สัตว์ในป่าดิบชื้น กลุ่มสัตว์โลกมหัศจรรย์ทุกชนิดในโลก เกือบ 50% ที่อยู่อาศัย และเจริญเติบโตได้ดีในเขตป่าดิบชื้น เขตพื้นที่สีเขียวที่เต็มไปด้วยทรัพยากรสัตว์ป่า และทรัพยากรป่าไม้ โดยบล็อกนี้ขอเชิญชวนผู้อ่าน มาร่วมกันสัมผัสชีวิตของสัตว์ป่า และป่าไม้มากมาย พ่วงต่อด้วยภัยคุกคามจากน้ำมือของมนุษย์ ที่เป็นตัวการทำให้สัตว์เหล่านี้ไร้ที่อยู่อาศัย
ว่ากันด้วย “ ป่าดิบชื้น ” หรือที่รู้จักกันในชื่อว่า “ ป่าฝนเขตร้อน ” แต่มักจะชอบเรียกกันว่า “ ป่าดงดิบ ” มากกว่า พื้นที่สีเขียวตลอดทั้งปี ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของ สัตว์ในป่าดิบชื้น เกือบทุกชนิดในโลก 50% ทั้งนี้ ทรัพยากรสัตว์ป่าที่สามารถพบเห็นได้บ่อย
ไม่ว่าจะเป็น เก้งหม้อ, แรด, แมวป่าหัวแบน, กระจงควาย บลา ๆ ส่วนทรัพยากรป่าไม้มีมากมายเกือบ 100 ชนิด ไม่ว่าจะเป็น กระบาก, แอ๊ก, สยา, ยางมันหมู, กาลอ, ตะเคียนทอง, ไข่เขียว, มารันตี, หลุมพอ, สะตอ, อินทนิล เป็นต้น [1]
อย่างที่ได้กล่าวไปหัวข้อข้างต้นแล้วว่า ป่าดิบชื้นเป็นพื้นที่สีเขียว ที่เต็มไปด้วยทรัพยากรสัตว์ป่า รวมถึงทรัพยากรป่าไม้มากมาย ด้วยความหลากหลายนี้ ทำให้นักนิเวศวิทยาได้ตั้งคำถาม ถึงที่มาของสายพันธุ์สัตว์ สายพันธุ์พืชที่น่าทึ่งนี้ อีกทั้งยังมีการตั้งทฤษฎีที่ว่าทำไม ป่าฝนเขตร้อนถึงมีความหลากหลายขนาดนี้ จนสุดท้ายได้รับคำตอบมา 2 คำตอบ รายละเอียดมีดังนี้
ที่มา: WIKIPEDIA – Tropical Rainforest [2]
กระจงเล็ก : สัตว์กีบคู่เลี้ยงลูกด้วยนม มีขนาดเล็กที่สุดในโลก มีรูปร่างกับหน้าตาคล้ายกวาง หรือเก้ง เป็นสัตว์อีกหนึ่งชนิดที่พบในประเทศไทย สามารถพบเห็นได้บริเวณแนวป่าตะวันตก, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ, ภาคใต้ ไปจนถึงแนวหินปูนภาคกลาง อีกทั้งยังสามารถพบในบริเวณต่างถิ่น อย่าง พม่า, เวียดนาม, ลาว, บรูไน, อินโดนีเซีย บลา ๆ [3]
แมวป่าหัวแบน : สายพันธุ์แมวที่โคตรจะแปลกกว่าพันธุ์อื่น ๆ เป็นกลุ่มแมวป่าขนาดเล็ก ที่สถานะในตอนนี้เป็นแมวป่าชนิด สัตว์เสี่ยงสูญพันธุ์ เพราะปัจจุบันความหนาแน่นคงเหลือ 2,500 ตัวเท่านั้น เนื่องจากแหล่งที่อยู่อาศัยถูกทำลาย ถูกเปลี่ยนแปลงไปเป็นสิ่งก่อสร้าง [4]
สำหรับภัยคุกคามที่เหล่า สัตว์ในป่าดิบชื้น รวมถึงทรัพยากรด้านป่าไม้จะต้องเผชิญนั้น หลัก ๆ เลยคือ “ มนุษย์ ” โดยกิจกรรมต่าง ๆ ที่มนุษย์มักทำ แน่นอนว่า มันส่งผลกระทบโดยตรงต่อสัตว์โลก และพืชพรรณที่กำลังเจริญเติบโต ยกตัวอย่างเช่น
สมเสร็จ : สัตว์ป่าจำพวกเลี้ยงลูกด้วยนม จัดอยู่ในกลุ่ม สัตว์กินพืช ขนาดใหญ่ ส่วนใหญ่อาศัยในป่าดงดิบทึบเฉพาะ อเมริกาใต้ อเมริกากลาง และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ปัจจุบันมีสายพันธุ์สมเสร็จทั้งหมด 4 ชนิดด้วยกัน แต่ทั้ง 4 ชนิดนี้กำลังตกอยู่ในสภาวะ สัตว์ป่าใกล้สูญพันธุ์ เนื่องจากถูกมนุษย์รุกถิ่นที่อยู่อาศัย [5]
แรด : สัตว์บกขนาดใหญ่ที่สุดรองจากช้าง มีความยาวถึง 3.6 – 5 เมตร และมวลน้ำหนักที่ 2.3 – 3.6 ตัน ปัจจุบันมีสายพันธุ์แรดเหลือเพียง 5 สายพันธุ์เท่านั้น เนื่องจากถูกมนุษย์ล่า เพราะพวกเขาเชื่อว่า แรดมีสรรพคุณทางยาจีน สามารถกินดับพิษได้ [6]
อย่างไรก็ตาม นอกจากเขตป่าฝนยังมีความหลากหลาย ของ สัตว์ในป่าดิบชื้น หลายสายพันธุ์ และพืชพรรณแล้ว ทะเลทรายที่โคตรจะร้อนระอุ นาน ๆ ทีจะมีฝนตกลงมาในพื้นที่แห้งแล้ง กลับพบว่ามี สัตว์ในทะเลทราย มากมายอาศัยอยู่ ไม่ว่าจะเป็น อูฐ, แมงมุม, แมงป่อง, งู, นกฮูก, แร้ง, กระรอก, ม้า, แกะ เป็นต้น
สัตว์อะไรบ้างที่อยู่ในป่าฝน : เขตผืนป่าฝนที่มีสภาพอากาศร้อนชื้น ส่วนใหญ่เป็นที่อยู่ของ แรด, เก้งหม้อ, กระจงเล็ก, นกแก้ว, ลีเมอร์, นกทูแคน บลา ๆ
ป่าดิบชื้นพบที่ไหนได้บ้างในไทย : สามารถพบได้ตามภาคตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงภาคใต้ของประเทศไทย ส่วนใหญ่จะอยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 100 เมตร มีปริมาณฝน 2,500 มิลลิเมตรต่อปี
กระจงเล็กมีกี่สายพันธุ์ : ปัจจุบันมีทั้งสิ้น 3 สกุล ในป่าเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และแอฟริกา
กระจงควายเป็นสัตว์ป่าประเภทใด : กระจงควายจัดว่าเป็น สัตว์ป่าคุ้มครอง ตามพระราชบัญญัติของประเทศไทย ห้ามล่า ห้ามจำหน่าย ห้ามเลี้ยง
แรดทั่วโลกมีทั้งหมดกี่ตัว : ปัจจุบันสายพันธุ์แรดมีเพียง 5 สายพันธุ์ ตามรายงานล่าสุดพบว่า ความหนาแน่นของแรดมีไม่ถึง 30,000 ตัว เป็นต้น
สัตว์ป่ามหัศจรรย์ที่เป็นทรัพยากรของป่าดงดิบ หรือป่าดิบชื้นอย่าง แรด, สมเสร็จ, นกทูแคน, ลีเมอร์, กระจงเล็ก, แมวป่าหัวแบน บลา ๆ ล้วนแล้วแต่เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ที่มนุษย์ควรจะอนุรักษ์เอาไว้ ที่สำคัญ ควรจะงดการทำกิจกรรมที่ทำลายผืนป่า เพื่อให้สัตว์เหล่านี้มีที่อยู่อาศัย