
ควายมูร่าห์ (Murrah Buffalo) เป็นหนึ่งในสายพันธุ์ควายนม ที่ได้รับการยอมรับ มากที่สุดในโลก ด้วยต้นกำเนิด จากแคว้นปัญจาบ และรัฐหรยาณา ในประเทศอินเดีย ควายสายพันธุ์นี้ ไม่เพียงโดดเด่น ในเรื่องความสามารถ ในการผลิตน้ำนมสูงเท่านั้น แต่ยังเป็นที่ชื่นชอบ ในด้านความทนทาน และการปรับตัว เข้ากับสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ได้ดีอีกด้วย
ควายมูร่าห์ มีลำตัวสีดำ หรือดำอมเทา มีลักษณะเขาสั้น และโค้ง เป็นรูปพระจันทร์เสี้ยว ลำตัวหนา แข็งแรง โดยทั่วไปแล้ว วัวตัวผู้มีน้ำหนัก ประมาณ 500-550 กิโลกรัม และวัวตัวเมีย มีน้ำหนัก ประมาณ 400-450 กิโลกรัม และมีโครงสร้างที่สมส่วน ซึ่งสะท้อนถึงสุขภาพที่ดี
ลักษณะเด่นนี้ ช่วยให้ควายมูร่าห์ สามารถเคลื่อนไหว ได้อย่างคล่องตัว และทนทาน ต่อการทำงานหนัก นอกจากนี้ ขนาดตัวที่ใหญ่ และกล้ามเนื้อที่แข็งแรง ยังเป็นปัจจัยสำคัญ ที่ทำให้ควายมูร่าห์ สามารถผลิตน้ำนม ในปริมาณมาก และมีสุขภาพดี ตลอดอายุการใช้งาน [1]
ควายมูร่าห์เป็นที่รู้จัก ในฐานะ “เครื่องผลิตน้ำนม” เนื่องจากสามารถ ให้น้ำนมได้มากถึง 6-8 ลิตรต่อวัน หรือในบางกรณี อาจมากถึง 10-15 ลิตรต่อวัน ปริมาณน้ำนมที่สูงนี้ เกิดจากความสามารถ ทางพันธุกรรมที่โดดเด่น ประกอบกับการเลี้ยงดู ที่เหมาะสม
น้ำนมของควายมูร่าห์ มีปริมาณไขมันสูง ประมาณ 7-8% ซึ่งเหมาะสำหรับ การผลิตเนย ชีส และผลิตภัณฑ์นมอื่น ๆ คุณสมบัตินี้ ช่วยเพิ่มมูลค่า ให้กับผลผลิต และส่งเสริมรายได้ ของผู้เลี้ยงควาย อย่างมีนัยสำคัญ [2]
ควายมูร่าห์มีความสามารถ ในการปรับตัว เข้ากับสภาพอากาศร้อน และทนต่อโรคได้ดีเยี่ยม คุณลักษณะนี้ ช่วยให้สามารถ เลี้ยงในพื้นที่ ที่มีสภาพอากาศหลากหลาย เช่น เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ลาตินอเมริกา และตะวันออกกลาง
ควายมูร่าห์ยังมีความสามารถ ในการบริโภคอาหาร หลากหลายประเภท เช่น หญ้าธรรมชาติ ฟาง และอาหารเสริม ซึ่งช่วยลดต้นทุนการเลี้ยง และเพิ่มประสิทธิภาพ ในการผลิต นอกจากนี้ ความทนทาน ของควายมูร่าห์ ยังเป็นเหตุผลหลัก ที่ทำให้เกษตรกร ในหลายภูมิภาค เลือกเลี้ยงสายพันธุ์นี้ ในฐานะส่วนสำคัญ ของการดำรงชีพ
ควายมูร่าห์ ถือได้ว่าเป็น สัตว์เลี้ยงสร้างอาชีพ ในประเทศไทย เริ่มได้รับความสนใจมากขึ้น ในกลุ่มเกษตรกร และผู้เลี้ยงควาย เพื่อผลิตน้ำนม เนื่องจากสามารถ เพิ่มผลผลิตน้ำนม ให้สูงกว่าควายพื้นเมือง อีกทั้งการผสมพันธุ์ ระหว่างควายมูร่าห์ กับควายท้องถิ่น ยังช่วยพัฒนาคุณภาพ สายพันธุ์ให้แข็งแรง และเหมาะสม กับสภาพแวดล้อม ในประเทศ
การเลี้ยงควายมูร่าห์ จึงมีศักยภาพ ในการสนับสนุน อุตสาหกรรมนมของไทย และยกระดับรายได้ ของเกษตรกร ในชนบทอีกด้วย
ควายมูร่าห์ไม่เพียงแค่ ได้รับความนิยมในอินเดีย แต่ยังถูกนำไปเลี้ยง ในหลายประเทศทั่วโลก เช่น บราซิล ฟิลิปปินส์ ไทย และปากีสถาน โดยส่วนใหญ่ ถูกนำมาใช้ในการผลิตน้ำนม ที่มีคุณภาพสูง นอกจากนี้ ยังมีบทบาทสำคัญ ในการพัฒนา สายพันธุ์ควายท้องถิ่น ในพื้นที่ต่าง ๆ
โดยการผสมพันธุ์ กับควายท้องถิ่น ช่วยเพิ่มปริมาณน้ำนม พร้อมทั้งปรับปรุงคุณภาพ ของน้ำนมให้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วย เพิ่มความแข็งแรง และความทนทาน ของควายในท้องถิ่น ซึ่งเป็นประโยชน์ ต่อการเลี้ยงในระยะยาว และช่วยสร้างความมั่นคง ทางเศรษฐกิจ ให้กับชุมชนเกษตรกร ในหลายพื้นที่
การเลี้ยงควายมูร่าห์ ต้องให้ความสำคัญ กับการจัดหาอาหาร ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง เช่น หญ้า ฟาง และอาหารข้นเสริม เพื่อให้ควาย ได้รับพลังงาน และสารอาหาร ที่เพียงพอ ต่อการผลิตน้ำนม อีกทั้งควายมูร่าห์ ยังต้องการน้ำสะอาด ในปริมาณมาก เพื่อคงสภาพร่างกาย และเพิ่มประสิทธิภาพ การผลิตน้ำนม
การดูแลด้านสุขภาพ ก็มีความสำคัญอย่างยิ่ง เช่น การตรวจสุขภาพประจำปี การฉีดวัคซีนป้องกันโรค และการรักษาความสะอาด ของคอกควาย สิ่งเหล่านี้ ช่วยลดความเสี่ย จากโรคต่าง ๆ และส่งผลให้ควาย มีสุขภาพดี ผลผลิตสูง และอายุการใช้งาน ที่ยาวนานขึ้น [3]
สรุป ควายมูร่าห์ ถือเป็นทรัพย์สินที่มีค่า ในวงการเกษตรกรรม ด้วยคุณสมบัติ ที่โดดเด่น ในการผลิตน้ำนม และความสามารถ ในการปรับตัวได้ดี ควายสายพันธุ์นี้ จึงเป็นที่นิยมทั่วโลก หากประเทศไทย มีการส่งเสริม การเลี้ยงควายมูร่าห์ อย่างจริงจัง อาจช่วยเพิ่มศักยภาพ ในอุตสาหกรรมนม และการพัฒนาคุณภาพชีวิต ของเกษตรกร ในพื้นที่ชนบท ได้อย่างยั่งยืน