การเลี้ยง สัตว์เศรษฐกิจ 3 สัตว์ปีกช่วยสร้างรายได้

สัตว์เศรษฐกิจ

สัตว์เศรษฐกิจ ธุรกิจการเลี้ยงสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ และถูกเลี้ยงดูโดยมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็น วัว, กระบือ, แพะ, แกะ บลา ๆ แต่กลุ่มสัตว์ที่คนไทยนิยมเลี้ยงมากที่สุด และอยู่คู่กับคนไทยมาช้านาน ได้แก่ ไก่, เป็ด, ห่าน, ไก่งวง, นกกระทา เป็นต้น โดยบล็อกนี้จะพามาดูธุรกิจการเลี้ยงสัตว์ปีก สัตว์สร้างรายได้ ให้กับคนไทย รวมถึงข้อมูลการเลี้ยงต่าง ๆ

ความหมาย สัตว์ช่วยสร้างรายได้ 4 ประเภทนิยมเลี้ยง

ถ้าพูดถึงเศรษฐกิจของไทยเรา มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ยิ่งก่อนหน้านี้เกิดสถานการณ์ ราคาเนื้อหมูแพงขึ้นหลายเท่าตัว จากการเกิดโรคระบาดในสุกร ที่ได้แพร่ระบาดไปทั่วทุกมุมโลก ไม่เพียงแค่เนื้อหมูเท่านั้นที่ขึ้นราคา เนื้อไก่ก็พลอยราคาแรงไปด้วย ด้วยสถานการณ์เช่นนี้ ทำให้เกิดเป็นเทรนด์การเลี้ยง สัตว์เศรษฐกิจ ( Economic Animals ) ขึ้นมา

เพื่อให้ระบบเศรษฐกิจการเลี้ยง สัตว์เลี้ยงสร้างอาชีพ มีความแข็งแกร่งมากขึ้น โดยความหมายของ Economic Animals หมายถึง สัตว์ทั้งหลายที่เกิดขึ้นมาเองตามธรรมชาติ และได้ถูกมนุษย์เลี้ยงดูอย่างดี ซึ่งปริมาณจำนวนที่เกิดขึ้นมา มีจำนวนประชากรมากจนเกินไป

มนุษย์จึงได้มีการนำมาสร้างกำไร รับรายได้จาก ธุรกิจสัตว์สวยงาม เข้ากระเป๋าตนเอง ซึ่งสัตว์เหล่านี้ใช้ทั้งบริโภค และส่งออกขายไปยังประเทศต่าง ๆ อีกด้วย ทั้งนี้ สัตว์ 4 ประเภทใหญ่ ๆ ที่คนไทยนิยมเลี้ยง มีดังนี้ กลุ่มสัตว์เคี้ยวเอื้อง, กลุ่มสัตว์กระเพาะเดียว, กลุ่มสัตว์ปีก, กลุ่มสัตว์น้ำ เป็นต้น

“ ไก่ไข่ ” กลุ่มสัตว์ปีกยอดนิยม

การเลี้ยง “ ไก่ไข่ ” สำหรับคนที่งบน้อย อาจจะต้องเริ่มเลี้ยงตั้งแต่เป็นลูกเจี๊ยบ เพราะจะได้รู้พฤติกรรม รู้อารมณ์ ยิ่งเราเลี้ยงให้พวกมันอารมณ์ดีตั้งแต่ลูกเจี๊ยบ ตอนโตเต็มวัยจะได้ไม่กลายเป็น ไก่ไข่ที่อารมณ์เกรี้ยวกราด ซึ่งโรงเรือนที่เหมาะจะเลี้ยงไก่ไข่นั้น จะต้องมีความกว้าง 4 ความยาว 8 รอบ ๆ โรงเรือนจะต้องพันด้วยตาข่าย

ภายในจะต้องเป็นพื้นที่โล่ง และอย่าลืมทำรั้วเพื่อกันสุนัขเข้ามาทำร้าย หากคุณมีงบน้อย แต่อยากลองเลี้ยงเพื่อหวังสร้างรายได้ แนะว่าให้เริ่มเลี้ยงลูกเจี๊ยบ 2 – 15 ตัวไปก่อน แล้วรอพวกมันเริ่มโตเต็มวัย และเริ่มฟักไข่ออกมา แต่ถ้าคุณมีงบเยอะ แนะว่าให้ซื้อแม่ไก่ไปเลย เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตตอนยังเด็ก ปัจจุบันแม่ไก่มีราคาขายอยู่ราว ๆ 185 – 215 บาทขึ้นไป [1]

“ เป็ดไข่ ” สัตว์ปีกที่ตลาดต้องการ

การเลี้ยง “ เป็ดไข่ ” สิ่งมีชีวิตที่แสนจะเลี้ยงง่าย แต่ค่อนข้างดูแลยาก ด้วยเทคนิคการเลี้ยงแบบละเอียด อย่างแรกเลยจะต้องเตรียมพื้นที่เลี้ยง คุณควรจะมีพื้นที่เลี้ยงกว้างขวาง โล่งโปร่งสบาย เนื่องจากพวกเป็ดต้องการพื้นที่ ในการเดินไปมา และเดินหาอาหาร อย่าลืมที่จะทำรั้วล้อมรอบ เพื่อป้องกันสุนัข หรือสัตว์อันตรายอื่น ๆ

อีกทั้งพวกอาหารและน้ำ จะต้องเลือกอาหารที่มีคุณภาพสูง บวกน้ำที่สะอาดตลอดเวลา อย่างที่บอกไปว่าเป็ดไข่ดูแลยาก หากคุณให้อาหารที่ไม่มีคุณภาพ และไม่หมั่นเปลี่ยนน้ำ อาจเสี่ยงเกิดโรคระบาดในเป็ดไข่ได้ นอกจากนี้ เจ้าของจะต้องคอยหมั่นสังเกตสุขภาพ และต้องเก็บไข่อย่างสม่ำเสมอ หากเป็ดไข่ผ่านการเลี้ยงดูอย่างดี พวกมันจะช่วยสร้างรายได้ 4,000 บาทต่อวัน [2]

ความสำคัญ สัตว์เศรษฐกิจ ( Economic Animals )

สัตว์เศรษฐกิจ

สำหรับความสำคัญของ สัตว์เศรษฐกิจ ที่ช่วยสร้างรายได้งามให้กับคนไทย หลัก ๆ แล้วมีความสำคัญถึง 3 ข้อด้วยกัน รายละเอียดมีดังนี้

  • รายได้ที่รับโดยตรงจากสัตว์ : ความสำคัญข้อแรกที่เห็นอย่างชัดเจน แน่นอนว่า การเลี้ยงสัตว์เหล่านั้นจะทำเงินให้กับผู้เลี้ยงได้ อาทิเช่น ไข่, เนื้อหมู, เนื้อไก่, ขนสัตว์, กระดูกสัตว์ เป็นต้น
  • การใช้แรงงานจากสัตว์ : กลุ่มคนที่เลี้ยงสัตว์นั้น ไม่ได้ใช้แรงงานเพื่อสร้างรายได้อย่างเดียว แต่ผู้เลี้ยงยังใช้แรงงาน เพื่อสร้างผลผลิตที่มากกว่านี้ อาทิเช่น การใช้กระบือทำนา เป็นต้น

“ ห่าน ” สัตว์ช่วยสร้างรายได้ระดับหนึ่ง

การเลี้ยง “ ห่าน ” เลี้ยงอย่างไรให้โตไว บล็อกนี้แนะให้เลี้ยงตามวิถีของเกษตรกรดั้งเดิม โดยส่วนใหญ่เกษตรกรนิยมเลี้ยงห่านแบบปล่อยไว้ในสวน เพื่อให้หญ้าช่วยกำจัดวัชพืช ด้วยรูปแบบการเลี้ยงแบบนี้ มันเหมาะสำหรับคนที่มีพื้นที่ไม่มาก และไม่จำเป็นจะต้องมีงบเยอะ ซึ่งสายพันธุ์ห่านที่อยากแนะนำ ได้แก่ ห่านจีนขาว และห่านเทา

ซึ่งห่านจีนขาวนิยมเลี้ยงไว้เฝ้าบ้าน แต่ราคาค่อนข้างแพง ส่วนห่านเทานิยมเลี้ยงไว้บริโภคเนื้อ แต่ห่านสายพันธุ์จีนขาวจะนิยมมากที่สุดในประเทศไทย อย่างไรก็ตาม การเลือกเลี้ยงห่าน สัตว์ที่มีพฤติกรรมอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม ถือว่าเป็น สัตว์สังคม ที่ไม่จำเป็นจะต้องมีต้นทุนสูง แต่ประโยชน์ที่ผู้เลี้ยงจะได้รับคุ้มค่ามากกว่า [3]

อุปสรรค สัตว์เศรษฐกิจ สิ่งที่ต้องเผชิญ

ในส่วนของอุปสรรคที่มักจะเกิดขึ้น ต่อกลุ่มคนที่เลี้ยงสัตว์ปีกนั้น นับว่าเป็นความท้าทาย เป็นปัญหา เป็นอุปสรรคใหญ่ที่จะต้องพบเจอ และจะต้องระมัดระวังให้มากขึ้น โดยอุปสรรคใหญ่ในขณะเลี้ยง สัตว์เศรษฐกิจ มีดังนี้

  • โรคระบาด : สัตว์ปีกทั้งหลายเสี่ยงต่อการติดโรคระบาดต่าง ๆ อาทิเช่น ไข้หวัดนก แนะว่าให้คนเลี้ยงหมั่นสังเกตสุขภาพ และอย่าลืมฉีดวัคซีน
  • การแข่งขันในตลาด : ไม่ว่าจะเป็น การแข่งขันทางราคา, คุณภาพสินค้า, การปรับตัว, การพัฒนาสินค้า บลา ๆ ซึ่งการแข่งขันพวกนี้ อาจส่งผลกระทบต่อคนเลี้ยงในไทยได้
  • ความผันผวนของราคาอาหารสัตว์ : ไม่ว่าจะเป็น ผลกระทบต่อต้นทุนการเลี้ยง ผลกระทบต่อกำไร การวางแผน การจัดการ บลา ๆ ซึ่งความผันผวนพวกนี้ อาจส่งผลต่อต้นทุนในการเลี้ยงได้ เป็นต้น

สรุป สัตว์เศรษฐกิจ

การเลี้ยงสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า “ สัตว์ ” ไม่ว่าจะเป็น กลุ่มสัตว์ปีก กลุ่มสัตว์น้ำ กลุ่มสัตว์กระเพาะเดียว หรือกลุ่มสัตว์เคี้ยวเอื้อง บลา ๆ สามารถช่วยสร้างกำไร และช่วยให้ผู้เลี้ยงรับรายได้งาม ๆ ได้ ยิ่งเป็นคนที่มีต้นทุนต่ำ แต่รู้วิธีเลี้ยงที่ถูกหลัก ผู้เลี้ยงจะยิ่งได้รับประโยชน์อย่างคุ้มค่า

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน
Picture of Pet Noi
Pet Noi

แหล่งอ้างอิง