นกยูงเชน หรือ ลอร์ดเชน (Lord Shen) เป็นตัวละครที่มีความซับซ้อน และลึกซึ้งใน Kung Fu Panda 2 เชนมีลักษณะเป็นนกยูงสีขาว ที่สง่างามมาก บทบาทของเขาไม่ใช่แค่ตัวร้ายธรรมดา แต่มีมิติของความทะเยอทะยาน และความเจ็บปวดจากอดีต ที่หล่อหลอมให้เขา กลายเป็นผู้ที่เต็มไปด้วยความอาฆาต และไม่อาจปล่อยวางได้
นกยูงเชน มีอดีตที่เป็นจุดสำคัญ ในการหล่อหลอมให้เขา กลายเป็นตัวละครที่มีความทะเยอทะยาน และเต็มไปด้วยความอาฆาต เชนเกิดมาในครอบครัว ที่ปกครองเมืองกงเหมิน (Gongmen City) ราชวงศ์นกยูงที่เป็นผู้คิดค้น และพัฒนาการใช้ดอกไม้ไฟ โดยพ่อแม่ของเขามองว่าดอกไม้ไฟ เป็นสิ่งที่นำมาซึ่งความสุข และความเจริญรุ่งเรือง
แต่เชนกลับมองต่างออกไป เขาเห็นศักยภาพของดอกไม้ไฟ ในการเป็นอาวุธทรงพลัง ความทะเยอทะยานนี้ ทำให้เขาเริ่มทดลองเปลี่ยนดอกไม้ไฟ ให้กลายเป็นอาวุธเพื่อสร้างอำนาจ อยู่มาวันหนึ่ง เชนได้ยินคำทำนายจากนักพรตที่ระบุว่า “นักรบสีดำและขาวจะล้มล้างเขา และมาทำลายแผนการทั้งหมด” คำทำนายนี้สร้างความหวาดกลัวให้กับเชนอย่างมาก
เขากลัวว่าตนเองจะสูญเสียทุกสิ่ง และเพื่อหลีกเลี่ยงคำทำนาย เชนจึงตัดสินใจทำสิ่งที่โหดร้าย อย่างไม่น่าให้อภัย เขาสั่งให้กองทัพหมาป่า กวาดล้างแพนด้าทั้งหมด ในแผ่นดินจีน การกระทำนี้ทำให้เขา ถูกขับไล่ออกจากเมืองกงเหมิน โดยพ่อแม่ของเขา ด้วยความโกรธแค้น และความเสียใจ เขาสาบานว่าจะกลับมา เพื่อครองเมืองนี้อีกครั้ง [1]
เชนเป็นตัวละครที่มีความเก่งกาจ และความฉลาดอย่างลึกซึ้ง เขาเป็นนักคิดเชิงกลยุทธ์ ที่มองการณ์ไกล โดยสามารถพลิกโฉมดอกไม้ไฟ จากสิ่งที่ใช้เพื่อความบันเทิง ให้กลายเป็นอาวุธทำลายล้าง ที่ทรงพลังที่สุดในยุคนั้น ความสามารถในการสร้างอาวุธของเขา บ่งบอกถึงการเข้าใจวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี ในระดับที่ก้าวล้ำกว่าคนทั่วไป
ในฐานะนักรบ เชนแสดงให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญ ในการต่อสู้ระยะประชิด เขาใช้ขนนกยูง ที่แหลมคมเหมือนมีด เป็นอาวุธอย่างคล่องแคล่ว ผสานกับการเคลื่อนไหวที่สง่างาม และรวดเร็ว ราวกับการเต้นรำที่แสนอันตราย นอกจากนี้ เขายังมีความสามารถ ในการสร้างความจงรักภักดี ในหมู่พวกเขา นี่สะท้อนถึงความเป็นผู้นำ ที่ทรงพลังอย่างมาก
สิ่งที่ทำให้เชนน่ากลัวที่สุด คือจิตใจของเขา ซึ่งเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น และความดื้อรั้น เขาไม่เคยยอมรับความพ่ายแพ้ และพร้อมจะทำทุกวิถีทาง เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย แม้ว่าในท้ายที่สุดเขาจะล้มเหลว แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าเชน เป็นตัวละครที่มีความเก่ง ในแบบที่หายาก ผสมผสานระหว่างความฉลาด และความสามารถเชิงกลยุทธ์ ที่ยอดเยี่ยม
บุคลิกและแรงผลักดัน
เชนมีลักษณะของอัจฉริยะ ที่ทะเยอทะยาน เขามองเห็นศักยภาพ ของดอกไม้ไฟในการใช้เป็นอาวุธ ที่ไม่มีใครเคยคิดถึง แต่ความทะเยอทะยานนั้น กลับถูกบิดเบือนด้วยความหวาดกลัวต่อคำทำนาย ทำให้เขาตัดสินใจกำจัดแพนด้าในอดีต ซึ่งนั่นได้กลายเป็นบาดแผล ทางจิตใจของเขาเอง
ความเจ็บปวดที่ความโดดเดี่ยว
แม้เขาจะดูเข้มแข็ง และแน่วแน่ แต่เชนมีความโดดเดี่ยวอย่างลึกซึ้ง เนื่องจากการกระทำของเขา ทำให้เขาถูกขับไล่โดยครอบครัว เขาพยายามเติมเต็มความว่างเปล่านั้น ด้วยการพิชิตอำนาจ
ความอาฆาตที่ไม่ยอมปล่อยวาง
เชนไม่ยอมรับความผิดพลาดในอดีต และปฏิเสธที่จะเปลี่ยนแปลงตนเอง เขามองการทำลายล้าง ว่าเป็นหนทางเดียว ที่จะหลีกหนีคำทำนาย
นกยูงเชน ในการเผชิญหน้ากับโป เป็นมากกว่าการต่อสู้ทางกายภาพ เพราะมันสะท้อนถึงการปะทะกัน ของสองตัวละคร ที่มีพื้นฐานชีวิตแตกต่างกัน อย่างสิ้นเชิง เชนเป็นตัวแทนของความโกรธแค้น ความกลัว และความยึดติดกับอดีต ขณะที่โปเป็นตัวแทนของการให้อภัย การปลดปล่อยตัวเองจากอดีต และการค้นพบความสงบในจิตใจ
เมื่อทั้งสองพบกัน เชนใช้ทั้งความฉลาด ด้านกลยุทธ์ และอาวุธที่ทรงพลัง เพื่อพยายามบดขยี้โป โดยเฉพาะปืนใหญ่ ที่เป็นผลงานสร้างสรรค์ของเขา เชนไม่เพียงแต่อาศัยพละกำลัง แต่ยังใช้คำพูด และความจริงเกี่ยวกับอดีตของโป เพื่อพยายามบั่นทอนจิตใจของเขา โปเองในช่วงแรกก็ลังเล และอ่อนแอเมื่อรู้ว่าเชน คือผู้ที่ทำลายเผ่าพันธุ์ของเขา
ในความแตกต่างระหว่างทั้งสอง อยู่ที่วิธีการรับมือกับอดีต เชนถูกครอบงำด้วยความกลัว และปฏิเสธที่จะเปลี่ยนแปลง เขายึดมั่นในความเชื่อที่ว่าพลัง และอำนาจคือหนทาง สู่การควบคุมชะตากรรม ขณะที่โปเลือกที่จะเรียนรู้จากอดีต และความสามารถในการเข้าถึง Inner Peace ทำให้โปสามารถควบคุมพลังของเขา และพลิกสถานการณ์ได้ [2]
เชนพ่ายแพ้ให้กับตัวเองในท้ายที่สุด มากกว่าที่จะพ่ายแพ้ให้กับโป เพราะเขาปฏิเสธ ที่จะยอมรับความผิดพลาด และไม่ยอมเปลี่ยนแปลง แม้ในช่วงสุดท้าย เขายังคงโจมตีต่อไป จนกระทั่งอาวุธของเขา ทำลายตัวเขาเอง ขณะที่โปยืนหยัดด้วยหัวใจที่สงบ และเข้มแข็ง กลายเป็นภาพสะท้อนที่ชัดเจน ของความต่างระหว่างการยอมรับ และการปฏิเสธอดีต
เรื่องราวของคำทำนาย เกี่ยวกับ “นักรบขาวดำ” ใน Kung Fu Panda 2 มีความเกี่ยวโยงอย่างชัดเจนกับปรัชญา หยินหยาง ของจีน ซึ่งเป็นหนึ่งในแนวคิดพื้นฐาน ทางปรัชญา และจิตวิญญาณของวัฒนธรรมจีน ปรัชญานี้เน้นถึงความสมดุล ของสองพลังที่ตรงข้ามกัน ในธรรมชาติ เช่น ความมืด และแสง ความแข็งแกร่ง และความอ่อนโยน
ในกรณีของภาพยนตร์ คือ สีดำและสีขาว ที่สื่อผ่านตัวเอกอย่าง โปแพนด้า ในหยินหยาง สีดำ (หยิน) มักสื่อถึงความสงบ ความเย็น ส่วนสีขาว (หยาง) สื่อถึงพลัง ความร้อน และตัวละครของโปที่เป็นทั้ง “สีขาวและสีดำ” จึงสามารถมองได้ว่า เป็นการรวมสองพลังนี้เข้าด้วยกัน ซึ่งทำให้เขา สามารถค้นพบความสมดุล ในจิตใจเพื่อเอาชนะเชนได้
คำทำนายที่ว่า “นักรบขาวดำจะมาล้มล้างเชน” อาจเป็นการตีความปรัชญานี้ ให้เป็นรูปธรรม โดยแสดงให้เห็นว่า เชนผู้ยึดติดกับความทะเยอทะยาน และพลังหยาง (พลังแห่งความร้อน และการทำลาย) ไม่สามารถควบคุม ความสมดุลในตัวเองได้ ในขณะที่โปเรียนรู้ที่จะรวมหยิน และหยางในตัวเขา เข้าด้วยกัน ทำให้สามารถเอาชนะเชนได้ในที่สุด [3]
สรุป นกยูงเชน ไม่ได้เป็นแค่ตัวร้ายที่โปต้องเอาชนะ แต่เขายังเป็นตัวแทนของความหวาดกลัว และความยึดติดกับอดีต ในตอนจบของเรื่อง เชนเลือกที่จะเดินบนเส้นทาง แห่งการทำลายล้างจนถึงที่สุด เชนคือผลของการไม่ยอมปล่อยวาง และการปล่อยให้ความกลัวครอบงำชีวิต แต่เขาก็เป็นตัวเพิ่มความดราม่า ให้กับเรื่องได้อย่างยอดเยี่ยม