จิ้งจอกเจิ้น จอมโจรตัวร้าย

จิ้งจอกเจิ้น

จิ้งจอกเจิ้น (Zhen) เป็นตัวละครใหม่ใน Kung Fu Panda 4 ซึ่งเป็นสุนัขจิ้งจอกสาว ที่เคยมีอดีตอันซับซ้อน ก่อนจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง และมีบทบาทสำคัญ ในเรื่องราวของภาพยนตร์นี้ เธอเริ่มต้นชีวิตในฐานะเด็กกำพร้าในเมือง Juniper City และต้องใช้ชีวิตอยู่ในโลกของอาชญากรรม ภายใต้การชักนำของ The Chameleon ซึ่งเป็นวายร้ายหลักในภาคนี้

อดีตของ จิ้งจอกเจิ้น

จิ้งจอกเจิ้น (Zhen) ในอดีตเธอใช้ชีวิตมาอย่างยากลำบาก และต้องหาทางเอาตัวรอด ด้วยการขโมยของในเมือง ซึ่งนำเธอไปสู่การพบกับ The Chameleon กิ้งก่าวายร้ายผู้ทรงพลังในเรื่อง เจิ้นพยายามขโมยอัญมณีจากเธอ แต่แทนที่จะลงโทษ คาเมเลี่ยนกลับเห็นความกล้าหาญ และศักยภาพของเธอ จึงรับเธอมาเป็นลูกศิษย์

จากนั้นก็สอนทั้งกังฟู และกลวิธีในการหลอกลวงให้กับเจิ้น อย่างไรก็ตาม ความสัมพันธ์ระหว่างเจิ้น กับคาเมเลี่ยน ไม่ได้ตั้งอยู่บนความรัก หรือความไว้ใจ แม้จะดูเหมือนเป็นการดูแลแบบแม่ลูก แต่แท้จริงแล้ว คาเมเลี่ยนมองเจิ้น เป็นเพียงเครื่องมือ ที่มีค่าในแผนการของตน เธอสอนเจิ้นอยู่ตลอดว่าอย่าไว้ใจใคร นี่จึงหล่อหลอมให้เจิ้น ไม่เปิดใจให้ใครง่ายๆ

ในช่วงแรก เจิ้นทำงานให้กับคาเมเลี่ยน โดยไม่ตั้งคำถาม แต่เมื่อเวลาผ่านไป การพบกับ โปแพนด้า (Po) และการเรียนรู้เกี่ยวกับมิตรภาพ และความสำคัญของความเสียสละ ทำให้เธอเริ่มตั้งคำถามต่อวิธีการ และความเชื่อเดิมของตน ในที่สุดเจิ้นเลือกที่จะหันหลัง ให้กับอดีต และกลายเป็นพันธมิตรของโป ในภารกิจสำคัญ เพื่อต่อสู้กับคาเมเลี่ยน [1]

กฎเหล็กของสุนัขจิ้งจอกเจิ้น

เจิ้นมีกฎประจำตัวอยู่ 3 ข้อ เป็นกฎที่คาเมเลี่ยน (The Chameleon) สอนให้ เพื่อหล่อหลอมเธอ ให้เป็นลูกศิษย์ที่เหมาะสม กับโลกของการหลอกลวง และอาชญากรรม

  1. อย่าไว้ใจใคร – สอนให้เจิ้นเชื่อว่า ไม่มีใครจริงใจกับเธอ และเธอควรระมัดระวังตัวอยู่เสมอ
  2. คนอื่นต้องเจ็บ แต่ต้องไม่ใช่ตัวเธอ – เป็นการปลูกฝังให้เจิ้นรู้จักเอาตัวรอด โดยการผลักภาระ หรือปัญหาไปให้คนอื่น
  3. ไม่มีใครสนใจความรู้สึกของเธอ – สะท้อนมุมมองเย็นชา และความจริงที่คาเมเลี่ยนใช้ เพื่อปกป้องตัวเอง และผลักดันเจิ้น ไม่ให้แสดงอารมณ์ หรือความอ่อนไหว

กฎเหล่านี้แสดงถึงความเย็นชา และความคิดแบบเอาตัวรอด ที่คาเมเลี่ยนใช้ชีวิตอยู่ และเป็นเหตุผลหนึ่ง ที่ทำให้เจิ้นเติบโตมา ในแนวทางที่ขัดแย้งกับธรรมชาติ ที่แท้จริงของเธอ เมื่อเธอได้เรียนรู้จากโป ว่าชีวิตนั้นมีความหมาย มากกว่าการเอาตัวรอดเพียงอย่างเดียว

ความเก่งกาจของเจิ้น

เจิ้นโดดเด่นด้วยความสามารถหลากหลาย ที่สะท้อนทั้งทักษะส่วนตัว และการฝึกฝนที่เธอได้รับจากคาเมเลี่ยน และประสบการณ์ชีวิตในฐานะหัวขโมย

  • ความคล่องตัวสูง : เจิ้นมีความคล่องแคล่ว และว่องไวเป็นเลิศ ซึ่งเป็นผลมาจากการเติบโต ในฐานะหัวขโมย และการฝึกกังฟู ความสามารถนี้ ทำให้เธอสามารถหลบหลีกการโจมตี และเคลื่อนไหวอย่างแม่นยำ ในสถานการณ์ต่างๆ
  • ทักษะการวางแผน : เธอเป็นนักวางแผน และนักหลอกลวงที่ชำนาญ สามารถใช้กลอุบายหลอกล่อศัตรู หรือบรรลุเป้าหมายที่ต้องการได้ สิ่งนี้ได้รับการฝึกจากคาเมเลี่ยน ตั้งแต่เด็ก
  • กังฟู และการต่อสู้ด้วยไหวพริบ : แม้เจิ้นจะไม่ได้มีพละกำลัง เทียบเท่าตัวละครอย่างโป หรือศัตรูในระดับสูง แต่เธอชดเชยจุดอ่อนนี้ ด้วยไหวพริบ และการใช้จุดเด่นของตัวเอง เช่น การเคลื่อนที่เร็ว และการโจมตีที่มุ่งเป้า

