ตำนาน เทพบาสเตต ความเกี่ยวข้องของแมวในอียิปต์โบราณ

ตำนาน เทพบาสเตต

ตำนาน เทพบาสเตต (Bastet) หรือ “บาสต์” (Bast) เป็นเทพีแห่งสงคราม การปกป้อง ความรัก ความอุดมสมบูรณ์ ดนตรี และการรักษาในอียิปต์โบราณ เทพีองค์นี้มักถูกพรรณนาว่า มีร่างเป็นหญิงสาวแต่มีศีรษะเป็นแมว หรือบางครั้ง ก็ปรากฏในร่างของแมวเต็มตัว โดยเฉพาะแมวเพศเมีย

ตำนาน เทพบาสเตต ในช่วงยุคแรกของอียิปต์โบราณ

ในช่วงยุคแรกของอียิปต์โบราณ เทพบาสเตตมีลักษณะดุร้าย และเกี่ยวข้องกับสงครามคล้ายกับ เทพีเซคเมต (Sekhmet) ซึ่งเป็นเทพีแห่งสงคราม และการทำลายล้าง มีศีรษะเป็นสิงโตเพศเมีย

เทพบาสเตตในยุคแรก เทพีแห่งสงคราม และการลงทัณฑ์

  • ในอียิปต์ยุคโบราณตอนต้น (ราว 3,000 ปีก่อนคริสต์ศักราช) เทพบาสเตตถูกมองว่า เป็นเทพีแห่งสงครามที่ดุร้าย มีบทบาทปกป้องฟาโรห์ในการรบ เช่นเดียวกับเทพีเซคเมต
  • บางตำนานกล่าวว่า เทพบาสเตตเป็นร่างแยกของเซคเมต และทั้งสอง อาจเคยเป็นเทพีองค์เดียวกันมาก่อน สัญลักษณ์ของบาสเตตในช่วงนี้ มักเป็นสิงโตเพศเมีย ซึ่งเป็นสัตว์นักล่าที่ทรงพลัง

การเปลี่ยนแปลงในยุคกลาง จากสิงโตสู่แมวบ้าน

เมื่อเวลาผ่านไป บทบาทของเทพบาสเตตเริ่มเปลี่ยนไป โดยเฉพาะในช่วงอาณาจักรใหม่ (New Kingdom, ราว 1,500 ปีก่อนคริสต์ศักราช) จากเทพีสงคราม บาสเตตกลายเป็นเทพีแห่งการปกป้อง ความอุดมสมบูรณ์ และความรัก

สัญลักษณ์เปลี่ยนจากสิงโต เป็นแมวบ้าน ซึ่งสะท้อนถึงความสงบ และความอ่อนโยนมากขึ้น เชื่อกันว่าแมวสามารถขจัดพลังงานชั่วร้าย และให้ความอบอุ่นแก่ครอบครัว จึงทำให้ภาพลักษณ์ของบาสเตต เปลี่ยนไปตามยุคสมัย

เทพบาสเตตในยุคปลาย เทพีแห่งบ้านเรือนและความสุข

เทพบาสเตตกลายเป็นเทพีแห่งครอบครัว การปกป้องเด็ก และการรักษาโรคภัย นอกจากการเป็นผู้พิทักษ์แล้ว ยังถูกมองว่าเป็นเทพีแห่งดนตรี การเต้นรำ และความสนุกสนาน

ในวิหารหลักของเทพบาสเตต ที่เมืองบุบัสติส (Bubastis) กลายเป็นศูนย์กลาง ของเทศกาลเฉลิมฉลองที่ยิ่งใหญ่ แมวกลายเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ และชาวอียิปต์ นิยมเลี้ยงแมว เพื่อให้ได้รับพรจากเทพบาสเตต

บทบาทของแมวในอียิปต์โบราณ

ตำนาน เทพบาสเตต

แมว ถือเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ในอียิปต์และ เรื่องจริงของแมว ที่ช่วยควบคุมประชากรหนูและงู ซึ่งเป็นภัยต่อแหล่งเก็บอาหาร ของชาวอียิปต์ แมวยังถูกมองว่า เป็นสัตว์ที่มีพลังปกป้องมนุษย์ จากพลังงานชั่วร้าย [1]

ความเชื่อที่เกี่ยวข้องกับแมว

  • แมวเป็นสัตว์แห่งเทพบาสเตต – ชาวอียิปต์เชื่อว่าแมว เป็นตัวแทนของเทพีบาสเตต หากมีแมวอยู่ในบ้าน บ้านนั้นจะได้รับการปกป้อง จากพลังงานด้านลบ
  • ห้ามฆ่าแมวโดยเด็ดขาด – ในอียิปต์โบราณ การฆ่าแมวแม้โดยอุบัติเหตุ ถือเป็นอาชญากรรมร้ายแรง ที่มีโทษถึงตาย [2]
  • แมวในบ้านถือเป็นเครื่องรางนำโชค – ครอบครัวใดมีแมวอยู่ในบ้าน จะได้รับพรให้มีความมั่งคั่ง และปลอดภัยจากภูตผี
  • การทำมัมมี่แมว – เมื่อแมวเสียชีวิต ชาวอียิปต์มักทำพิธีกรรมฝังศพ อย่างเป็นทางการ และบางครั้ง ถึงกับทำมัมมี่แมว เพื่อเป็นการแสดงความเคารพ

วิหารบูชาเทพบาสเตต และการบูชาแมว

ตำนาน เทพบาสเตต

หนึ่งในวิหารที่สำคัญที่สุดของเทพบาสเตต ตั้งอยู่ที่เมืองบุบัสติส (Bubastis) ซึ่งเป็นศูนย์กลางการบูชาเทพีบาสเตต ภายในวิหาร มีรูปปั้นแมวจำนวนมาก และมีการเลี้ยงแมว ไว้เพื่อเป็นตัวแทนของเทพี [3]

ทุกปีจะมีเทศกาลเฉลิมฉลอง บูชาเทพบาสเตต โดยชาวอียิปต์จากทั่วประเทศ จะมารวมตัวกัน ที่เมืองบุบัสติส พวกเขาจะดื่มไวน์ เต้นรำ และร้องเพลง เพื่อเป็นเกียรติแก่เทพี

ความเชื่อเรื่องแมว ในชีวิตหลังความตาย

ชาวอียิปต์โบราณเชื่อว่า หากพวกเขาปฏิบัติต่อแมวอย่างดี วิญญาณของพวกเขา จะได้รับการคุ้มครอง ในชีวิตหลังความตาย หลายครอบครัวนิยมฝังมัมมี่แมว ไปพร้อมกับศพของเจ้าของ เพื่อให้แมว ช่วยนำทางดวงวิญญาณ สู่โลกหลังความตาย

ชาวอียิปต์โบราณ ให้ความสำคัญกับแมวอย่างมาก และเมื่อแมวในบ้านเสียชีวิต ครอบครัวจะจัดพิธี ทำมัมมี่เพื่อเป็นเกียรติแก่พวกมัน และในหลายกรณี เจ้าของอาจนำมัมมี่แมว ไปฝังร่วมกับตัวเอง เพื่อให้แมวเป็นผู้คุ้มครอง ดวงวิญญาณของพวกเขา ในโลกหลังความตาย

สรุป แมวคือตัวแทนของเทพีบาสเตต

สรุป ตำนานเทพบาสเตต เป็นเทพีที่เกี่ยวข้องกับแมว และมีบทบาทสำคัญ ในอียิปต์โบราณ แมวถือเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ และเป็นตัวแทนของเทพีบาสเตต ทำให้พวกมัน ได้รับการเคารพบูชาอย่างสูง การบูชาแมว และเทพบาสเตต ไม่เพียงแต่เป็นเรื่องของความเชื่อ แต่ยังสะท้อนถึงวิถีชีวิต และวัฒนธรรมของชาวอียิปต์โบราณ ที่ให้ความสำคัญกับสัตว์ชนิดนี้

การเปลี่ยนแปลงของเทพบาสเตต จากนักรบสู่ผู้พิทักษ์

การเปลี่ยนแปลงของเทพบาสเตต สะท้อนถึงวิวัฒนาการ ของสังคมอียิปต์โบราณ ที่ค่อยๆเปลี่ยนจากยุคสงคราม สู่ยุคแห่งความสงบ และศิลปวัฒนธรรม แมวซึ่งเคยเป็นเพียง นักล่าหนูในยุ้งข้าว กลับกลายเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ ที่ได้รับการเคารพบูชาอย่างสูง ซึ่งสะท้อนถึงพลังแห่งการปกป้อง และความสมดุล ในชีวิตของชาวอียิปต์โบราณ

การฝังมัมมี่แมวไปพร้อมศพเจ้าของ หมายถึงแมวต้องถูกฆ่าหรือเปล่า ?

ในอียิปต์โบราณ การฝังมัมมี่แมว ไปพร้อมกับศพของเจ้าของ ไม่ได้หมายความว่าแมวต้องถูกฆ่าเสมอไป แต่ในบางกรณี อาจมีการเสียสละแมว เพื่อเป็นเครื่องบูชา แก่เทพบาสเตต

กรณีการเสียสละแมวเพื่อบูชาเทพบาสเตต

  • ในช่วงปลายของยุคอียิปต์โบราณ โดยเฉพาะช่วงราชวงศ์ที่ 22 เป็นต้นไป (ราว 945-715 ปีก่อนคริสต์ศักราช) มีหลักฐาน ว่ามีการเพาะเลี้ยงแมวจำนวนมาก เพื่อใช้ในพิธีกรรมทางศาสนา
  • นักโบราณคดีพบมัมมี่แมวจำนวนมาก ในวิหารของเทพบาสเตต ที่เมืองบุบัสติส ซึ่งบ่งชี้ว่าอาจมีการฆ่าแมว เพื่อใช้เป็นเครื่องบูชา อย่างไรก็ตาม การเสียสละแมวเหล่านี้ มักเกี่ยวข้อง กับพิธีกรรมทางศาสนาโดยตรง และไม่ได้เป็นธรรมเนียมปกติ ในการฝังศพของเจ้าของ

โดยทั่วไปแล้ว ชาวอียิปต์โบราณไม่ได้ฆ่าแมว เพื่อนำไปฝังกับเจ้าของโดยตรง แต่ถ้าเป็นพิธีกรรมทางศาสนา อาจมีการเสียสละแมว เพื่อบูชาเทพบาสเตต อย่างไรก็ตาม แมวเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ ที่ได้รับความเคารพอย่างสูง ดังนั้น การฆ่าแมวโดยไม่มีเหตุผลทางศาสนา ถือเป็นอาชญากรรมที่ร้ายแรง ในอียิปต์โบราณ

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง