ประวัติ ผีเสื้อ มาเคออน และบทบาทสำคัญในระบบนิเวศ

ประวัติ ผีเสื้อ มาเคออน

ประวัติ ผีเสื้อ มาเคออน หรือที่รู้จักกัน ในชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Papilio machaon เป็นหนึ่งในผีเสื้อ ที่มีความงดงาม และโดดเด่นที่สุดในโลก ด้วยลวดลาย อันเป็นเอกลักษณ์ และสีสันที่สดใส ทำให้มันกลายเป็นที่รู้จัก ในวงกว้างทั้งในเชิงวิทยาศาสตร์ และในวัฒนธรรมพื้นบ้าน หลายพื้นที่ทั่วโลก

 ประวัติความเป็นมา ของผีเสื้อมาเคออน

ผีเสื้อมาเคออน มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Papilio machaon ได้รับแรงบันดาลใจจาก “มาเคออน” (Machaon) ในตำนานเทพปกรณัมกรีก ซึ่งเป็นบุตรชาย ของเทพแพทย์อาสเคลปิอุส (Asclepius) และเป็นแพทย์ ผู้มีชื่อเสียงในยุคสงครามโทรจัน การตั้งชื่อดังกล่าวมาจาก นักธรรมชาติวิทยา ชาวสวีเดน คาร์ล ลินเนียส สะท้อนถึงความสง่างาม และความพิเศษ ของผีเสื้อชนิดนี้ [1]

การค้นพบผีเสื้อมาเคออน และการตั้งชื่อ

ผีเสื้อมาเคออนถูกบันทึก ครั้งแรกในยุโรปในช่วง ศตวรรษที่ 18 โดยนักกีฏวิทยา ที่ศึกษา และรวบรวมตัวอย่าง ของมันจากธรรมชาติ ชื่อ Papilio ซึ่งเป็นชื่อสกุล ในวงศ์ผีเสื้อหางติ่ง (Papilionidae) วงศ์เดียวกันกับ ผีเสื้อโพลิเทส หมายถึง “ผีเสื้อ” ในภาษาละติน ส่วนคำว่า มาเคออน ถูกเพิ่มเข้ามา เพื่อเป็นการยกย่อง ตัวละครในตำนานกรีก

ลักษณะของ ผีเสื้อมาเคออน

ผีเสื้อมาเคออนมีลักษณะเด่น ที่เป็นที่จดจำได้ง่าย ปีกของมัน มีสีเหลืองสดใส ตัดกับลวดลายสีดำ ที่สวยงาม ขอบปีกหลัง มีแถบสีฟ้าสดใส และบริเวณโคนปีกหลัง มีจุดสีแดง ที่เพิ่มความโดดเด่น ขนาดของมันเมื่อกางปีก จะอยู่ระหว่าง 6-10 เซนติเมตร โดยลักษณะ “หางแฉก” ที่ปลายปีกหลัง ทำให้มันถูกเรียก อีกชื่อหนึ่งว่า “ผีเสื้อหางนกนางแอ่น” (Swallowtail) 

การจำแนกประเภททางวิทยาศาสตร์

  • ชื่อภาษาอังกฤษ : Machaon
  • โดเมน : Eukaryota
  • อาณาจักร : สัตว์ในตระกูล Animalia
  • ไฟลัม : Arthropoda
  • ระดับ : Insecta
  • คำสั่ง : Lepidoptera
  • ตระกูล : วงศ์ Papilionidae
  • ประเภท : Papilio
  • สายพันธุ์ : P.machaon
  • ชื่อทวินาม : Papilio machaon

ที่มา: “Papilio machaon” [2]

ความสำคัญ ผีเสื้อมาเคออน ในระบบนิเวศ

ประวัติ ผีเสื้อ มาเคออน

ผีเสื้อมาเคออน มีบทบาทสำคัญ ในฐานะผู้ช่วยผสมเกสร โดยเฉพาะกับพืชดอก พวกมันช่วยนำละอองเกสร จากดอกหนึ่ง ไปยังอีกดอกหนึ่ง ซึ่งเป็นกระบวนการสำคัญ ที่ช่วยให้พืช สามารถสืบพันธุ์ และสร้างผลผลิตได้

การพบผีเสื้อมาเคออน ในพื้นที่หนึ่ง สามารถสะท้อนถึง ความสมดุล และความหลากหลาย ทางชีวภาพในพื้นที่นั้นได้ เนื่องจากพวกมัน ต้องการสภาพแวดล้อม ที่เหมาะสม เช่น พืชอาหาร สำหรับตัวอ่อน (หนอนผีเสื้อ) และแหล่งน้ำที่สะอาด ในการดำรงชีวิต

การกระจายพันธุ์ ของผีเสื้อมาเคออน

ผีเสื้อมาเคออนพบได้ ในทวีปยุโรป เอเชีย และแอฟริกาเหนือ โดยมีถิ่นที่อยู่หลากหลาย ตั้งแต่ที่ราบต่ำ ไปจนถึงพื้นที่ภูเขา พวกมันอาศัยอยู่ในทุ่งหญ้า พื้นที่ป่า และแม้กระทั่งในสวนของมนุษย์ เนื่องจากสามารถปรับตัว เข้ากับสภาพแวดล้อม ที่แตกต่างกันได้ดี [3]

วงจรชีวิตผีเสื้อมาเคออน

  1. ระยะไข่ : ตัวเมียจะวางไข่ บนใบพืช ที่เป็นอาหารของตัวอ่อน เช่น พืชตระกูลแครอท (Apiaceae) ผักชี หรือขึ้นฉ่าย ซึ่งไข่มักมีขนาดเล็ก และโปร่งใส
  2. ระยะตัวหนอน : ตัวหนอนกิน ใบพืชเป็นอาหาร เพื่อสะสมพลังงาน มีสีเขียวสดใส จุดสีดำ และส้ม ช่วยพรางตัว และขับไล่ศัตรู ตามธรรมชาติ เช่น นก หรือแมลงนักล่า
  3. ระยะดักแด้ : ตัวหนอนจะหยุดกิน และสร้างเปลือกดักแด้ ซึ่งทำหน้าที่ เป็นเกราะป้องกัน ระหว่างที่มันเปลี่ยนแปลง โครงสร้างร่างกาย
  4. ระยะตัวเต็มวัย : ดักแด้จะพัฒนา กลายเป็นผีเสื้อ ที่บินได้สมบูรณ์ มีปีกสีสันสวยงาม เพื่อช่วยดึงดูดคู่ และผสมพันธุ์

สรุป ผีเสื้อมาเคออน 

สรุป ผีเสื้อมาเคออน เป็นมากกว่าสัตว์ปีกที่งดงาม มันเป็นส่วนหนึ่ง ของวัฏจักรธรรมชาติ ที่ช่วยรักษาสมดุล ของระบบนิเวศ การพบผีเสื้อในพื้นที่หนึ่ง สะท้อนถึงความหลากหลาย ทางชีวภาพ และความอุดมสมบูรณ์ ของพื้นที่นั้น อนุรักษ์ผีเสื้อชนิดนี้ จึงเป็นสิ่งสำคัญ ไม่เพียงเพื่อ ความสวยงามทางสายตา แต่ยังเพื่อการรักษาธรรมชาติ ให้คงอยู่สำหรับ คนรุ่นหลังต่อไป

ทำไมผีเสื้อมาเคออน ถึงถูกตั้งชื่อตาม “มาเคออน”?

ชื่อ “มาเคออน” มาจากตัวละคร ในตำนานกรีกซึ่ง “มาเคออน” เป็นชื่อของบุตรชาย ของแอสเคลปิอุส (เทพแห่งการแพทย์) และเป็นแพทย์ ผู้มีความสามารถ ในกองทัพกรีกยุคสงครามโทรจัน นักธรรมชาติวิทยา ชาวสวีเดน คาร์ล ลินเนียส เป็นผู้ตั้งชื่อผีเสื้อชนิดนี้ โดยมักใช้ชื่อตัวละคร ในตำนานกรีก และโรมัน ตั้งชื่อสิ่งมีชีวิตที่โดดเด่น และสง่างาม

ผีเสื้อมาเคออนมีบทบาท ในระบบนิเวศอย่างไร?

ผีเสื้อมาเคออนมีบทบาทสำคัญ ในการช่วยผสมเกสร ให้พืชในระหว่างที่มัน ดูดน้ำหวาน จากดอกไม้ อีกทั้งยังเป็นตัวบ่งชี้ ความสมบูรณ์ ของระบบนิเวศ และเป็นส่วนหนึ่ง ของห่วงโซ่อาหาร ในธรรมชาติ

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง