พญาครุฑ พาหนะคู่ใจของพระวิษณุ

พญาครุฑ

พญาครุฑ เป็นสัตว์ในตำนาน ที่มีความสำคัญมาก ในศาสนาฮินดู และวัฒนธรรมไทย ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดี ในฐานะพาหนะของพระวิษณุ หนึ่งในสามเทพผู้ยิ่งใหญ่ ของศาสนาฮินดู พญาครุฑมีลักษณะเป็นนกยักษ์ ที่มีอำนาจ และพละกำลังสูงสุด เชื่อกันว่าครุฑเป็นตัวแทน ของความกล้าหาญ ความมีอำนาจ และความเป็นนิรันดร์ มาดูกันว่า พญาครุฑมีความสำคัญอย่างไร ในตำนาน และวัฒนธรรมต่าง ๆ

ลักษณะของ พญาครุฑ

พญาครุฑ มีรูปร่าง และลักษณะเฉพาะ เป็นครึ่งนกครึ่งมนุษย์ โดยหัว ปีก และเล็บ เป็นนกอินทรี ขณะที่ร่างกายท่อนบนเป็นมนุษย์ มีขนสีทองหรือสีแดง ซึ่งเป็นที่มาของความเชื่อว่าเขาเป็นตัวแทน ของความแข็งแกร่ง และอำนาจ รูปแบบที่คุ้นตาในภาพ หรือรูปปั้นของพญาครุฑ มักจะแสดงให้เห็นปีกที่ยาวใหญ่ และมีพละกำลัง ในการบินอย่างรวดเร็ว

ความสามารถพิเศษ
ครุฑ มีพละกำลังมหาศาล และความสามารถในการต่อสู้ กับปีศาจ หรือพลังชั่วร้ายต่าง ๆ เขายังมีความสามารถ ในการบินเร็วที่สุดในจักรวาล ซึ่งทำให้เป็นพาหนะ ที่เหมาะสมสำหรับพระวิษณุ ในการเดินทางระหว่างโลก และสวรรค์

ที่มา: “ครุฑ” [1]

พญาครุฑกับพระวิษณุ

ในตำนานฮินดู พญาครุฑทำหน้าที่ เป็นพาหนะของพระวิษณุ หนึ่งในตรีมูรติ เทพเจ้าผู้ดูแลและปกป้องจักรวาล พระวิษณุทรงใช้พญาครุฑในการเดินทาง ข้ามโลกและจักรวาลต่าง ๆ ซึ่งพญาครุฑมีความสามารถ ในการบินด้วยความเร็วสูง และพญาครุฑยังมีบทบาท ในการช่วยเหลือพระวิษณุ ในการปกป้องจักรวาล และต่อสู้กับศัตรู การที่พญาครุฑมีความจงรักภักดี และยอมอุทิศตน เพื่อพระวิษณุ ทำให้เขากลายเป็นสัญลักษณ์ ของความซื่อสัตย์ และความแข็งแกร่ง

ความสำคัญในวัฒนธรรมไทย

พญาครุฑมีบทบาทสำคัญ ในวัฒนธรรมไทยอย่างมาก เพราะเป็นสัญลักษณ์ ของความเป็นใหญ่และอำนาจ ในประเทศไทย พญาครุฑเป็นตราสัญลักษณ์ ของราชวงศ์ และใช้เป็นสัญลักษณ์ของราชการ รวมถึงบนธนบัตรของไทย ก็มีภาพพญาครุฑปรากฏอยู่ นอกจากนี้ เรายังเห็นพญาครุฑในรูปแบบ ของงานประติมากรรม ที่วิจิตรตระการตา ในวัดวาอารามหรือสถานที่สำคัญต่าง ๆ ทั่วประเทศ

การบูชาและความเชื่อ ในชีวิตประจำวัน
นอกจากการเป็นสัญลักษณ์ ของราชการแล้ว พญาครุฑยังเป็นที่เคารพบูชา ในชีวิตประจำวันของคนไทย เชื่อกันว่า ครุฑสามารถคุ้มครองบ้านเรือน จากภัยอันตราย นำโชคลาภ และความเจริญรุ่งเรืองเข้ามา บางคนจึงนิยมนำรูปภาพ หรือรูปปั้นครุฑมาติดไว้ที่บ้าน หรือที่ทำงาน

ตำนานของ พญาครุฑ

พญาครุฑ

พญาครุฑ มีตำนานเป็นเรื่องราว ที่เกี่ยวข้องกับความศักดิ์สิทธิ์ ความกล้าหาญ และความยิ่งใหญ่ ของสัตว์ในตำนานที่มีลักษณะ ครึ่งนกครึ่งมนุษย์ พญาครุฑมีบทบาทสำคัญ ในหลายวัฒนธรรม โดยเฉพาะในศาสนาฮินดู และพุทธศาสนา เรื่องราวของพญาครุฑมีหลายรูปแบบ แต่เรื่องที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางคือ ตำนานที่เกี่ยวข้องกับพระวิษณุ หนึ่งในตรีมูรติของศาสนาฮินดู และตำนานพญาครุฑกับ พญานาค [2]

กำเนิดของพญาครุฑ

พญาครุฑมีชื่อว่า “คัชยปะ” เป็นบุตรของพระฤๅษี “กัศยป” และ “นางวินตา” [3] พญาครุฑเกิดขึ้นมาพร้อมกับพละกำลัง ที่มหาศาล และปีกที่ใหญ่โต เขามีความสามารถ ในการบินข้ามจักรวาลอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นคุณสมบัติ ที่ทำให้เขาโดดเด่นตั้งแต่เกิด แต่เรื่องราวความสำคัญของเขา เกิดขึ้นเมื่อแม่ของพญาครุฑนั้น ต้องถูกทำให้เป็นทาส ของนางกัทรุ ผู้เป็นน้องสาวของนางวินตา และเป็นมารดา ของพญานาค พญาครุฑกับพญานาคจึงไม่ถูกกัน

พญาครุฑกับพญานาค

ตำนานเล่าว่า นางกัทรุและนางวินตาทะเลาะกัน เรื่องสีของหางม้าอุจฉัยศรวัส นางกัทรุกล่าวว่าหางม้าเป็นสีดำ แต่หางม้านั้นจริง ๆ แล้วเป็นสีขาว นางกัทรุจึงวางแผนโกง โดยให้พญานาคมาพันหางม้า ให้ดูเหมือนเป็นสีดำ จากการเดิมพันครั้งนี้ นางวินตาแพ้พนัน และต้องกลายเป็นทาส ของนางกัทรุ และพญานาค

เมื่อพญาครุฑทราบเรื่องนี้ เขาตั้งใจที่จะปลดปล่อยแม่ของตน จากการเป็นทาส โดยขอเงื่อนไข จากพญานาคว่า ต้องไปนำ “น้ำอมฤต” (น้ำทิพย์ที่ทำให้เป็นอมตะ) มามอบให้พญานาค เพื่อแลกกับการ ปลดปล่อยแม่ของตน พญาครุฑจึงบินไปยังสวรรค์ เพื่อชิงน้ำอมฤต และเผชิญหน้ากับเทพอินทรา และเหล่าทวยเทพ

พญาครุฑจึงเดินทาง ไปยังสวรรค์เพื่อชิงน้ำอมฤต ซึ่งเป็นภารกิจที่ยาก และเต็มไปด้วยอันตราย แต่ด้วยพละกำลัง และความกล้าหาญ พญาครุฑสามารถชิงน้ำอมฤต มาได้สำเร็จ หลังจากนั้น พระวิษณุได้มอบหมายให้พญาครุฑ เป็นพาหนะของพระองค์ และนางวินตาก็ได้รับอิสรภาพ ตามที่พญานาคสัญญา

สรุป พญาครุฑสัญลักษณ์ ของความกล้าหาญ 

สรุป พญาครุฑ ยังคงมีความเชื่อมานาน ตั้งแต่อดีต จนถึงปัจจุบัน ไม่ใช่แค่พาหนะ ของพระวิษณุในตำนานเท่านั้น แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ ที่มีความหมายลึกซึ้ง ตำนานของครุฑ ยังคงมีอิทธิพลต่อวัฒนธรรม และความเชื่อ ในหลายประเทศรวมถึงไทย ตั้งแต่เรื่องของความกล้าหาญ ความจงรักภักดี ไปจนถึงการเป็นตัวแทนของอำนาจ และความมั่งคั่ง ที่ยังคงใช้เป็นสัญลักษณ์จนถึงปัจจุบัน

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง