สัตว์เลี้ยงขนาดใหญ่ กลุ่มสัตว์เลี้ยงตัวใหญ่ 4 ขา ที่ได้ปลุกกระแสเทรนด์ การเลี้ยงดูสัตว์เลี้ยงขึ้นมา เนื่องจากไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ ได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ทำให้คนมีความคิด รวมถึงค่านิยม เรื่องการมีลูกต่างไปจากอดีต จึงกลายมาเป็นเทรนด์เลี้ยงสัตว์แทนการมีลูก อย่างที่เห็นกันในปัจจุบันนี้
ว่าด้วย “ Pet Parenting ” หมายถึง การเลี้ยงสัตว์ขนาดเล็ก ขนาดกลาง ขนาดใหญ่ ให้เหมือนเลี้ยงลูกจริง ๆ ซึ่งปัจจุบันพบเห็นได้ทั่วไป และทั่วโลก ที่ผู้ปกครองเด็ก ๆ จะต้องหาอาหารเม็ด อาหารเปียก ขนมทานเล่นยี่ห้อดี ๆ ห้องน้ำขับถ่าย
ไปจนถึงของเล่นเสริมทักษะ อย่างพวก ลูกบอลยางมีเสียง, เชือกดึง, จานร่อน, เชือกชักเย่อ เป็นต้น ของเหล่านี้ถือเป็น ของเล่นสัตว์ใหญ่ ที่ควรซื้อติดบ้าน เพื่อให้เด็ก ๆ 4 ขาได้มีความสุข จนเกิดมาเป็นคำศัพท์ ที่กลุ่มคนรักสัตว์ มักเรียกเด็ก ๆ ว่า “ Fur Baby ” ส่วนสาเหตุที่ทำให้เกิดเทรนด์นี้ มีดังนี้
ที่มา: urban creature – ทำไมคนรุ่นใหม่นิยมเลี้ยง ‘สัตว์’ แทนมี ‘ลูก’ [1]
สำหรับผลกระทบหลังเกิดเทรนด์ เลี้ยงสัตว์ให้เหมือนเลี้ยงลูก หลัก ๆ แล้วเกิดผลกระทบโดยตรง ต่อด้านสังคม และด้านธุรกิจ โดยรายละเอียดของผลกระทบ มีดังนี้
ด้านสังคม : อัตราการเกิดประชากรเริ่มต่ำลง แต่เกิดสังคมของผู้สูงอายุในระยะยาว ส่วนนี้อ้างอิงมาจาก ข้อมูลประชากรชาวไทย ปี 2022 ที่มีอัตราการเกิด ต่ำกว่าอัตราการเสียชีวิต และยังมีทีท่าว่าจะลดลงเรื่อย ๆ
แต่ถ้าพิจารณาดูแล้ว ปัญหาที่มันเกิดขึ้นบนโลกแทบทุกวัน มีข่าวให้เห็นเกือบทุกเวลา ทำให้คนสมัยนี้ไม่อยากมีลูก จนต้องหันมาเลี้ยง สัตว์เลี้ยงขนาดใหญ่ แทน อีกทั้งความรู้สึกตอนเลือกซื้อ และตอนจ่ายเงิน กับพวกอุปกรณ์ ของใช้สัตว์ใหญ่ ต่าง ๆ ไม่ทำให้คิดหนัก เพราะราคาไม่แพง
ด้านธุรกิจ : ด้วยกระแสของเทรนด์ดังกล่าว ได้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อ ธุรกิจเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง ไม่ว่าจะเป็น อาหารสัตว์, ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสัตว์, โรงพยาบาลสัตว์, ประกันสัตว์เลี้ยง, เสื้อผ้า เครื่องประดับ หรือแม้กระทั่งของว่างกินเล่น อาหารว่างที่ควรให้กินแค่ 10% ต่อมื้ออาหารหลัก ซึ่งมาในรูปแบบของ ขนมทานเล่นสัตว์ใหญ่ เป็นต้น
