เรื่องจริงเสือจากัวร์ สัตว์ล่าเหยื่อที่ฉลาดหลักแหลม มีพละกำลังมหาศาล และหาตัวจับยาก พวกมันเป็นสิ่งมีชีวิตในทวีปอเมริกาใต้ ถือเป็น สัตว์ป่าอเมริกาใต้ ที่ผู้คนในดินแดนเดียวกันเคารพนับถือ ด้วยสายตาที่เด็ดขาด บวกความสามารถในการล่าเหยื่อ ทำให้เสือจากัวร์เป็น สัตว์นักล่าชั้นยอด ในอารยธรรมเมโสอเมริกา ทั้งนี้ โลกของแมวตัวใหญ่ชนิดนี้ ยังมีอะไรมากกว่าการเป็น สัตว์ในเชิงสัญลักษณ์ อีกมาก
สัตว์ที่เป็นที่เคารพนับถือของผู้คน ในดินแดนทวีปอเมริกาใต้ อย่าง “ เสือจากัวร์ ” ถือเป็นสายพันธุ์เสือขนาดใหญ่ที่สุด ติดอันดับ 3 ของโลก โดยความหมายของชื่อ “ จากัวร์ ” มาจากภาษาอินเดียนแดงที่แปลว่า “ สัตว์ร้ายที่คร่าเหยื่อ ด้วยการกระโจนตะครุบเพียงครั้งเดียว ” ทำให้คนพื้นเมืองในอเมริกากลาง รวมถึงอเมริกาใต้ ใช้เสือจากัวร์ในการเป็นสัญลักษณ์ ของความมีอำนาจของวัฒนธรรม
ทั้งนี้ พวกมันอาศัยในป่าใกล้แม่น้ำ ทะเลสาบ ลำธาร โดยมีความสูงวัดจากไหล่ถึงหาง 57 – 81 เซนติเมตร ส่วนน้ำหนักประมาณ 56 – 96 กิโลกรัม [1] เห็นได้ชัดเจนเลยว่า จากัวร์มีขนาดตัวที่ใหญ่กว่าชีตาห์ ถ้าอิงข้อมูลขนาดตัวตาม เรื่องจริงเสือชีตาห์ แล้ว ชีตาห์มีความยาวเพียง 1.1 – 1.4 เมตร น้ำหนักประมาณ 34 – 54 กิโลกรัมเท่านั้น
เสือจากัวร์ถือว่าเป็นนักล่าจำพวก สัตว์กินเนื้อ ที่ต้องพึ่งอาหารจากสัตว์เท่านั้น โดยอาหารของพวกมันจาก เรื่องจริงเสือจากัวร์ จะต้องมีน้ำหนักตั้งแต่ 1 – 130 กิโลกรัม แต่จากัวร์จะชอบกินเหยื่อ ที่มีน้ำหนัก 45 – 85 กิโลกรัม อาทิเช่น คาปิบารา ตัวกินมดยักษ์ รวมไปถึงกวาง ทามันดูอาใต้ บลา ๆ นอกจากนี้ พวกมันยังสามารถกินสัตว์เลื้อยคลาน
อย่าง เต่าทะเล หรือเคย์แมนอีกด้วย ทั้งนี้ เสือจากัวร์ใช้กลยุทธ์ในการล่าเหยื่อ คือ การสะกดรอยตาม และการซุ่มโจมตีแทนที่จะบุกจู่โจมทันที โดยพวกมันจะเดินช้า ๆ เพื่อคอยฟังเสียง และสะกดรอยตามเหยื่อ ก่อนที่จะรีบวิ่งเข้าโจมตี ซึ่งความสามารถในการซุ่มโจมตี ถือว่าแทบไม่มีใครเทียบได้ อีกทั้งจากัวร์ยังมีความสามารถในการว่ายน้ำ และแบกเหยื่อในขณะที่กำลังว่ายน้ำอีกด้วย [2]
ที่มา: WORLD ANIMAL PROTECTION – 16 Fascinating Jaguar Facts. ( 16 ข้อเท็จจริงที่น่าสนใจเกี่ยวกับเสือจากัวร์ ) [3]
ชนพื้นเมืองในอเมริกาใต้เคยกล่าวว่า ผู้คนไม่จำเป็นต้องกลัวเสือจากัวร์ ตราบใดที่ยังมีคาปิบาราอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งคำกล่าวนี้อยู่ในบันทึก เรื่องจริงเสือจากัวร์ จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ ที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น คือ เสือจากัวร์ได้คร่าชีวิตมนุษย์ในบราซิล เมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2551 มีเด็ก 2 คนถูกจากัวร์โจมตีในรัฐกายอานา
โดยการโจมตีในครั้งนั้น มีคนออกมาคาดเดากันว่า เสือตัวที่คร่าชีวิตเด็ก 2 คน อาจเคยถูกต้อนจนมุม หรือได้รับบาดเจ็บมาก่อน จึงเข้าโจมตีด้วยความโกรธก็เป็นไปได้ ทั้งนี้ Jaguar ถูกคุกคามด้วยการสูญเสีย และการแยกส่วนของที่อยู่อาศัย รวมไปถึงการคร่าแบบผิดกฎหมาย ทำให้จากัวร์ถูกจัดให้อยู่ในรายชื่อ สัตว์เสี่ยงสูญพันธุ์ ตามบัญชีแดงของ IUCN
ที่มา: San Diego Zoo Animals – Jaguar ( เสือจากัวร์ ) [4]
เสือจากัวร์มีลักษณะอย่างไร : จากัวร์เป็นตระกูลแมวขนาดใหญ่ ที่มีกล้ามเนื้อล่ำสัน บวกสีขนที่สวยงาม ถึงแม้จะมีลายเป็นจุด ๆ แต่ลายจุด ๆ นั่นคือ ลักษณะเด่นที่ทำให้จากัวร์ ถูกหมายหัวจากพรานล่าสัตว์
เสือสายพันธุ์อะไรดุร้ายที่สุด : บล็อกนี้ยกให้ “ เสือจากัวร์ ” เป็นสายพันธุ์เสือที่ดุร้ายที่สุด โดยถ้าอิงแรงกัดจาก เรื่องจริงเสือจากัวร์ แล้ว พวกมันมีแรงกัดถึง 1,350 PSI ถือว่าแรงที่สุดในสัตว์ตระกูลแมวยักษ์
เสือจากัวร์มีสีดำหรือไม่ : จากัวร์ที่สีขนเป็นสีดำ เกิดจากการกลายพันธุ์ของยีนส์ ทำให้มีเม็ดสีเมลานินปริมาณมากเกินไป จึงทำให้สีขนเปลี่ยนเป็นสีดำ เป็นต้น
สัตว์ที่ขึ้นชื่อว่าดุร้ายที่สุด เป็นสัตว์ตระกูลแมวขนาดใหญ่ อย่าง “ เสือจากัวร์ ” สายพันธุ์เสือใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก แต่ใหญ่ที่สุดในพันธุ์เสือของอเมริกาใต้ จึงทำให้พวกมันเป็นนักล่าในตำนาน ที่ได้รับการเคารพนับถือจากชนพื้นเมือง พวกเขาจึงยกให้จากัวร์เป็น สัญลักษณ์แห่งความแข็งแกร่ง มีพลังอำนาจ