แมวทอยเกอร์ สายพันธุ์แมวบ้าน ที่ชื่อน้องเหมือนจะดุร้าย รูปลักษณ์ภายนอกแปลกตา จึงทำให้ดูเหมือน “ ตุ๊กตาเสือของเล่น ” โดยบทความนี้จะพามาเปิดโลก ของสายพันธุ์รักเจ้าของ เป็นมิตรกับคนอื่น แถมยังสร้างมิตรภาพกับสัตว์เลี้ยงอื่น ๆ ผ่านบทความนี้
ว่าด้วยสายพันธุ์นี้ เริ่มมีการพัฒนาในสหรัฐ เมื่อช่วงทศวรรษปี 1980 ผู้เพาะพันธุ์ “ จูดี้ ซักเดน ” ต้องการค้นหาความแตกต่าง ระหว่างเครื่องหมายต่าง ๆ บนลำตัวแมวลาย หลังเห็นความแตกต่าง ภารกิจการพัฒนาเหมียวเสือของเล่น ได้เริ่มต้นขึ้นอย่างจริงจัง
ด้วยการนำแมวบ้านประมาณ 40 ตัว จากหลายประเทศ มาพัฒนาด้วยการเพาะพันธุ์ ซึ่งรวมถึง แมวเบงกอล ( Bengal Cat ) แมวป่าหน้าตาคล้ายเสือ ขนสั้น จนสุดท้ายผู้เพาะพันธุ์ ประสบความสำเร็จในการสร้างน้องขึ้นมา จนในปี พ.ศ. 2536 ได้ถูกการยอมรับจากองค์กร “ TICA ” ในที่สุด [1]
ในส่วนของลักษณะนิสัย หรือพฤติกรรมที่น้องเป็นอยู่ ส่วนใหญ่สายพันธุ์นี้เป็นมิตร เข้ากับเจ้าของ รวมถึงคนอื่น ๆ ได้ง่าย ถือว่าเป็นส่วนเสริมที่ดี ให้กับเจ้าของบ้านที่มีเด็กเล็ก หรือสัตว์เลี้ยงอื่น ๆ
อีกทั้งน้องพร้อมจะเล่น และพร้อมได้รับการฝึกให้เชื่อง น้องจึงเหมาะกับเจ้าของที่มีเวลาให้ หากเจ้าของที่มีเวลาอยู่นอกบ้าน มากกว่าอยู่ในบ้าน สายพันธุ์นี้อาจจะไม่เหมาะกับคุณ
สำหรับ แมวทอยเกอร์ เหมียวเสือของเล่น มีสุขภาพโดยรวมที่ดีพอสมควร เนื่องจากเป็นสายพันธุ์ที่ใหม่ และหายาก แต่น้องก็ยังมีความเสี่ยงสูง ต่อการเกิดเป็นโรคหัวใจในแมว, ภาวะหัวใจล้มเหลว, โรคกล้ามเนื้อหัวใจหนาผิดปกติ, ต้อกระจก เป็นต้น มากเกินกว่าสายพันธุ์อื่น ๆ แต่อัตราของภาวะเสี่ยง ณ เวลานี้ ยังมีตัวเลขที่ต่ำ [2]
ในส่วนของขั้นตอนการดูแล จะเป็นขั้นตอนเบื้องต้น ที่อยากแนะนำทาสแมวมือใหม่ โดยรายละเอียดมีดังนี้
ที่มา: MEOW BARN – สายพันธุ์แมวทอยเกอร์ [3]
อย่างที่ได้บอกไปข้างต้นแล้วว่า เหมียวสายพันธุ์นี้ ค่อนข้างราคาสูง และหายาก หากอยากจะเลี้ยงพันธุ์แท้ ในโลกนี้มีผู้เพาะพันธุ์ไม่ถึง 30 รายในโลก ราคาค่าตัวเฉลี่ย เริ่มต้นที่ 17,250 – 103,500 บาทขึ้นไป ถ้าจะรับเลี้ยงจริง ๆ อาจจะต้องติดต่อศูนย์ช่วยเหลือพันธุ์แท้
บางประเทศได้กำหนดให้เจ้าของ ถ้าจะเลี้ยงจะต้องมีใบอนุญาตก่อนเลี้ยง รวมถึงประเทศไทยด้วย เนื่องจากสายพันธุ์นี้ มีความเกี่ยวข้องกับแมวเบงกอล ซึ่งมีพันธุกรรมทับซ้อนกับแมวป่า นี่อาจเป็นข้อพิจารณาต่อทาสแมว ที่อยากจะเพิ่มสมาชิกภายในบ้าน
น้องเหมียวสายพันธุ์ แมวบ้านขนาดใหญ่ มีความคล้ายเสือ หากจะเลี้ยงในไทย อาจจะต้องเสียค่าตัว 17,250 – 103,500 บาทขึ้นไป บวกเสียค่านำเข้าค่อนข้างสูง อีกทั้งยังจะต้องมีใบอนุญาตก่อนเลี้ยง ทางที่ดีควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจ