เรื่องจริงจิ้งจอกแดง หมาจิ้งจอกสีแดง สิ่งมีชีวิตที่ถูกยกให้เป็น สัตว์ในเชิงสัญลักษณ์ ของความฉลาดแกมโกง เหมือนหมาจิ้งจอกในนิทานพื้นบ้าน กลุ่มสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม อันดับ สัตว์กินเนื้อ และกินพืช พวกมันมีสายตาที่ยอดเยี่ยม ในเวลาที่หาเหยื่อตอนกลางคืน พวกมันจะก้าวเดินช้า ๆ อย่างเงียบ ๆ ผ่านพุ่มไม้ จากนั้นจะหยุด และพุ่งกระโจนเข้าใส่เหยื่อทันที
“ หมาจิ้งจอกสีแดง ” ( Red Fox ) สายพันธุ์แท้จากยูเรเชีย พวกมันเป็นพันธุ์ที่ใหญ่ที่สุด และเป็นสมาชิกที่มีการกระจายตัว กระจายพันธุ์อย่างกว้างขวางที่สุด แม้กระทั่งสวนสาธารณะ หรือบ้านของมนุษย์ ส่วนใหญ่จะพบได้ทั่วทั้งซีกโลกเหนือ
รวมถึงอเมริกาเหนือ ยุโรป ไปจนถึงพื้นที่เอเชียบางส่วน ทั้งนี้ จิ้งจอกสีแดงมีลักษณะใบหน้า คล้ายกับสุนัขทั่ว ๆ ไป แต่จะมีขนาดที่เล็กกว่า สีขนบนลำตัวจะเป็นสีเทาแดง สีน้ำตาลแดง บางตัวอาจมีสีน้ำตาลส้ม ซึ่งสีขนอาจมีการเปลี่ยนแปลง ไปตามสภาพภูมิอากาศ
อีกทั้งตัวที่โตเต็มวัยแล้ว จะมีความยาวลำตัว 49 – 65 เซนติเมตร ความยาวหาง 20 – 40 เซนติเมตร ด้วยความที่พวกมันกระจายตัวอย่างกว้างขวาง ทำให้ปัจจุบันมีชนิดย่อยกว่า 45 ชนิด พบได้ทั้งใน เนปาล, ปากีสถาน, จีน, ภาคเหนือของพม่า, เวียดนาม, ทวีปยุโรป, ตะวันออกกลาง, ทวีปอเมริกาเหนือ, อินเดีย, ลาว เป็นต้น [1]
สุนัขจิ้งจอกสีแดงถือเป็นสายพันธุ์เฉพาะ ที่มีลักษณะเฉพาะน้อยกว่าพันธุ์อื่น ๆ แต่รูปลักษณ์ใบหน้ามีการพัฒนามากกว่าพันธุ์อื่น ๆ แต่ถึงอย่างนั้น ตาม เรื่องจริงจิ้งจอกแดง แล้ว พวกมันมีวิวัฒนาการ ที่มีความใกล้เคียงกับพันธุ์อื่น ๆ อย่างน่าตกใจ ยกตัวอย่างเช่น
ที่มา: WIKIPEDIA – Red Fox [2]
อย่างที่พูดไปข้างต้นแล้วว่า สีขนของหมาจิ้งจอกสีแดง จะมีการเปลี่ยนแปลงตามสภาพอากาศ กล่าวคือ สีขนของพวกมัน จะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลแดง ในช่วงที่สภาพอากาศมีความชื้น และอาจจะมีสีอื่น ๆ โผล่ขึ้นมาด้วย อย่างสีเงิน หรือสีขาวล้วน นอกจากนี้ ยังมีสีอื่น ๆ ที่สามารถปรากฏขึ้นมาได้อีก
