คราเคน (Kraken) เป็นสัตว์ประหลาดในตำนาน ของชาวนอร์ส และสแกนดิเนเวีย ที่เชื่อกันว่าอาศัยอยู่ในทะเลลึก ในมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ สัตว์ประหลาดขนาดมหึมา ลักษณะคล้ายปลาหมึกยักษ์ ที่สามารถใช้หนวดอันทรงพลัง เพื่อจับเรือ และลากลงไปในทะเลลึก เป็นตำนานในเรื่องเล่า ของชาวประมงนอร์สในศตวรรษที่ 12 ที่ต้องเผชิญกับการล่องเรือ ในท้องทะเลอันกว้างใหญ่ ซึ่งเต็มไปด้วยอันตราย และสิ่งลี้ลับมากมาย
คราเคน (Kraken) เป็นตำนาน ที่ถูกบันทึกครั้งแรก ในบันทึกของ เอริค โปนตอปปิดาน (Erik Pontoppidan) นักประวัติศาสตร์ และธรรมชาติวิทยา ชาวเดนมาร์กในศตวรรษที่ 18 เขาได้เขียนถึงคราเคน ในฐานะสัตว์ประหลาดในทะเล ถ้ามีจริงๆก็ถือว่าเป็น สัตว์ทะเลขนาดใหญ่ ที่สามารถสร้างความเสียหาย ต่อเรือ และสิ่งปลูกสร้างทางทะเลได้ นอกจากนี้ ยังมีเรื่องเล่าว่า คราเคนบางครั้งถูกเข้าใจผิด ว่าเป็นเกาะ เนื่องจากขนาดที่ใหญ่มาก จนเรือบางลำ พยายามจะจอดที่ตัวของมัน [1]
คราเคนมีขนาดใหญ่โตมาก โดยเรื่องเล่าของชาวนอร์ส ระบุว่ามันมีความใหญ่ และยาว อาจยาวได้ถึง 12–15 เมตร (40–50 ฟุต)ซึ้งพอที่จะห้อมล้อมเรือรบได้ทั้งลำ ลักษณะของคราเคน มักถูกอธิบายว่า เป็นเหมือนปลาหมึกยักษ์ หรือสิ่งมีชีวิตลูกผสม ระหว่างหมึกและปูขนาดมหึมา มีหนวดอันทรงพลัง ที่สามารถดึงเรือขนาดใหญ่ ลงสู่ก้นทะเล หนวดของมันยาว และเต็มไปด้วยหนามแหลม ซึ่งใช้ในการจับเหยื่อ หรือห่อหุ้มเรือ
คราเคนกลายเป็นสัญลักษณ์ ของสัตว์ประหลาดทะเล ในวรรณกรรม และภาพยนตร์มากมาย หนึ่งในตัวอย่างที่โดดเด่น คือในนิยายเรื่อง “20,000 Leagues Under the Sea” ของ จูลส์ เวิร์น (Jules Verne) ที่กล่าวถึงการเผชิญหน้า กับปลาหมึกยักษ์ขนาดมหึมา ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากคราเคน [2]
ในภาพยนตร์ Pirates of the Caribbean: Dead Man’s Chest คราเคนถูกนำเสนอในฐานะสัตว์ประหลาดยักษ์ ที่ทำลายเรือ และกลืนกินลูกเรือทั้งลำ คราเคนในเรื่องนี้ถูกควบคุมโดย เดวี โจนส์ (Davy Jones) ซึ่งเป็นตัวละครที่เชื่อมโยง กับความลึกลับของท้องทะเล
นอกจากนี้ ในเกมและการ์ตูน คราเคนยังถูกนำมาเป็นตัวละคร สัตว์ประหลาดในหลายๆ เรื่อง เช่น เกม “The Witcher” และการ์ตูน “Attack on Titan” ที่มีการปรับใช้ภาพลักษณ์ ของสัตว์ประหลาดทะเล ในหลากหลายรูปแบบ
คราเคน (Kraken) แม้ว่าจะเป็นสัตว์ประหลาด ในตำนาน แต่ปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า คราเคนอาจเป็นสิ่ง ที่ได้รับแรงบันดาลใจ มาจากปลาหมึกยักษ์ (Giant Squid) ที่อาศัยอยู่ในทะเลลึก ปลาหมึกยักษ์เหล่านี้ สามารถเติบโตได้ถึงขนาด 12–14 เมตร ซึ่งขนาดที่ใหญ่เช่นนี้ อาจทำให้ชาวประมงในอดีต หวาดกลัว และนำไปสู่การสร้างตำนานคราเคนขึ้น [3]
ปลาหมึกยักษ์ในปัจจุบัน เป็นสัตว์ที่หายาก และยากที่จะพบเจอในธรรมชาติ แต่มันเคยถูกพบ ในหลายกรณี ที่ปลาหมึกยักษ์เหล่านี้ โจมตีเรือ หรือทำให้เกิดความเสียหายต่อเรือประมง ซึ่งอาจเป็นสาเหตุ ที่ทำให้ตำนานคราเคนเกิดขึ้น
คราเคนมีตำนาน ที่ปรากฏในหลายวัฒนธรรม โดยเฉพาะในภูมิภาค ที่เกี่ยวข้องกับการเดินเรือทะเลลึก แม้ว่าคราเคน จะมีรากฐานมาจากสแกนดิเนเวีย แต่การเล่าถึงสัตว์ประหลาด ในทะเลขนาดใหญ่ ก็มีให้เห็นในหลายวัฒนธรรมทั่วโลก และแต่ละที่ มีการบรรยายที่แตกต่างกันออกไปเล็กน้อย
ในวัฒนธรรมญี่ปุ่น มีสัตว์ประหลาดทะเล คล้ายกับคราเคนที่เรียกว่า อิคุจิ (Ikuchi) ซึ่งเป็นสัตว์ทะเลขนาดใหญ่ ที่มีลักษณะคล้ายกับปลาหมึกยักษ์ อิคุจิจะเลื้อยผ่านเรือ ที่แล่นอยู่ในทะเล และใช้ร่างกายของมัน พันรอบเรือ ทำให้เรือจมลง อิคุจิถูกบรรยายว่า มีร่างกายลื่นเป็นเมือก ซึ่งหากเรือล่องผ่าน จะทำให้เกิดน้ำหนักมหาศาล ที่ทำให้เรือจม
นอกจากอิคุจิแล้ว ตำนานญี่ปุ่น ยังมีสัตว์ประหลาดน้ำชนิดอื่น ๆ เช่น อุมิบอซุ (Umibōzu) ซึ่งเป็นยักษ์ทะเล ที่สร้างความหวาดกลัว ให้กับนักเดินเรือ อุมิบอซุมีขนาดใหญ่ จนสามารถทำลายเรือ ด้วยการเพียงปรากฏตัว คล้ายกับการปรากฏตัว ของคราเคน
สรุป คราเคน เป็นตำนาน ที่เล่าต่อกันมาอย่างยาวนาน และยังคงมีบทบาท ในวัฒนธรรมร่วมสมัย แม้ว่าตำนานของคราเคน จะดูน่ากลัว แต่มันยังคงเป็นสัญลักษณ์ ของความลี้ลับ และพลังของธรรมชาติ ที่ยังไม่สามารถอธิบาย ได้อย่างชัดเจน คราเคนแสดงให้เห็น ถึงความหวาดกลัวของมนุษย์ ต่อทะเลลึก ที่ไม่สามารถรู้ได้ว่า มีอะไรอาศัยอยู่บ้าง ทั้งนี้มันยังคงมีบทบาทสำคัญ ในสื่อบันเทิง และวรรณกรรมในปัจจุบัน สะท้อนให้เห็นถึงพลัง ของตำนานที่ยังคงอยู่ และพัฒนาไปตามกาลเวลา