
การใช้ชีวิต ยีราฟ เรติคูเลต (Giraffa reticulata) สายพันธุ์ยีราฟ ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดดเด่นด้วยลายตาราง สีขาวคมชัด บนพื้นสีน้ำตาลแดง พบได้ในพื้นที่แห้งแล้ง ในภูมิภาคแอฟริกาตะวันออก เช่น ทางตอนเหนือของเคนยา โซมาเลีย การดำเนินชีวิต ของยีราฟเรติคูเลต มีความน่าสนใจ และเชื่อมโยงอย่างลึกซึ้ง กับระบบนิเวศของมันเป็นอย่างมาก
ยีราฟเรติคูเลต มักอาศัยอยู่ในพื้นที่ ที่มีทุ่งหญ้าสะวันนา และพุ่มไม้หนาแน่น เหมือนกันกับ ยีราฟบูเบีย พื้นที่ดังกล่าว มักมีต้นไม้สูง เช่น ต้นอะคาเซีย ซึ่งเป็นแหล่งอาหารหลัก ของพวกมัน สภาพแวดล้อมที่ร้อน และแห้งแล้ง
ในพื้นที่เหล่านี้ ส่งผลให้ยีราฟ มีพฤติกรรมที่ปรับตัว เพื่อความอยู่รอด เช่น การดื่มน้ำให้น้อยที่สุด เนื่องจากพวกมัน สามารถรับน้ำจากใบไม้ ที่กินได้
การจำแนกประเภททางวิทยาศาสตร์
ที่มา: “Reticulated giraffe” [1]
ยีราฟเรติคูเลต มักอาศัยอยู่ในฝูงเล็กๆ ที่มีจำนวนสมาชิก ประมาณ 10-20 ตัว แต่โครงสร้างฝูงไม่คงที่ สมาชิกในฝูง สามารถเปลี่ยนไป ตามเวลา และสถานการณ์ต่างๆ โดยปกติแล้ว จะมีทั้งตัวผู้ ตัวเมีย และลูกยีราฟ ในกลุ่มเดียวกัน แต่ตัวผู้มักออกหากินลำพัง หรืออยู่ในกลุ่มตัวผู้ด้วยกัน เมื่อเข้าสู่วัยโตเต็มที่
อาหารหลัก ของยีราฟเรติคูเลต คือต้นไม้สูง เช่น อะคาเซีย คอมมิฟอรา และเทอร์มินาเลีย โดยพวกมันจะใช้ลิ้น ที่ยาวถึง 45-50 ซม. เพื่อม้วนใบไม้ และยอดอ่อนจากกิ่งไม้ ลิ้นของยีราฟ มีความหยาบ และทนทานต่อหนาม ของต้นอะคาเซีย
ซึ่งช่วยให้พวกมัน สามารถกินอาหาร ได้อย่างปลอดภัย ยีราฟยังมีกลไกการย่อยอาหาร ที่มีประสิทธิภาพ ทำให้สามารถย่อยอาหาร ที่มีเส้นใยสูงได้ดี
ยีราฟเรติคูเลต เป็นสัตว์ที่ออกหากิน ในเวลากลางวัน แต่จะเน้นกินอาหาร ในช่วงเช้า และเย็น เพื่อหลีกเลี่ยงความร้อน ในช่วงกลางวัน เมื่อไม่ได้หาอาหาร พวกมันมักพักผ่อน ในพื้นที่ร่ม หรือนอนหลับ เป็นช่วงเวลาสั้นๆ ประมาณ 4-6 ชั่วโมงต่อวัน การนอนหลับของยีราฟ มักอยู่ในท่านั่ง โดยพับขาไว้ใต้ลำตัว หรือบางครั้งจะนอนเหยียดตัว
เมื่อยีราฟตัวผู้ พร้อมที่จะผสมพันธุ์ มันจะแสดงพฤติกรรม ที่เรียกว่า เฟลเมน (flehmen) โดยจะพับ ริมฝีปากบน ขึ้นเพื่อแสดงฟัน ให้ตัวเมียเห็น หลังการผสมพันธุ์ ตัวเมียจะตั้งครรภ์นาน ประมาณ 15 เดือน และออกลูกครั้งละ 1 ตัว
ลูกยีราฟที่เกิดใหม่ จะมีความสูงประมาณ 1.8 เมตร และสามารถเดินได้ ภายในไม่กี่ชั่วโมงหลังคลอด แม่ยีราฟมีบทบาทสำคัญ ในการดูแล และปกป้องลูก จากนักล่า เช่น สิงโต และไฮยีน่า โดยลูกยีราฟ จะอยู่ใกล้ชิดกับแม่ ต่อไปอีก 14 ถึง 22 เดือน [2]
ยีราฟเรติคูเลต มีบทบาทสำคัญ ในวัฒนธรรม และระบบนิเวศ ในแอฟริกา แต่พวกมันต้องเผชิญ กับภัยคุกคาม หลายประการ เช่น การล่าสัตว์ การสูญเสียถิ่นที่อยู่อาศัย จากการพัฒนาเกษตรกรรม และความขัดแย้ง ระหว่างมนุษย์ กับสัตว์ การลดลง ของจำนวนประชากรทำให้ยีราฟเรติคูเลต ถูกจัดให้อยู่ในสถานะ “ใกล้สูญพันธุ์” (Endangered) โดย IUCN [3]
สรุป ยีราฟเรติคูเลต เป็นสัตว์ที่สง่างาม และมีบทบาทสำคัญ ในระบบนิเวศ ของแอฟริกาตะวันออก การใช้ชีวิตของพวกมัน แสดงถึงความสามารถ ในการปรับตัว ในธรรมชาติ แม้ว่าจะต้องเผชิญ กับความท้าทาย หลายประการ การอนุรักษ์ และการสร้างความตระหนักรู้ เกี่ยวกับยีราฟชนิดนี้ จะช่วยให้พวกมัน ยังคงมีบทบาทสำคัญ ในระบบนิเวศ และวัฒนธรรม ของโลกต่อไป
ยีราฟเรติคูเลต ดื่มน้ำน้อยมาก เพราะพวกมันได้รับน้ำ ส่วนใหญ่จากใบไม้ที่กิน ทำให้สามารถ อยู่ได้ในสภาพแห้งแล้ง เป็นเวลานาน
ลายตารางบนตัว ช่วยในการพรางตัว จากนักล่า โดยลายดังกล่าว ช่วยให้ยีราฟกลมกลืน กับแสงและเงา ของต้นไม้ ในธรรมชาติ