สุนัข : สายพันธุ์สุนัขขนาดใหญ่ ที่สามารถเลี้ยงในบ้านได้ ไม่ว่าจะเป็น เชาเชา, ซามอยด์, อิงลิช บูลด็อก, อาคิตะ, ร็อตไวเลอร์, ชิบะ, ไซบีเรียนฮัสกี เป็นต้น ซึ่งแต่ละสายพันธุ์ที่ยกชื่อมานี้ ราคาค่าตัวจะต่างกัน
แมว : สายพันธุ์แมวขนาดใหญ่ สามารถเลี้ยงในบ้านได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น ซาวันน่าห์, นอร์วีเจียนฟอเรสต์, เมนคูน, ไซบีเรียน, แร็กดอลล์ เป็นต้น ซึ่งแต่ละสายพันธุ์ ส่งตรงจากต่างประเทศ ราคาค่อนข้างแพง
สิงโตขาว : นิยมในต่างประเทศ ในแถบตะวันออกกลาง แขกขาว ส่วนใหญ่จะเลี้ยงภายในบ้าน เนื่องจากถูกกฎหมาย และผู้เลี้ยงมีฐานะร่ำรวย แต่ในประเทศไทยนั้น ยังไม่อนุญาตให้เลี้ยงสิงโตขาว หากฝ่าฝืนมีโทษทางกฎหมาย
หมู : เดี๋ยวนี้กระแสการเลี้ยงหมูในบ้าน เริ่มจากต่างประเทศ จนตอนนี้ประเทศไทย มีคนนำหมูมาเลี้ยงภายในบ้าน เลี้ยงดูเหมือนเลี้ยงแมว เลี้ยงสุนัข เป็นต้น
มีการคาดการณ์กันว่า ธุรกิจเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง มีแนวโน้มจะเติบโตแบบก้าวกระโดด และจะสูงขึ้นประมาณปีละ 7.2% ในระดับโลก และ 8.4% ในประเทศไทย กลุ่มคนที่ทำธุรกิจอาหารสัตว์ มีเกณฑ์เติบโตเป็นเท่าตัว ส่วนกลุ่มคนที่นิยมเลี้ยง สัตว์เลี้ยงขนาดใหญ่ นั้น
ส่วนมากจะเป็น Gen Y 77.3%, Gen Z 12% และ Gen X 10.2% ส่วนอีก 80% ของคนที่เลี้ยง Pets คือคนโสดไม่มีแฟน ไม่มีครอบครัว นอกจากนี้ คนนิยมเลี้ยงสุนัข 40.4% เลี้ยงแมว 37.1% และเลี้ยงสัตว์แปลก Exotic Pet 22.6% [2]
หลังจากตัดสินใจรับเลี้ยงสัตว์ การจะดูแลน้องอย่างไร ให้เจ้าของมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ ดูแลน้องอย่างทั่วถึงที่สุด รายละเอียดมีดังนี้
อาหารสำเร็จรูป : จำพวกรูปแบบอาหารดิบ อย่าง บาร์ฟ หรืออาหารคนที่ทำมาจาก วัตถุดิบที่น้องสามารถกินได้ สามารถเข้ามาดูข้อมูลเพิ่มต่อได้ที่ บทความ อาหารสัตว์ขนาดใหญ่
อาหารเม็ด / อาหารเปียก : สำหรับอาหารเม็ด อาหารเปียกของสัตว์ไซส์ใหญ่ ปัจจุบันได้มีแบรนด์ให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะนำเข้าจากไทย หรือต่างประเทศ