อย่าง สีน้ำตาลดำ, แซมสัน, แพลตตินั่ม, สโมกกี้ เป็นต้น ทั้งนี้ การที่ขนของพวกมันจะเปลี่ยนสีได้นั้น พวกมันจะต้องอยู่ในช่วงที่โตเต็มวัยก่อน หรืออยู่ในพื้นที่หนาวเย็น จากนั้นสีขนของพวกมันจะเริ่มเปลี่ยน แต่ส่วนใหญ่จะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลทองก่อน แล้วสีอื่น ๆ จะตามมา [2]
ด้วยสถานการณ์การขาดแคลนอาหาร ของสัตว์ที่ขึ้นชื่อว่าเป็น สัตว์นักล่าชั้นยอด อย่างจิ้งจอกสีแดงนั้น ได้เกิดขึ้นในซีกโลกเหนือ ซึ่งถ้าอิงตาม เรื่องจริงจิ้งจอกแดง แล้ว ซีกโลกเหนือเป็นที่อยู่อาศัย ของหมาจิ้งจอกสีแดง เมื่อไหร่ที่เริ่มขาดแคลนอาหาร พวกมันจะเริ่มเดินทางเข้าเขตตัวเมือง และเขตชานเมือง รวมไปถึงเขตชนบทของมนุษย์ เพื่อออกหาอาหารประทังความหิว
ทั้งนี้ สุนัขจิ้งจอกสีแดงเป็นสายพันธุ์ที่ฉลาด และไม่ทำร้ายมนุษย์ พวกมันเลือกที่จะเรียนรู้ ที่จะดำรงชีวิตใกล้ ๆ กับมนุษย์ แต่จะหลีกเลี่ยงไม่เข้าใกล้ โดยตัวที่อาศัยอยู่ใกล้บ้านมนุษย์ มักจะออกล่าเหยื่อตอนกลางคืน ตามสวนหลังบ้าน หรือสวนสาธารณะในเมือง โชคดีที่พวกมันเป็นสัตว์ไม่เลือกกิน ซึ่งถ้าใช้ชีวิตใกล้บ้านมนุษย์ ส่วนมากพวกมันจะกินกระต่าย หนู และสัตว์ฟันแทะอื่น ๆ เป็นต้น [3]
สุนัขจิ้งจอกแดงอาศัยอยู่ที่ไหน : พื้นที่ที่พวกมันชอบอยู่อาศัย ได้แก่ ทุ่งหญ้า ป่า รวมไปถึงสวนหลังบ้านของมนุษย์ แต่ส่วนใหญ่มักจะอยู่อาศัยในทุ่งทุนดรา ของเขตพื้นที่อาร์กติก ไปจนถึงเขตทะเลทรายที่แห้งแล้ง
สุนัขจิ้งจอกแดงมีพฤติกรรมอย่างไร : ถ้าอิงเนื้อหาตาม เรื่องจริงจิ้งจอกแดง แล้ว พวกมันชอบออกหากินในเวลากลางคืน ส่วนเวลากลางวันมักจะนอนในโพรงดิน
สุนัขจิ้งจอกสีแดงกินอะไร : อาหารส่วนใหญ่ของจิ้งจอกสีแดง จะประกอบไปด้วยโปรตีนจากเนื้อสัตว์ ดังนั้น อาหารที่ดีที่สุดสำหรับ Red Fox คือ เนื้อดิบ และเนื้อสุก
สุนัขจิ้งจอกสีแดงกลัวอะไร : พวกมันกลัวมนุษย์ และมักจะวิ่งหนีเมื่อเจอมนุษย์ แต่จิ้งจอกแดงมักจะแอบมาสวนหลังบ้าน หรือละแวกบ้านมนุษย์อยู่บ่อย ๆ เพื่อล่าสัตว์ฟันแทะกินเป็นอาหาร เป็นต้น
สายพันธุ์หมาจิ้งจอกสีแดง ( Red Fox ) ถือว่าเป็นสายพันธุ์แท้จากยูเรเชีย ที่มีทักษะการล่าเหยื่ออย่างชาญฉลาด เป็นกลุ่มสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม อันดับสัตว์กินเนื้อ สามารถพบเจอได้ทั่วไป โดยเฉพาะทุ่งทุนดราเขตพื้นที่อาร์กติก ไปจนถึงทะเลทรายอันแห้งแล้ง