กระต่ายจูดี้ (Judy Hopps) เป็นกระต่ายสาวที่มุ่งมั่น และเป็นตัวละครเอกของเรื่อง ซึ่งมีความฝันที่จะเป็นตำรวจในเมืองใหญ่ แม้ว่าการเป็นตำรวจใน Zootopia จะไม่เคยมีมาก่อน ในประวัติศาสตร์ของกระต่าย เพราะตำรวจส่วนใหญ่ในเมืองนี้ จะเป็นสัตว์ที่มีรูปร่างใหญ่ และแข็งแรง แต่จูดี้ไม่เคยปล่อยให้คำสบประมาท หรืออุปสรรคใดมาหยุดเธอได้
กระต่ายจูดี้ เติบโตในหมู่บ้านเล็กๆ ที่ชื่อว่า Bunnyburrow ซึ่งเป็นบ้าน ของกระต่ายหลายพันตัว พ่อแม่ของจูดี้ เป็นเกษตรกรที่ปลูกแครอท และใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย พวกเขาอยากให้จูดี้เดินตามรอยครอบครัว และใช้ชีวิตที่สงบสุข แต่จูดี้กลับฝันใหญ่กว่านั้น เธออยากสร้างความแตกต่าง และเปลี่ยนแปลงโลก
เธอต้องการพิสูจน์ว่ากระต่าย ก็สามารถทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ได้ ตั้งแต่เด็ก จูดี้มีจิตใจที่กล้าหาญ และไม่กลัวการต่อสู้กับอุปสรรค เธอเผชิญกับการถูกรังแก จากจิ้งจอกเด็กชื่อ Gideon Grey ซึ่งทำให้เธอได้รับบาดเจ็บ แต่เหตุการณ์นั้น ไม่ได้ทำให้เธอยอมแพ้ แต่กลับทำให้เธอยิ่งตั้งใจ ที่จะปกป้องผู้ที่อ่อนแอกว่า และต่อสู้กับความไม่ยุติธรรม [1]
จูดี้เติบโตขึ้นมา พร้อมความมุ่งมั่นที่จะเป็นตำรวจ เธอสมัครเข้าโรงเรียนนายร้อยตำรวจ และผ่านการฝึกฝน ที่หนักหนาสาหัส แม้จะเป็นกระต่าย ที่ตัวเล็กสุดในชั้นเรียน แต่เธอใช้ไหวพริบ และความพยายาม เพื่อเอาชนะข้อจำกัดของตัวเอง ในที่สุดเธอก็จบการศึกษาในอันดับต้นๆ และกลายเป็นกระต่ายตัวแรก ที่ได้เข้าร่วมกรมตำรวจ Zootopia
เมื่อมาถึง Zootopia จูดี้เต็มไปด้วยความหวัง และความตื่นเต้น เมืองนี้เป็นดินแดนที่ทุกสิ่ง ดูเหมือนจะเป็นไปได้ ด้วยการแบ่งเขต ที่สะท้อนความหลากหลาย ทางสภาพแวดล้อม เช่น เขต Tundratown ที่เต็มไปด้วยหิมะ
เขต Sahara Square ที่ร้อนระอุ และ Rainforest District ที่ชื้นแฉะ อย่างไรก็ตาม ความจริงที่เธอพบ ในวันแรกของการทำงาน กลับแตกต่างจากความฝัน เธอถูกหัวหน้าสถานีตำรวจ Chief Bogo มอบหมายงาน ที่เป็นเพียงตำรวจจราจร เพราะเขาไม่เชื่อ ว่ากระต่ายตัวเล็กอย่างเธอ จะทำงานใหญ่ได้ [2]
เหตุการณ์ที่จูดี้ ฮอปส์พบกับนิค ไวลด์ครั้งแรกในเรื่อง “Zootopia” เป็นฉากที่เต็มไปด้วยความเฉียบแหลม และไหวพริบของทั้งสองฝ่าย โดยเริ่มต้นเมื่อจูดี้ ทำหน้าที่ตำรวจจราจร และกำลังดูแลความเรียบร้อย ของถนนในเมือง เธอเห็น จิ้งจอกนิค ที่ดูเหมือนจะเป็นเพียงพลเมืองธรรมดา ที่กำลังซื้อไอศกรีม จากร้านขายไอศกรีมของช้าง
นิคปรากฏตัวในชุดเสื้อเชิ้ตลาย สีเขียวสดใส และผูกเนกไท เขาพา “ลูกชาย” ซึ่งเป็นลูกลิงกระรอกอาร์กติกตัวเล็ก (แต่จริงๆแล้วเป็นเพียงลูกสมุนที่กำลังปลอมตัว) เข้าไปในร้าน นิคพยายามซื้อไอศกรีมยักษ์สำหรับ “ลูกชาย” แต่เจ้าของร้านช้าง ปฏิเสธที่จะขายให้ เพราะมีอคติต่อจิ้งจอก นิคพยายามพูดจาอ่อนหวาน และทำตัวสุภาพ แต่ไม่ได้ผล
ในขณะเดียวกัน จูดี้ ซึ่งกำลังสังเกตการณ์อยู่ใกล้ๆ ก็รู้สึกไม่พอใจ ที่เห็นการเลือกปฏิบัติ เธอเข้าไปช่วยนิค โดยใช้ตำแหน่งตำรวจของเธอ เกลี้ยกล่อมเจ้าของร้านจนสำเร็จ และจ่ายเงินสำหรับไอศกรีมแท่งใหญ่ ให้นิคด้วยตัวเอง เพราะคิดว่านิคเป็นพ่อที่กำลังพยายามทำเพื่อ “ลูกชาย” อย่างดีที่สุด
กระต่ายจูดี้ บังเอิญเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด หลังจากที่นิคได้ไอศกรีมยักษ์ นิคนำมันออกมาข้างนอก เขาและลูกชาย เริ่มแผนการต้มตุ๋นอย่างแยบยล พวกเขานำไอศกรีม ไปละลายกลางแดด จนกลายเป็นน้ำเชื่อม แล้วแบ่งน้ำเชื่อม ออกมาใส่แม่พิมพ์เล็กๆ เพื่อทำเป็นไอศกรีมแท่งขนาดเล็ก จากนั้นพวกเขาก็นำไปขาย ให้เหล่าลูกหนูตัวเล็กๆ
ในเขต Rodentia District ในราคาที่สูงกว่าปกติ แผนนี้ทำให้นิค ทำกำไรได้มหาศาล จากไอศกรีมเพียงแท่งเดียว จูดี้รู้ทันทีว่าเธอถูกนิคหลอก เธอพยายามเผชิญหน้ากับนิค แต่เขาก็ไม่แสดงออก ถึงความสำนึกผิด และยังพูดจาดูถูกเธอ เขาชี้ให้เห็นถึงข้อจำกัดของเธอ ในฐานะกระต่ายตำรวจตัวเล็ก และย้ำว่าระบบในเมืองซูโทเปีย
ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อคนอย่างเขา คนที่ฉลาด และรู้จักปรับตัว เพื่อเอาตัวรอดในเมืองใหญ่ การพบกับนิค ทำให้จูดี้เริ่มตระหนัก ถึงความซับซ้อนของเมืองซูโทเปีย และธรรมชาติ ของความไม่เท่าเทียมที่ยังคงอยู่ แม้จะเป็นเมือง ที่ส่งเสริมความหลากหลาย แต่ในความเป็นจริง ที่ยังมีอคติ และการแบ่งแยก ระหว่างสายพันธุ์อย่างลึกซึ้ง
จุดพลิกผันของเรื่อง เกิดขึ้นเมื่อจูดี้ ได้รับมอบหมายให้ไขคดี สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมหลายตัว ที่หายตัวไปโดยไม่มีร่องรอย เธอตัดสินใจใช้โอกาสนี้ พิสูจน์ความสามารถของตัวเอง เธอบังคับให้นิค ร่วมมือกับเธอ โดยใช้หลักฐานความผิดของเขา เป็นตัวประกัน ทั้งสองออกเดินทางไปทั่วซูโทเปีย เพื่อสืบหาความจริง
การสืบสวนที่พลิกผัน
ในการสืบสวน จูดี้และนิค พบว่าคดีสัตว์หายตัวนี้ เกี่ยวข้องกับการที่สัตว์หลายตัว กลายเป็นสัตว์ป่า และสูญเสียการควบคุมตัวเอง พวกเขาตามร่องรอยไป จนพบว่ามียาเคมีชนิดหนึ่ง ที่ทำให้สัตว์กลายเป็นบ้าดุร้าย และเบื้องหลังแผนการนี้ เกี่ยวข้องกับอำนาจทางการเมืองในเมือง
ในระหว่างการสืบสวน จูดี้และนิค เผชิญหน้ากับอุปสรรคมากมาย ทั้งการถูกขัดขวาง จากผู้มีอิทธิพล และความไม่ไว้วางใจ ระหว่างสายพันธุ์ ที่เพิ่มมากขึ้นในสังคม จูดี้ต้องเรียนรู้ที่จะเอาชนะ ความลำเอียงของตัวเอง รวมถึงเผชิญกับความผิดพลาด ที่เธอทำในอดีต
เมื่อสืบสวนลึกลงไป ทั้งสองพบว่าผู้อยู่เบื้องหลัง เหตุการณ์สัตว์กลายเป็นสัตว์ป่าคือ รองนายกเทศมนตรี Dawn Bellwether ซึ่งใช้ดอกไม้ไนท์ฮาวเลอร์ สกัดเป็นสารเคมี เพื่อโจมตีสัตว์กินเนื้อ เธอวางแผนปลุกปั่น ความหวาดกลัวในสังคม โดยหวังให้สัตว์กินพืช ซึ่งเป็นชนกลุ่มใหญ่ ได้ครองอำนาจเหนือสัตว์กินเนื้อ
จูดี้และนิคทำงานร่วมกัน เพื่อรวบรวมหลักฐาน และเปิดโปงตัวตนของ Bellwether ในฉากสุดท้ายที่ตึงเครียด พวกเขาใช้ไหวพริบ และความกล้าหาญ หยุดแผนการร้ายได้สำเร็จ หลังจากปิดคดี จูดี้ได้รับการยอมรับ ในฐานะตำรวจที่มีความสามารถ [3]
เธอเรียนรู้ที่จะเชื่อ ในความแตกต่าง และมองคนรอบตัวอย่างเท่าเทียม ในขณะที่นิค ตัดสินใจเปลี่ยนแปลงตัวเอง เขาเข้าร่วมกรมตำรวจซูโทเปีย และกลายเป็นคู่หูของจูดี้
สรุป กระต่ายจูดี้ ไม่ได้เป็นแค่กระต่ายตัวเล็กๆ ที่ฝันใหญ่ แต่เธอกลายเป็นตัวแทนของความหวัง การเปลี่ยนแปลง และความยุติธรรมในเมืองซูโทเปีย เรื่องราวของเธอ เป็นแรงบันดาลใจให้ทุกคน ที่เคยถูกดูถูก หรือมองข้ามว่า “พวกเขาก็สามารถทำสิ่งยิ่งใหญ่ได้ หากพวกเขาเชื่อมั่นในตัวเอง และไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรค”
