ปลาสวยงามน่าเลี้ยง สัตว์น้ำที่สามารถสร้างความเพลิดเพลิน และคอยเติมเต็มให้ผู้เลี้ยงมีชีวิตชีวา ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มก้อนของ สัตว์เลี้ยงขนาดเล็ก ทั่ว ๆ ไป ที่เหมาะกับผู้เลี้ยงที่ใจเย็น สุขุม ไม่จำเป็นต้องมีเวลาดูแลเยอะ โดยบทความฉบับนี้ ได้ทำการมัดรวมมา 4 รายชื่อ ที่เกี่ยวกับสายพันธุ์ปลาสวยงาม พร้อมกับข้อมูลเบื้องลึกของตลาด และอุปกรณ์เบื้องต้นสำหรับผู้เริ่มเลี้ยงมือใหม่
ว่ากันด้วย “ ปลาสวยงาม ” หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “ ปลาตู้ ” เป็นสัตว์น้ำที่มนุษย์คอยเลี้ยงไว้ เพื่อสร้างความเพลิดเพลิน หรือเพื่อตั้งโชว์ในบ้าน ในคอนโดเพราะความสวยงาม แต่ไม่ได้เลี้ยงไว้เพื่อบริโภค ส่วนใหญ่แล้วปลาตู้ถือว่าเป็น สัตว์เลี้ยงทั่วไป ที่นิยมเลี้ยงไว้ในสถานที่พักต่าง ๆ อาทิเช่น บ้าน, หอพัก, คอนโด เป็นต้น โดยจะเลี้ยงน้องภายในตู้กระจก, ตู้ปลา, บ่อ หรือสระน้ำขนาดเล็ก เป็นต้น
ทั้งนี้ การเลี้ยงปลาไม่ได้มีหลักฐานที่ชัดเจนว่า มนุษย์เริ่มเลี้ยงมาตั้งแต่ช่วงไหน โดยนักโบราณคดีได้ค้นพบบ่อปลา มีอายุมากกว่า 4,400 ปี และปลาชนิดแรกที่มนุษย์ได้เริ่มเลี้ยง คือ ปลาคาร์ป แต่ก่อนนั้นนิยมเลี้ยงเพื่อบริโภค แต่ปัจจุบันเลี้ยงไว้เพื่อความสวยงาม โดยหลัก ๆ แล้ว ชนิดของสายพันธุ์ปลา ถูกแบ่งออกมาได้ 3 ประเภทใหญ่ ได้แก่ ปลาน้ำจืด, ปลาน้ำกร่อย และปลาน้ำเค็ม [1]
ปลาทอง : หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งได้ว่า “ ปลาเงินปลาทอง ” น้องเป็นปลาน้ำจืด ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มปลาตะเพียน อีกทั้ง ปลาทอง มีถิ่นกำเนิดมาจากประเทศญี่ปุ่น และประเทศจีน ปัจจุบันกลายเป็น ปลาสวยงามน่าเลี้ยง อันดับต้น ๆ มีราคาเริ่มต้น 10 – 100 บาทขึ้นไป [2]
ปลาหางนกยูง : กลุ่มปลาน้ำจืดขนาดเล็ก ซึ่งมีความยาวไม่เกิน 5 เซนติเมตร อีกทั้ง ปลาหางนกยูง ยังเป็นที่รู้จักกันดีในฐานะของ สัตว์เลี้ยงฮิตในไทย โดยสายพันธุ์ยอดนิยม ได้แก่ ทักซิโด้, คอบร้า, โมเสก, นีออน เป็นต้น มีราคาเริ่มต้น 100 บาทขึ้นไป [3]
ปลากัด : กลุ่มปลาน้ำจืดขนาดเล็ก เช่นเดียวกันกับปลาหางนกยูง โดยสายพันธุ์ ปลากัด ที่นิยมเลี้ยงกัน ได้แก่ ปลากัดจีน, ปลากัดลูกทุ่ง, ปลาสังกะสี, ปลากัดหางพระจันทร์ครึ่งซีก เป็นต้น ซึ่งมีราคาจำหน่ายเริ่มต้นหลักสิบ ประมาณ 50 – 60 บาทขึ้นไป [4]
ปลานีออน : หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งได้ว่า “ ปลานีออนเตตร้า ” น้องเป็นปลาน้ำจืดขนาดเล็ก ซึ่งถูกจัดให้อยู่ในกลุ่ม ปลานีออน วงศ์ปลาคาราซิน เป็นสัตว์น้ำขนาดเล็ก ที่ชอบการอยู่อาศัยเป็นฝูงใหญ่ อีกทั้งปลานีออนยังมีการ เพาะขยายพันธุ์ในหลายประเทศ อาทิเช่น ไทย, อินโดนีเซีย, สิงคโปร์ มีราคาเริ่มต้นหลัก 10 – 100 บาทขึ้นไป [5]
ประเทศไทยในปัจจุบันนี้นั้น การเลี้ยง ปลาสวยงามน่าเลี้ยง กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยเหล่าน้อง ๆ ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มก้อนของ “ สัตว์เลี้ยงยอดนิยม ” เช่นเดียวกันกับ Dog หรือ สุนัขยอดนิยม สายพันธุ์ต่าง ๆ หรือแม้กระทั่งน้องแมวที่อยู่ในกลุ่ม แมวยอดนิยม สายพันธุ์ต่าง ๆ โดยตลาดค้าขายใหญ่ที่คนเลี้ยงปลารู้จักกัน คือ “ ตลาดซันเดย์ ” ตั้งอยู่ ณ ตลาดนัดสวนจตุจักร
และ “ ตลาดธนบุรี ” หรือที่รู้จักกันในชื่อว่า “ สนามหลวง 2 ” ซึ่งตลาดเหล่านี้ เป็นอุตสาหกรรมการเพาะขยายพันธุ์ และการค้าขายพันธุ์ปลาอีกประเภทหนึ่ง โดยสถานที่ที่เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ ณ จังหวัดราชบุรี อีกทั้งอุตสาหกรรมของปลาสวยงามในไทย ถือว่าเป็นแหล่งทั้งเพาะพันธุ์ และแหล่งส่งออกไปยังประเทศต่าง ๆ โดยมูลค่าการส่งออกอยู่ที่ 2,000 ล้านบาทต่อปี
สำหรับตลาดที่เป็นแหล่งนำเข้า Beautiful Fish หลัก ๆ แล้วจะมีอยู่ 3 ประเทศ ที่จัดให้เป็นตลาดนำเข้า ปลาสวยงามน่าเลี้ยง ขนาดใหญ่ที่สุดอันดับ 1 ของโลก, ตลาดอันดับ 2 ของโลก และตลาดอันดับ 3 ของโลก ซึ่งรายละเอียดมีดังนี้
กลุ่มประเทศยุโรป : ตลาดนำเข้าใหญ่อันดับ 1 ของโลก ไม่ว่าจะเป็น อิตาลี, อังกฤษ, ฝรั่งเศส, เนเธอร์แลนด์, เยอรมัน มีมูลค่านำเข้าปีละ 82 ล้านเหรียญสหรัฐ ตีเป็นเงินไทยราว ๆ 2,792,879,000 บาท
ประเทศสหรัฐอเมริกา : ตลาดนำเข้าที่ใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ของโลก มีมูลค่านำเข้ารองจากประเทศยุโรป โดยมีมูลค่า 40.8 ล้านเหรียญสหรัฐ ตีเป็นเงินไทยราว ๆ 1,389,709,200 บาท
ประเทศญี่ปุ่น : ตลาดนำเข้าใหญ่อันดับ 3 ของโลก มีมูลค่านำเข้าประมาณ 39 ล้านเหรียญสหรัฐ ตีเป็นเงินไทยราว ๆ 1,328,320,500 บาท ซึ่งตลาดนำเข้านี้ได้นำเข้า ปลาสวยงามราคาแพง สายพันธุ์ต่าง ๆ อาทิเช่น ปลาคาร์ป เป็นต้น
ในส่วนของอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่จะต้องซื้อก่อนเลี้ยงจริง ถือว่าเป็นอุปกรณ์ ของใช้สัตว์เล็ก ที่จะต้องซื้อให้ครบ โดยรายละเอียดต่าง ๆ มีดังนี้
บทความรอบรู้ทุกสรรพสัตว์บนโลก ด้วยการแนะนำ 4 รายชื่อปลาสวยงาม ที่น่าเลี้ยงไว้เพื่อความสวยงาม ราคาจำหน่ายเริ่มต้นหลัก 10 – หลัก 100 บาทขึ้นไป ถือว่าเป็นสัตว์เลี้ยงขนาดเล็ก ที่จัดอยู่ในกลุ่มสัตว์น้ำน่าเลี้ยง หากกำลังมองหาสัตว์เลี้ยง ที่ไม่ใช่สุนัข หรือแมว แนะนำให้ลองเลี้ยง Beautiful Fish