลย ถูกขยายความผ่านบล็อกนี้
“ อีกา ” สัตว์ที่เต็มไปด้วยตำนาน เรื่องเล่า ความเชื่อต่าง ๆ พวกมันเป็นกลุ่ม สัตว์ปีก ที่แพร่กระจายพันธุ์เป็นวงกว้าง เป็นนกที่ปรับตัวเก่ง สามารถกินอาหารได้หลากหลาย บางครั้งถูกมองว่าเป็นสัตว์ที่ก่อความรำคาญ โดยส่วนใหญ่จะมีความยาวประมาณ 46 – 59 เซนติเมตร ทั้งนี้ มีสายพันธุ์ทั้งหมด 34 พันธุ์ด้วยกัน ยกตัวอย่างเช่น
ที่มา: WIKIPEDIA – Crow [1]
มีตำนานมากมายเกี่ยวกับอีกา แต่บางทีอาจมีความเชื่อเรื่องโชคลางมากกว่า ซึ่งคำถามอย่าง นกอีกา สื่อถึงอะไร ส่วนใหญ่เป็นความเชื่อที่มีพื้นฐานมาจาก ลักษณะทางกายภาพที่ชัดเจนของสัตว์ อาทิเช่น เป็นสีดำทั้งตัว และกินซากศพสัตว์เป็นอาหาร บลา ๆ เหล่านี้มักเกี่ยวข้องกับความตาย ในยุคกลางมักเชื่อกันว่า หากพวกมันบินวนรอบหลังคา 3 ครั้ง แสดงว่าผู้ที่อยู่ในบ้านจะเสียชีวิต
ในทางกลับกัน ประเทศอังกฤษมีการห้ามคร่าอีกา เนื่องจากพวกเขามองว่า สัตว์ชนิดนี้มีความสำคัญในการป้องกันโรค อย่างไรก็ตาม มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้ว่า อีกาเป็นสัตว์ที่มีความผูกพัน ทางสายเลือดอย่างแน่นแฟ้น อีกทั้งยังเป็นสัตว์ที่มีคู่ครองเดียว ในอียิปต์โบราณ พวกมันจึงเป็นสัญลักษณ์ของความรักที่ซื่อสัตย์ ส่วนชาวกรีกได้เชื่อมโยงอีกากับเฮร่า เทพีแห่งการแต่งงาน และสงคราม [2]
หลาย ๆ ประเทศ หลาย ๆ พื้นที่มักมีความเชื่อ เกี่ยวกับอีกาที่แตกต่างกัน พวกมันถือว่าเป็นสัญลักษณ์ที่ซับซ้อน แต่ส่วนใหญ่ถูกมองว่าเป็นทั้งลางดี ลางร้าย ยกตัวอย่างเช่น
อย่างไรก็ตาม เรื่องเหล่านี้ล้วนมาจากบริบททางวัฒนธรรม การตีความจากเรื่องเล่า จากประสบการณ์ส่วนตัว สัญลักษณ์ ตำนาน รวมไปถึงความเชื่อส่วนบุคคล เป็นต้น
ในประเทศไทยอีกาเป็น สัตว์ป่าคุ้มครอง ที่มีการออกคำสั่งว่า ห้ามล่า ห้ามพยายามล่า ห้ามค้า ห้ามจำหน่าย ห้ามมีการนำเข้า หรือส่งออกใด ๆ อีกทั้งยังห้ามครอบครอง เพื่อการเป็นสัตว์เลี้ยง ห้ามเพาะพันธุ์ในรูปแบบฟาร์ม ห้ามเก็บแม้กระทั่งซาก และไข่ของพวกมัน หากมีการฝ่าฝืนอาจผิดกฎหมายได้ [3]
ด้วยอีกากับนกเรเวน เป็นสัตว์ปีกที่มีความคล้ายกันอย่างมาก จึงทำให้มีหลายเข้าใจผิดคิดว่า พวกมันเป็นนกตัวเดียวกัน แต่ความจริงแล้ว ทั้งสองมีความแตกต่างกันในหลาย ๆ เรื่อง อย่างแรกเลยก็คือ กาจะตัวเล็กกว่า Raven
อย่างที่สองคือ กามีถิ่นที่อยู่อาศัยทั่วโลก ส่วน Raven แทบไม่มีถิ่นที่อยู่อาศัยในเอเชียเลย ยกเว้นมองโกเลีย และเอเชียกลาง อย่างที่สามคือ กาจะมีเสียงร้องแหลมสูง ส่วนเรเวนมีเสียงร้องที่ต่ำ เป็นต้น
ด้วยข้อสงสัยมากมายเกี่ยวกับอีกา ที่เกี่ยวข้องกับลักษณะทางกายภาพ รวมถึงอุปนิสัยที่ชอบกินซากสัตว์ ทำให้บางวัฒนธรรม บางประเทศ บางประเพณี มีความเชื่อต่อพวกมันแตกต่างกันไป
บางพื้นที่ก็ยกให้กาเป็นสัญลักษณ์ด้านสติปัญญา บางที่ก็สื่อถึงกาว่าเป็น ตัวแทนของความรักที่ซื่อสัตย์ บางที่ก็บอกว่ากาเป็นสัตว์ที่บอกทั้งลางดี และลางร้าย เป็นต้น ทั้งนี้ทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับบริบทต่าง ๆ และความเชื่อส่วนบุคคลด้วย
ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา จำนวนกาในอเมริกาเหนือ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงพื้นที่อื่น ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในทะเลทรายโมฮาวี ซึ่งมีการรายงานว่า กาดำเพิ่มขึ้นถึง 700% ในช่วง 40 ปีที่ผ่านมา แม้ว่าจะเป็นข่าวดีท่ามกลางวิกฤตนก ในพื้นที่อเมริกาเหนือ และแคนาดา แต่การเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว อาจสร้างปัญหาให้กับสัตว์อื่น ๆ รวมถึงมนุษย์ได้
ไม่ว่าจะในประเทศใด อเมริกา หรือในไทย การเลี้ยงกา หรือการเป็นเจ้าของถือเป็นเรื่องผิดกฎหมาย แถมยังผิดจริยธรรม ความไม่เหมาะสม มีค่าใช้จ่ายสูง และอาจเสี่ยงต่อสุขภาพทั้งทางกาย และใจของกาอีกด้วย บล็อกนี้อยากแนะนำว่า หากต้องการเลี้ยงสัตว์กลุ่มสัตว์ปีก แนะว่าให้เลือกเลี้ยงนกยอดนิยม สายพันธุ์ที่สามารถเลี้ยงใน พื้นที่ที่คุณอยู่อาศัยได้จะดีที่สุด