เรื่องจริงปลาการ์ตูน หรือที่รู้จักกันในชื่อเรียกว่า “ ปลานีโม่ ” กลุ่มปลาฮีโร่ในภาพยนตร์แอนิเมชั่น เรื่อง “ Finding Nemo ” สัตว์ทะเลเพียงไม่กี่ชนิด ที่ค่อนข้างเป็นปลามีชื่อเสียง พวกมันมักถูกเรียกว่าตัวตลก เนื่องจากมีสีสันที่สดใสเหมือนตัวตลก โดยบล็อกนี้อยากชวนมาสัมผัส กับข้อเท็จจริงด้านต่าง ๆ ของสิ่งมีชีวิตในแนวปะรังที่น่าทึ่ง
ว่ากันด้วยแนวปะการังใต้ทะเล ต่างเต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ มากมาย ที่อาศัยอยู่รวมกันในพื้นที่เล็ก ๆ อย่าง “ ปลาการ์ตูน ” กลุ่มปลาที่มีสีสันสวยงาม ประกอบไปด้วย สีแดง, สีส้ม, สีดำ, สีเหลือง อีกทั้งยังมีสีขาวบนลำตัว 1 – 3 แถบ โดยพวกมันเป็นสัตว์เฉพาะถิ่น มักจะอยู่อาศัยตามน่านน้ำที่อบอุ่น ของมหาสมุทรอินเดีย รวมไปถึงทะเลแดง
มหาสมุทรแปซิฟิก แนวปะการังเกรทแบร์ริเออร์ ฮาวาย อเมริกาเหนือ และญี่ปุ่น ทั้งนี้ ปลานีโม่เป็นปลาที่อยู่กันเป็นกลุ่มใหญ่ ค่อนข้างเป็น สัตว์สังคม ที่อยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่ ๆ มักจะกินอาหารประเภทแพลงก์ตอนเป็นอาหาร จึงทำให้พวกมันเป็นสัตว์ทะเลจำพวก สัตว์กินพืช ที่มีพฤติกรรมหวงถิ่น หวงอาณาเขตที่อยู่ ที่กินเป็นอย่างมาก [1]
ในอดีตปลานีโม่ไม่ได้รับการระบุสายพันธุ์ แต่ปัจจุบันถูกจัดกลุ่มสปีชีส์ออกมา 6 กลุ่มใหญ่ ๆ ในรูปแบบความสัมพันธ์เชิงวิวัฒนาการ ซึ่งข้อเท็จจริงที่อิงจาก เรื่องจริงปลาการ์ตูน รายละเอียดจะมีดังนี้
ที่มา: WIKIPEDIA – Clownfish [2]
ปลาการ์ตูนกับดอกไม้ทะเล ถือว่ามีความสัมพันธ์แบบพึ่งพาอาศัยกัน โดยทั้งสองต่างให้ประโยชน์แก่กันและกัน ซึ่งดอกไม้ทะเลจะคอยปกป้อง Nemo จาก สัตว์นักล่าชั้นยอด ใต้ทะเลต่าง ๆ อย่างพวกฉลาม บลา ๆ รวมถึงยังคอยให้อาหารจากเศษอาหารที่เหลือ
จากการกินของดอกไม้ทะเล และหนวดของดอกไม้ทะเลที่ตายแล้วอีกด้วย อีกทั้งยังทำหน้าที่เป็นรัง แหล่งที่อยู่ที่ปลอดภัย แต่ในทางกลับกัน ปลานีโม่จะปกป้องดอกไม้ทะเลจาก สัตว์ผู้ล่าชั้นยอด อย่างพวกปรสิตต่าง ๆ นอกจากนี้ ดอกไม้ทะเลยังช่วยดูดซับสารอาหาร จากอุจจาระของปลาการ์ตูนอีกด้วย
ปัจจุบันปลาการ์ตูนถูกคิดออกมาเป็นค่าเฉลี่ย 43% ตาม เรื่องจริงปลาการ์ตูน ในส่วนของการค้าขาย จำหน่าย ปลาสวยงามยอดนิยม ในทะเลทั่วโลก และอีกประมาณ 25% ของการค้าขาย มาจากกลุ่มปลาที่เพาะพันธุ์ในที่เลี้ยง ในขณะที่ส่วนใหญ่จับพวกมันมาจากธรรมชาติ โดยแหล่งเพาะพันธุ์ปลานีโม่ในประเทศไทย จะนิยมเพาะพันธุ์ตามศูนย์วิจัยต่าง ๆ ของกรมประมง รวมถึงฟาร์มเอกชนทั่วไป
ซึ่งแหล่งเพาะพันธุ์ที่ประสบความสำเร็จ และเป็นแหล่งที่ใหญ่ที่สุดในโลก ได้แก่ สถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล ตั้งอยู่ในมหาวิทยาลัยบูรพา จังหวัดชลบุรี อย่างไรก็ตาม นอกจากบล็อกนี้พามาสัมผัส กับข้อเท็จจริงของปลานีโม่แล้ว บล็อกนี้ยังอยากเชิญชวนมาสัมผัส กับข้อเท็จจริงใน เรื่องจริงของวาฬ อีกด้วย กลุ่มสัตว์ทะเลขนาดใหญ่ที่สุดในโลก หากสนใจก็อยากแนะให้ติดตามกันต่อ
ที่มา: Great Barrier Reef Foundation – Clownfish [3]
ปลานีโม่ VS ปลาการ์ตูน เหมือนกันหรือไม่ : ความจริงแล้ว ปลาการ์ตูนกับปลานีโม่คือตัวเดียวกัน ซึ่งปลานีโม่เป็นเพียงชื่อเรียกในภาพยนตร์ Finding Nemo เท่านั้น
ทำไมถึงเรียกว่าปลานีโม่ : หากพูดอีกเหตุผลหนึ่ง สาเหตุที่เรียกพวกมันว่าปลานีโม่ คือ ชื่อจริงของพวกมัน เป็น Anemonefish ซึ่งความหมายก็คือดอกไม้ทะเล ส่วนคำว่า fish ก็คือปลาที่อาศัยกับดอกไม้ทะเล จึงทำให้เรียกพวกมันว่าปลานีโม่
ทำไมปลานีโม่เปลี่ยนเพศได้ : อย่างที่ทราบกันดีใน เรื่องจริงปลาการ์ตูน ที่ว่า พวกมันสามารถเปลี่ยนเพศได้ ซึ่งในระยะแรกหลังฟักไข่ ลูกปลาทุกตัวจะเป็นตัวผู้ทั้งหมด พอพวกมันเริ่มโตเป็นวัยรุ่น จะเปลี่ยนเพศมาเป็นตัวเมียทันที เพราะมีระบบสืบพันธุ์ Protandrous Hermaphrodite นั่นเอง
ปลานีโม่อาศัยอยู่ที่ไหน : สามารถพบเจอได้ตามมหาสมุทรแปซิฟิก รวมไปถึงทะเลแดง แนวปะการังเกรทแบร์ริเออร์ และมหาสมุทรอินเดีย
ปลาการ์ตูนมีประโยชน์อย่างไร : พวกมันเป็นสัตว์ทะเลที่มีบทบาทสำคัญ ในระบบนิเวศธรรมชาติทางทะเล เนื่องจากพวกมันช่วยควบคุมประชากร ของแพลงก์ตอนกับกุ้งขนาดเล็ก ซึ่งสัตว์เหล่านี้มักจะสร้างความรำคาญ ให้กับแนวปะการังได้ เป็นต้น
สิ่งมีชีวิตที่อาศัยในแนวปะการัง ถือว่าเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่าทึ่งเอามาก ๆ เนื่องจากมีสีสันที่สดใสสวยงาม คล้ายกับตัวตลกในภาพยนตร์ ปัจจุบันพวกมันถูกเลี้ยงให้เป็นสัตว์สวยงาม ทั้งการเลี้ยงเพาะพันธุ์ในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ และการเลี้ยงดูในตู้ปลาขนาดใหญ่ในบ้าน