สัตว์สร้างรายได้ บรรดาสัตว์ต่าง ๆ ที่ถูกมนุษย์เลี้ยงดูอย่างดี เพื่อสร้างรายได้ให้กับตนเอง ไม่ว่าจะเป็น ไก่ชน, จระเข้, นกกระทา, ปลากัด, กระต่ายเนื้อ, กบ, เป็ด บลา ๆ ซึ่งสัตว์เหล่านี้เปลี่ยนจากการเลี้ยงธรรมดา ๆ ให้กลายเป็น สัตว์เศรษฐกิจ สร้างอาชีพทำเงินได้ โดยบล็อกนี้จะพามาดูอาชีพเล็ก ๆ ที่กลายร่างกลายเป็นธุรกิจการเลี้ยงสัตว์ มีตลาดรองรับ พร้อมกับเทคนิคการเลี้ยงต่าง ๆ
ด้วยบรรดาสัตว์ต่าง ๆ ที่เลี้ยงแล้วได้ดี ได้รับเงินในทุกเดือน ซึ่งหลาย ๆ คนก็เริ่มจากการเลี้ยงจำนวนน้อย ๆ ไปก่อน จากนั้นก็เริ่มขยับขยายจำนวนสัตว์มากขึ้น จนกลายเป็นอาชีพทำเงินเล็ก ๆ สู่ ธุรกิจสัตว์สวยงาม ที่มีตลาดรองรับ ซึ่งการจะกลายเป็นธุรกิจใหญ่นั้น หากคนเลี้ยง สัตว์สร้างรายได้ เริ่มจับทางถูก อาจได้รับมูลค่าต่อเดือนหลักพันขึ้นไป จนไปแตะหลักหมื่น หลักแสน
โดยสัตว์ในเชิงพาณิชย์ที่ตลาดรองรับนั้น มีชนิดสัตว์ให้เลือกหลากหลาย และเป็นชนิดที่คนไทยนิยมอย่างมาก ในการเพาะเลี้ยงส่งออกขาย ไม่ว่าจะเป็น กุ้งก้ามกราม, หอยขม, กบ, ไก่ชน, จิ้งหรีด, ผึ้งจิ๋ว, ปูนา, เป็ดไข่, ปลากัด, นกกระทา, จระเข้, กวางรูซ่า, กระต่ายเนื้อ เป็นต้น อย่างไรก็ตาม บล็อกนี้จะมาแนะนำสัตว์ที่สร้างอาชีพ และสร้างรายได้ให้กับผู้เลี้ยงได้จริง สามารถติดตามรับชมเนื้อหาได้ก่อนใคร
การเลี้ยง “ จระเข้ ” ณ ฟาร์มจระเข้ จังหวัดมหาสารคาม การเลี้ยงสัตว์ที่หน้าตาน่ากลัว และมีนิสัยที่ดุร้าย หากจับไปขายในตลาดที่รับรอง เผลอ ๆ อาจขายได้ตัวละเป็นหมื่น แต่หากขายทีละหลาย ๆ ตัว คุณอาจได้รับรายได้เป็นหลักล้าน โดยเจ้าของฟาร์มมีวิธีการเลี้ยงในฉบับของตนเอง ได้แก่ การให้อาหารสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ซึ่งอาหารที่ให้ตั้งแต่ที่จระเข้ยังตัวเล็ก แนะว่าควรให้อกไก่บด
ส่วนตัวโตเต็มวัยแนะว่าให้กินหัวไก่สด อย่างน้อย 40 – 60 กิโลต่อสัปดาห์ คิดออกมาเป็นค่าอาหาร 440 – 660 บาทต่อสัปดาห์ อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่เนื้อหมูราคาแพง ผู้คนก็เริ่มสนใจมากินเนื้อจระเข้มากขึ้น เพราะไขมันน้อย เนื้อสัมผัสที่คล้ายเนื้อไก่ อีกทั้งหนังจระเข้ยังนำไปทำเป็นเครื่องหนัง และแฟชั่นต่าง ๆ อีกมากมาย ซึ่งราคาเนื้อจระเข้ในตลาดตอนนี้อยู่ที่ 180 บาทต่อกิโลกรัม [1]
การเลี้ยง “ กระต่ายเนื้อ ” อาจจะยังไม่ค่อยนิยมในประเทศไทย ส่วนใหญ่จะนิยมในกลุ่มคนต่างประเทศ เพราะพวกเขานิยมบริโภคเนื้อกระต่ายมานาน สุดท้ายก็ได้มีกลุ่มเกษตรกรคนไทย ได้เริ่มนำเทรนด์การเลี้ยงกระต่ายเนื้อเข้ามา จึงมีการเริ่มทดลองเลี้ยงตั้งแต่ 10 ตัวขึ้นไป
จนปัจจุบันกระต่ายเนื้อกลายเป็น สัตว์เลี้ยงสร้างอาชีพ ตัวใหม่ ที่สร้างรายได้ให้กับผู้เลี้ยงได้จริง อย่างไรก็ตาม กระต่ายเนื้อเป็นที่รักของคนที่ชอบกินอาหารป่า โดยเฉพาะต่างชาติ ต่างแดน นั่นก็เพราะเนื้อนุ่ม โปรตีนสูง แต่คนไทยไม่นิยมรับประทาน แต่นิยมเลี้ยงดูในบ้าน และเลี้ยงเพื่อส่งออกขาย โดยราคาเนื้อในตลาดอยู่ที่ 100 – 300 บาท [2]
ถ้าถามว่าอาชีพเล็ก ๆ ที่กลายเป็นธุรกิจใหญ่ จนส่งออกในตลาดของประเทศไทย ที่เฟื่องฟูที่สุดในตอนนี้ คงจะเป็นธุรกิจ สัตว์สร้างรายได้ ที่เปิดตัวมาตั้งแต่ก่อนที่ เศรษฐกิจในไทยจะเริ่มซบเซา เนื่องจากสถานการณ์โรคระบาดโควิด -19 ระบาด
แต่พอช่วงเวลาของโรคระบาดผ่านไป จนมาถึงปี 2024 ธุรกิจที่เกี่ยวกับสัตว์หลากหลายประเภท ก็ยังคงอยู่ในตลาดสัตว์เลี้ยง ทั้งนี้ มีการคาดการณ์กันว่า มูลค่าในตลาดจะเติบโตเฉลี่ยปีละ 8.4% และอีก 3 ปีข้างหน้า มูลค่าอาจเพิ่มขึ้นจาก 217,651 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ประมาณ 7,543,674,442 บาท ) เป็นยอด 66,748 ล้านบาท
การเลี้ยง “ นกกระทา ” ถือว่าเป็นสัตว์ที่ไม่จำเป็นต้องลงทุนเยอะ ไม่จำเป็นต้องมีพื้นที่เลี้ยงมาก โดยสัตว์ชนิดนี้นิยมในประเทศญี่ปุ่น ประชากรส่วนใหญ่เลี้ยงเพื่อหารายได้เสริม ส่วนใหญ่จะขายทั้งไข่นกกระทา ไข่เชื้อ พ่อพันธุ์แม่พันธุ์ ลูกนกกระทา หรือการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เป็นต้น
แต่ความนิยมนี้ได้เข้ามาสู่ประเทศไทย ซึ่งสายพันธุ์นกกระทามีทั้งหมด 12 สายพันธุ์ แต่มีเพียงไม่กี่พันธุ์เท่านั้นที่นิยมเลี้ยงกัน อย่างไรก็ตาม นกกระทาจะเริ่มออกไข่ตั้งแต่ 1 – 2 เดือน ซึ่งใช้เวลาในการฟักไข่ 14 – 19 วัน โดยราคานกกระทาตอนนี้ตกตัวละ 13 – 20 บาท [3]
สำหรับความท้าทายที่ผู้เลี้ยงสัตว์ เพื่อสร้างรายได้เสริมให้ตนเอง มักจะเจออยู่บ่อย ๆ นั้น น่าจะเป็นเรื่องการแข่งขันในตลาดเป็นอันดับแรก หากว่าตั้งราคาขายในตลาดที่สมเหตุสมผลแล้ว แต่พบว่ามีร้านอื่นในตลาด ตั้งราคาขายที่ถูกกว่า หรือแพงกว่า
นี่อาจจะส่งผลกระทบโดยตรงได้ เพราะลูกค้ามีทางเลือก สัตว์สร้างรายได้ ให้เลือกเยอะมากขึ้น บางคนก็ชอบของถูก บลา ๆ ส่วนความท้าทายอีกอย่างก็คือ คุณภาพสินค้าจะต้องดีจริง ถึงจะอยู่ในวงการตลาดสัตว์เลี้ยงนาน ยิ่งธุรกิจไหนที่มีผลิตภัณฑ์มีคุณภาพ คนก็จะยิ่งแย่งกันซื้อ และต้องการมากขึ้น เป็นต้น
บรรดาสัตว์เลี้ยงเศรษฐกิจต่าง ๆ ที่คนรักสัตว์นิยมเลี้ยงกันนั้น ไม่ว่าจะเป็น จระเข้, นกกระทา, กระต่ายเนื้อ, หอยขม, กบ, กุ้งก้ามกราม, จิ้งหรีด, ผึ้งจิ๋ว, ปลากัด บลา ๆ ต่างเป็นสัตว์ที่ช่วยสร้างอาชีพเล็ก ๆ จนกลายเป็นธุรกิจส่งออกขายในตลาดได้