ฉากเด่นของ จิ้งจอกเจิ้น ในกังฟูแพนด้า

จิ้งจอกเจิ้น

จิ้งจอกเจิ้น ใน Kung Fu Panda 4 เธอมีฉากเด่นหลายฉาก ที่สะท้อนทั้งพัฒนาการของตัวละคร และความสามารถพิเศษของเธอ

  • การขโมย Staff of Wisdom : หนึ่งในฉากแรกที่แสดงให้เห็นความสามารถของเจิ้น คือภารกิจที่เธอได้รับจากคาเมเลี่ยน ในการขโมยไม้เท้าแห่งปัญญาจากโป ฉากนี้แสดงให้เห็นถึงความคล่องตัว ทักษะในการลอบเร้น และความสามารถด้านการหลอกลวงของเธอ [2]
  • การเผชิญหน้ากับคาเมเลี่ยน (The Chameleon) : ในฉากสำคัญที่เจิ้นตัดสินใจเผชิญหน้ากับคาเมเลี่ยน เธอแสดงให้เห็นถึงความกล้าหาญและการเลือกที่จะยืนหยัดเพื่อสิ่งที่ถูกต้อง แม้ว่าคาเมเลี่ยน จะเป็นผู้ฝึกสอน และดูแลเธอในอดีต
  • การช่วยโปในศึกสุดท้าย : ในช่วงไคลแมกซ์ เจิ้นมีบทบาทสำคัญในการช่วยโปต่อสู้ โดยเธอใช้ทั้งทักษะกังฟู และไหวพริบเพื่อสนับสนุนโป นอกจากนี้ เธอยังเป็นผู้ใช้ความสามารถ “Skadoosh” ที่โปสอนให้ เพื่อโค่นล้มคาเมเลี่ยน ได้ในที่สุด

การตอบโต้คาเมเลี่ยนของเจิ้น

ในฉากสุดท้ายระหว่างเจิ้น และคาเมเลี่ยน หลังจากที่เธอพ่ายแพ้ เธอขอร้องให้เจิ้นช่วยเหลือ แต่เจิ้นใช้คำพูดจากกฎข้อที่สาม ที่เธอเคยถูกสอนกลับไปว่า “ไม่มีใครสนใจความรู้สึกของคุณ” เป็นการปิดฉากความสัมพันธ์ ที่เป็นพิษระหว่างพวกเธออย่างสมบูรณ์ การเติบโตของเจิ้น ในการเรียนรู้ที่จะเลือกเส้นทางชีวิตที่ถูกต้อง และนี่ถือเป็นแบบอย่างที่ดีอย่างมาก [3]

สุนัขจิ้งจอกในโลกจริง

สุนัขจิ้งจอก (Fox) เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในวงศ์ Canidae ซึ่งมีลักษณะคล้ายสุนัขทั่วไป แต่ตัวเล็กกว่า มีหางที่ยาว และพุ่มฟู มีหูแหลมเด่นชัด มีขนหลากสี ตั้งแต่สีแดง น้ำตาล ดำ ไปจนถึงสีเทา สุนัขจิ้งจอกมีการกระจายตัวอยู่ทั่วโลก โดยเฉพาะในพื้นที่ป่า ทุ่งหญ้า และแม้กระทั่งในเขตเมือง บางชนิดสามารถปรับตัวให้อยู่ใกล้กับมนุษย์ได้

ชนิดที่พบได้บ่อย

  • สุนัขจิ้งจอกแดง (Red Fox) : พบได้ทั่วโลก เป็นชนิดที่รู้จักกันดี
  • สุนัขจิ้งจอกอาร์กติก (Arctic Fox) : มีขนสีขาว เพื่อพรางตัวในหิมะ
  • สุนัขจิ้งจอกเฟนเนก (Fennec Fox) : มีขนาดเล็ก และหูใหญ่ เพื่อช่วยระบายความร้อน ในพื้นที่ทะเลทราย

สุนัขจิ้งจอกส่วนใหญ่ ออกหากินในเวลากลางคืน สุนัขจิ้งจอกมีความสามารถในการปรับตัวสูง สามารถอาศัยอยู่ในหลากหลายสภาพแวดล้อม บางชนิดเรียนรู้การหากินในเขตเมือง โดยกินอาหารจากของเหลือที่มนุษย์ทิ้งไว้ และอีกทั้งยังเป็นสัญลักษณ์ ทางวัฒนธรรมในหลายประเทศ เช่น ตัวแทนความฉลาด และความเจ้าเล่ห์ในนิทานพื้นบ้าน

สรุป จิ้งจอกเจิ้น อดีตหัวขโมยสู่ผู้พิทักษ์

สรุป จิ้งจอกเจิ้น เป็นสุนัขจิ้งจอกสาว ที่เคยเป็นหัวขโมย และลูกศิษย์ของคาเมเลี่ยน วายร้ายผู้ชักจูงเธอ ให้ใช้ชีวิตด้วยความเห็นแก่ตัว และหลอกลวง ต่อมาเจิ้นเรียนรู้ถึงมิตรภาพ ความรับผิดชอบ และการเสียสละ เธอเลือกหันหลังให้กับอดีต และช่วยโปต่อสู้กับคาเมเลี่ยนจนสำเร็จ บทบาทของเธอแสดงถึงการเติบโตที่ดีขึ้น จากอดีตที่มืดมนได้

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง