แมวผางปิง ผู้มีอุดมการณ์ที่สูงส่ง

แมวผางปิง

แมวผางปิง (Pang Bing) เป็นตัวละครที่น่าสนใจ และโดดเด่นใน Kung Fu Panda : Legends of Awesomeness เธอถูกออกแบบให้เป็น แมวสยาม (Siamese Cat) ซึ่งช่วยเสริมลักษณะเฉพาะตัวของเธอ ในฐานะตัวร้าย ที่มีความสง่างาม และลึกลับ เธอมีความสามารถในการวางแผนกลยุทธ์ที่แยบยล ซึ่งทำให้เธอก้าวนำหน้าศัตรูไปหลายก้าว

แมวผางปิง ผู้นำการปฏิวัติ

แมวผางปิง ในตอน “Emperor’s Rule” ผางปิงพยายามที่จะช่วงชิงอำนาจ จากจักรพรรดิของจีน โดยมีการวางแผนการปฏิวัติที่ซับซ้อน ซึ่งเกี่ยวข้องกับการลอบสังหาร และการจัดการเบื้องหลัง ผางปิงปรากฏตัวในฐานะผู้ก่อกบฏ ที่มีเป้าหมายเพื่อโค่นล้มจักรพรรดิแห่งจีน เธอเชื่อว่าระบอบการปกครองในปัจจุบัน เต็มไปด้วยความอยุติธรรม

เธอจึงตัดสินใจ รวมกลุ่มผู้ติดตามที่ภักดี และมีอุดมการณ์เดียวกัน เพื่อสร้างการปฏิวัติ โดยเชื่อว่าการขึ้นเป็นผู้นำของเธอ จะทำให้แผ่นดินจีนรุ่งเรืองยิ่งกว่าเดิม แผนการของเธอนั้น มีทั้งการสร้างความวุ่นวายในอาณาจักร การปลอมแปลงเอกสารสำคัญ เพื่อใส่ร้ายจักรพรรดิ และใช้ความสามารถ ทางการพูดโน้มน้าวใจของเธอ

เพื่อดึงดูดผู้สนับสนุนจำนวนมาก ทำให้โป และเพื่อนๆของเขาใน Furious Five ต้องร่วมมือกัน เพื่อหยุดแผนการของเธอ และในท้ายที่สุด พวกเขาก็สามารถเข้าขัดขวางแผนการของเธอได้สำเร็จ นี่เป็นการหยุดยั้งเพื่อรักษาสมดุล และปกป้องจักรพรรดิ [1]

อดีตของผางปิง

หลายศตวรรษก่อน ที่ผางปิงจะกลายเป็นนักสู้ ที่น่าเกรงขาม และตัวร้ายในปัจจุบัน เธอเคยเป็นหนึ่งในสมาชิกของ กลุ่มนักเวทย์ผู้รักสันติ ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ใช้เวทมนตร์ ที่มีอุดมการณ์สูงส่ง ในการสร้างความสมานฉันท์ทั่วแผ่นดินจีน กลุ่มของเธอเชื่อว่าเวทมนตร์ ไม่ควรถูกเก็บไว้ เพื่อประโยชน์ของคนเพียงกลุ่มเดียว แต่ควรนำมาใช้ เพื่อช่วยเหลือผู้คน

ไม่ว่าจะเป็นการรักษาโรคภัย การเกษตร หรือการป้องกันภัยธรรมชาติ พวกเขาเดินทางไปทั่วประเทศจีน เพื่อแสดงพลังอันเมตตาของพวกเขา และหวังให้ผู้คนเข้าใจว่าพลังนี้ ไม่ได้มีไว้เพื่อทำลาย แต่เพื่อสร้างความสมดุล แต่ชาวบ้านในยุคนั้น ซึ่งไม่คุ้นเคยกับเวทมนตร์ ต่างมองว่าพลังเหล่านี้เป็นภัยต่อชีวิต และความสงบสุข

หลายคนเชื่อว่ากลุ่มของผางปิง เป็นพวก “ปีศาจ” หรือ “คำสาป” ที่จะนำความหายนะ มาสู่หมู่บ้าน ความหวาดกลัวนี้ แพร่กระจายไปถึงหูของ จักรพรรดิในยุคนั้น ผู้ซึ่งเกรงว่ากลุ่มนักเวทย์เหล่านี้ จะเป็นภัยต่ออำนาจของราชวงศ์ ด้วยแรงกดดันจากขุนนาง และชาวบ้าน จักรพรรดิได้ออกคำสั่ง ให้จับกุมกลุ่มนักเวทย์ โดยกล่าวหาว่าพวกเขาเป็นกบฏ [2]

โศกนาฏกรรมที่เปลี่ยนชีวิตผางปิง

เมื่อกลุ่มของเธอถูกจับกุม ผางปิงและเพื่อนร่วมงาน พยายามอธิบายถึงความตั้งใจดีของพวกเขา แต่จักรพรรดิไม่รับฟัง ทหารของเขาจับพวกของผางปิง ไปขังในคุกใต้ดิน และสั่งประหารชีวิตในที่สุด ผางปิงเป็นคนเดียว ที่สามารถหลบหนีออกมาได้ ด้วยการใช้เวทมนตร์ของเธอ แต่เธอต้องเห็นเพื่อนร่วมอุดมการณ์ของเธอ ทุกคนถูกฆ่าตายต่อหน้าต่อตา

เธอหลบหนีไปยังภูเขาที่ห่างไกล และที่นั่นเอง ความรู้สึกของเธอเริ่มเปลี่ยน จากความเศร้าเป็นความโกรธแค้นที่ลุกโชน ผางปิงได้สาบานว่า จะทำลายจักรวรรดิ และผู้คนที่ทำให้เธอ และกลุ่มของเธอ ต้องพบกับจุดจบเช่นนี้ เธอไม่เพียงแต่โทษจักรพรรดิเท่านั้น แต่ยังโทษประชาชน ที่เลือกที่จะหวาดกลัว และทรยศผู้ที่หวังดีต่อพวกเขา

 การเดินทางของ แมวผางปิง

แมวผางปิง

แมวผางปิง หลังจากหลบหนีการจับกุม และเห็นเพื่อนร่วมอุดมการณ์ ต้องถูกประหาร เธอต้องหลบซ่อนตัว จากการตามล่าของจักรวรรดิ เธอเดินทางไปยังดินแดนห่างไกล ซึ่งไม่มีผู้คนกล้าเหยียบย่าง เช่น หุบเขาเยือกแข็ง หรือ ป่าทึบต้องคำสาป สถานที่เหล่านี้ ไม่เพียงมอบที่หลบภัยให้เธอ แต่ยังกลายเป็นแหล่งฝึกฝนพลังของเธอด้วย

ในระหว่างที่ซ่อนตัว ผางปิงพบกับ คัมภีร์โบราณ ที่บรรจุศาสตร์เวทมนตร์ลึกลับ ซึ่งเชื่อกันว่าสูญหายไปหลายร้อยปี ศาสตร์เหล่านี้ไม่ได้มีไว้เพื่อการปกป้อง หรือรักษา แต่เต็มไปด้วยพลังแห่งการทำลายล้าง และการควบคุมจิตใจ เธอเลือกที่จะฝึกฝนศาสตร์เหล่านี้ แม้ว่ามันจะค่อยๆทำให้จิตใจของเธอ มืดมนมากขึ้น แต่เธอไม่สนใจ เพราะการแก้แค้น

การสร้างพันธมิตรใหม่ของผางปิง

ตลอดหลายศตวรรษที่ผ่านมา ผางปิงไม่ได้ต่อสู้เพียงลำพัง เธอเดินทางไปทั่วแผ่นดินจีน และดินแดนโดยรอบ เพื่อค้นหาผู้ที่มีอุดมการณ์เดียวกัน ผู้ที่ถูกจักรวรรดิ หรือผู้มีอำนาจกดขี่ ผู้ที่ต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลง อย่างรุนแรง ผางปิงก่อตั้งกลุ่มลับ ที่เธอเรียกว่า “เงามืด” (The Shadow Pact) สมาชิกในกลุ่มนี้ เป็นผู้ใช้เวทมนตร์ นักรบ และสายลับ

