แกะบิ๊กฮอร์น (Ovis canadensis) เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ขนาดกลาง ในวงศ์โค (Bovidae) ที่โดดเด่นด้วยเขาขนาดใหญ่ และพฤติกรรม การดำรงชีวิตในภูเขาสูง พวกมันถือเป็นหนึ่งในสัตว์ ที่มีบทบาทสำคัญ ต่อระบบนิเวศ ในพื้นที่ภูเขา ของทวีปอเมริกาเหนือ รวมถึงเป็นตัวแทน แห่งความอดทน และความแข็งแกร่งอีกด้วย
แกะบิ๊กฮอร์น ลักษณะโดดเด่น โดยเฉพาะเขาของตัวผู้ ที่โค้งเป็นวงกว้าง จากฐานศีรษะจนจรดปลาย ความยาวเขาอาจถึง 90 เซนติเมตร และหนักได้ถึง 14 กิโลกรัม เขาเหล่านี้ใช้ทั้งในการต่อสู้ และบ่งบอกอายุ รวมถึงสถานะทางสังคม สำหรับตัวเมีย แม้จะมีเขาเช่นกัน แต่มีขนาดเล็กกว่า และโค้งน้อยกว่า
ขนมีสีน้ำตาลอมเทา เข้ากันกับหิน และสภาพแวดล้อมโดยรอบ ช่วยพรางตัวจากผู้ล่า ก้นและขอบหางมีสีขาวเด่นชัด แกะบิ๊กฮอร์นมีขาที่ทรงพลัง และกีบเท้าพิเศษ ช่วยให้แกะบิ๊กฮอร์นยึดเกาะ บนพื้นผิวหิน หรือหน้าผาได้อย่างมั่นคง ตัวผู้มีน้ำหนักระหว่าง 58-159 กิโลกรัม ขณะที่ตัวเมียเบากว่า อยู่ที่ประมาณ 34-113 กิโลกรัม
แกะบิ๊กฮอร์นเป็นสายพันธุ์ ของแกะที่มีถิ่นกำเนิด ในอเมริกาเหนือ พบได้ในเทือกเขาร็อกกี เทือกเขาแคสเคด และพื้นที่ภูเขาอื่น ๆ ของอเมริกาเหนือ บางชนิดย่อย เช่น Desert Bighorn Sheep อาศัยอยู่ในพื้นที่ทะเลทราย พวกมันมักอาศัย ในพื้นที่ลาดชัน ที่มีหน้าผาหิน ซึ่งช่วยหลีกเลี่ยงนักล่า เช่น หมาป่าสีเทา หรือเสือภูเขา [1]
แกะบิ๊กฮอร์นกินพืชเป็นหลัก ในช่วงเดือนที่อากาศอบอุ่น แกะบิ๊กฮอร์นจะกิน หญ้า พืชใบกว้าง และไม้พุ่มในพื้นที่ภูเขา หากในช่วงเดือน ที่อากาศหนาวเย็น แกะบิ๊กฮอร์นจะเปลี่ยนมากินพืช ที่เป็นไม้เนื้อแข็ง เช่น ต้นหลิว และต้นเสจ ในพื้นที่ทะเลทราย
แกะมีระบบย่อยอาหาร ที่ซับซ้อน โดยพวกมัน มีกระเพาะอาหาร 4 ส่วน ซึ่งช่วยให้สามารถกินพืช ในปริมาณมาก ได้อย่างรวดเร็ว หลังจากกินเสร็จ พวกมันกลับไปยังที่ปลอดภัย เพื่อเคี้ยวอาหารซ้ำ และย่อยอีกครั้ง กระบวนการนี้ เกิดขึ้นได้เพราะแกะบิ๊กฮอร์น เป็นสัตว์เคี้ยวเอื้อง (Ruminant) ซึ่งมีระบบย่อยช่วยพืช ได้อย่างมีประสิทธิภาพ [2]
การจำแนกทางวิทยาศาสตร์
ที่มา: “Bighorn sheep” [3]
แกะบิ๊กฮอร์น เป็นสัตว์สังคม ที่อยู่รวมกันในฝูง โดยแบ่งออกเป็นสองกลุ่มหลัก คือฝูงตัวเมียและลูกแกะ และฝูงตัวผู้ ฝูงของตัวเมีย อาจมีสมาชิกมากถึง 100 ตัว ขณะที่ตัวผู้ มักอยู่รวมกันในกลุ่มเล็ก ๆ ประมาณ 2-5 ตัว แกะบิ๊กฮอร์นจะสื่อสารกัน ผ่านเสียงร้อง การกระทบเขา และท่าทางต่าง ๆ เช่น การตั้งเขาหรือยืนตัวสูง เพื่อข่มศัตรู
ฤดูผสมพันธุ์ ของแกะบิ๊กฮอร์น เกิดขึ้นในช่วงฤดูใบไม้ร่วง จนถึงต้นฤดูหนาว (ประมาณเดือนตุลาคม ถึงธันวาคม) ในช่วงนี้ ตัวผู้จะเข้ามาสมทบ กับฝูงตัวเมีย เพื่อเริ่มต้นกระบวนการผสมพันธุ์ ตัวผู้จะแข่งขันกัน เพื่อแย่งชิงสิทธิ์ ในการผสมพันธุ์ กับตัวเมีย โดยการชนเขาอย่างรุนแรง ตัวผู้ที่แข็งแรง และมีเขาขนาดใหญ่กว่า มักจะมีโอกาสชนะ
และได้รับสิทธิ์ ในการผสมพันธุ์ แกะบิ๊กฮอร์นมีระยะเวลา ตั้งท้องประมาณ 5-6 เดือน และให้กำเนิดลูกแกะ เพียงตัวเดียวในแต่ละปี หลังจากเกิด ลูกแกะจะเริ่มเดิน และปีนหน้าผาได้ ภายในเวลาไม่กี่วัน โดยมีแม่คอยอยู่ใกล้ๆ ลูกแกะจะอยู่กับแม่ในช่วง 4-6 เดือนแรก ก่อนที่จะเริ่มเรียนรู้ การหาอาหาร และใช้ชีวิตร่วมกับฝูงต่อไป
แกะบิ๊กฮอร์นมีบทบาทสำคัญ ในระบบนิเวศภูเขา และทะเลทราย ทั้งในด้านการควบคุมพืชพรรณ ในพื้นที่ภูเขา และทะเลทราย ป้องกันการแพร่กระจาย ของพืชชนิดเดียวกัน มากเกินไป การกระจายเมล็ดพืช ไปยังพื้นที่ใหม่ ๆ กระตุ้นการเจริญเติบโต ของพืชในพื้นที่ห่างไกล
และการเป็นเหยื่อ ในห่วงโซ่อาหาร สำคัญของนักล่า เช่น เสือภูเขา หมาป่า และนกนักล่าขนาดใหญ่ ซึ่งทำให้ระบบนิเวศ มีความสมดุล
สรุป แกะบิ๊กฮอร์น เป็นมากกว่าสัตว์ภูเขา ที่น่าทึ่ง ด้วยความแข็งแกร่ง ความสง่างาม และบทบาทสำคัญ ในระบบนิเวศ พวกมันเป็นสัญลักษณ์ แห่งธรรมชาติ ที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์ การปกป้องแกะบิ๊กฮอร์น ไม่เพียงแต่ช่วยรักษา ประชากรสัตว์ชนิดนี้ แต่ยังช่วยคุ้มครอง ความหลากหลายทางชีวภาพ และสมดุลของธรรมชาติ ในพื้นที่ภูเขาสูงอีกด้วย