อาทิเช่น TASTE OF THE WILD, ORIJIN, IAMS, MAXIMA เหล่านี้ต่างเป็นอาหารสัตว์ไซส์ใหญ่ ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ อาจมีราคาแพง สามารถดูรายละเอียดต่อได้ที่ บทความ ยี่ห้ออาหารสัตว์ใหญ่
ของกินต้องห้าม : นอกจากสัตว์ไซส์เล็ก ที่มีของกินต้องห้ามแล้ว สัตว์เลี้ยงไซส์ใหญ่เองก็มีเช่นกัน เข้ามาดูของกินต้องห้ามได้ที่ บทความ อาหารต้องห้ามสัตว์ใหญ่
การดูแลสัตว์ตัวใหญ่ : สำหรับคนที่เลี้ยงสัตว์ตัวใหญ่ มักจะมีปัญหาในเรื่องของการเห่า แล้วเสียงดังรบกวนเพื่อนบ้าน การจะดูแลอย่างไร ที่จะรบกวนเพื่อนบ้านน้อยที่สุด สามารถศึกษาข้อมูลต่อได้ที่ บทความ การดูแลสัตว์ใหญ่
การออกแบบพื้นที่ : แน่นอนว่า คนที่เลี้ยงสัตว์ขนาดใหญ่ หากไม่ได้มีบ้านส่วนตัว แต่อาศัยอยู่ในบ้านโครงการ อาจจะติดปัญหาในเรื่องของพื้นที่ เพราะน้องต้องการพื้นที่ทำกิจกรรม อย่างพวกสนามหญ้า หากอยากได้ไอเดียในการออกแบบบ้าน สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ บทความ พื้นที่เลี้ยงสัตว์ใหญ่
ในส่วนของกฎหมายเกี่ยวกับการเลี้ยงสัตว์ ยิ่งเป็นสัตว์เลี้ยงตัวใหญ่ ผู้ปกครองจะต้องรับรู้ เรื่องควรรู้สัตว์ใหญ่ ในส่วนนี้ด้วย เพราะเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งเจ้าของสัตว์ หมายถึง เจ้าของกรรมสิทธิ์ ผู้ที่ครอบครองสัตว์ ผู้ที่ได้รับมอบหมายดูแลสัตว์ ส่วนบ้าน หมายถึง พื้นที่จำกัด ไม่ว่าจะบ้านส่วนตัว บ้านจัดสรร บ้านในโครงการ
เจ้าของมีสิทธิ์เลี้ยง สัตว์เลี้ยงขนาดใหญ่ แค่ในขอบเขตบริเวณบ้านเท่านั้น แต่ถ้าปล่อยให้สัตว์ส่งเสียงเห่าดัง มีกลิ่นเหม็นเป็นเวลานาน ถือว่าเป็นการสร้างความเดือดร้อน ให้กับเพื่อนข้างบ้าน
แต่ถ้าเป็นกรณีที่ Pets สร้างความเสียหาย ต่อทรัพย์สินของผู้อื่น อาทิเช่น ขับถ่ายในพื้นที่สาธารณะ กัดทรัพย์สินของเพื่อนข้างบ้าน เจ้าของมีความผิด แต่ถ้าเป็นกรณีที่ Pets สร้างอันตรายให้กับผู้อื่น เจ้าของมีความผิดเช่นกัน [3]
นอกจากนี้ หากไม่ดูแลเพื่อนซี้ ปล่อยให้น้องป่วย มีอาการบาดเจ็บ มีบาดแผลต่าง ๆ จนแผลส่งกลิ่นเหม็น ไม่ยอมพาน้องไป สถานที่รักษาสัตว์ใหญ่ กรณีนี้เจ้าของมีความผิดเช่นกัน
สัตว์เลี้ยงที่เปรียบเสมือนเป็น สมาชิกภายในครอบครัว แน่นอนว่า จะต้องเลี้ยงดูอย่างมีความรับผิดชอบ ดูแลน้องอย่างทั่วถึง แต่หากเมื่อไหร่ที่ปล่อยให้เด็ก ๆ ทำเสียงดังรบกวนเพื่อนบ้าน หรือทำลายทรัพย์สินผู้อื่น เจ้าของจะมีความผิดทันที