ที่มีความจงรักภักดีต่อเธอ อย่างแท้จริง พวกเธอแทรกซึมเข้าไป ในโครงสร้างของจักรวรรดิ เพื่อก่อความไม่สงบในหมู่ประชาชน แต่ในบางครั้ง ผางปิงมักเห็นภาพของเพื่อนร่วมอุดมการณ์ ที่ยิ้มและกล่าวว่า “พลังของเราไม่ได้มีไว้เพื่อทำลายล้าง แต่เพื่อช่วยเหลือ” คำพูดเหล่านี้ มักทำให้เธอต้องหยุดคิด แม้จะเพียงชั่วครู่ ก่อนที่ความโกรธจะแทนที่

บทสรุปของผางปิงในปัจจุบัน
ความทะเยอทะยาน และความแค้นที่ฝังแน่น ทำให้เธอไม่ลังเลที่จะเผชิญหน้ากับ โปแพนด้า และ Furious Five แม้ว่าเธอจะถูกเอาชนะในท้ายที่สุด แต่ความลึกซึ้งในเรื่องราว และแรงจูงใจของเธอ ทำให้เธอเป็นตัวร้าย ที่ผู้ชมรู้สึกได้ถึงความเข้าใจ แม้จะไม่สามารถยอมรับ การกระทำของเธอได้ก็ตาม [3]

แมวสยามในโลกจริง

แมวสยาม เป็นสายพันธุ์แมวที่มีต้นกำเนิด ในประเทศไทย และเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก โดยมีลักษณะเด่นเฉพาะตัว ที่ทำให้ได้รับความนิยมอย่างมาก ในฐานะแมวเลี้ยง และสัตว์โชว์ในระดับสากล

ลักษณะเด่นของแมวสยาม

  • รูปร่าง : มีรูปร่างเพรียว ลำตัวขนาดกลาง หางยาวเรียว และมีกล้ามเนื้อที่สมส่วน
  • ขนและสี : ขนสั้น เรียบ และนุ่ม สีของขนมักมีลักษณะสีพื้น (ครีมหรือขาว) กับจุดสีเข้ม (Seal Point, Blue Point, Chocolate Point, Lilac Point) บริเวณใบหน้า หู ขา และหาง
  • ดวงตา : ตาสีฟ้าอ่อนหรือฟ้าเข้ม เป็นที่ดึงดูด และแสดงถึงความเป็นเอกลักษณ์
  • ลักษณะนิสัย : ฉลาด ขี้เล่น มีนิสัยชอบเข้าสังคม และมักจะติดเจ้าของมาก มีเสียงร้องที่ไพเราะ และชัดเจน

ความเชื่อเกี่ยวกับแมวสยาม
ในอดีต แมวสยามถูกมองว่าเป็นสัญลักษณ์ ของความโชคดี และความศักดิ์สิทธิ์ โดยมักถูกเลี้ยงในวัง หรือบ้านของชนชั้นสูงในสมัยโบราณ แมวสยามยังคงได้รับการยอมรับ ว่าเป็นสายพันธุ์แมวที่มีความสง่างาม และความน่ารักเฉพาะตัว ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของคนรักแมวทั่วโลก

สรุป แมวผางปิง โศกนาฏกรรมจากการแตกต่าง

สรุป แมวผางปิง อดีตได้สร้างเธอขึ้นมา ให้กลายเป็นตัวร้ายที่มีมิติ สิ่งนี้สะท้อนถึงความสำคัญของความเข้าใจ และการยอมรับในสิ่งที่แตกต่าง หากชาวบ้าน และจักรพรรดิในสมัยนั้นเลือกที่จะฟัง และเข้าใจเจตนาของเธอ บางทีประวัติศาสตร์อาจไม่ต้องจารึก เรื่องราวโศกนาฏกรรมนี้ไว้เลย ความเจ็บปวดได้หล่อหลอมให้กลายเป็นเธอในปัจจุบัน

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง